พบผลลัพธ์ทั้งหมด 91 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 555/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิและบุตรจากการฉุดคร่าโดยชอบด้วยกฎหมาย: เหตุป้องกันตัวที่สมควร
จำเลยเป็นมารดาของนางสาว ศ. ซึ่งถูกผู้ตายเข้าไปฉุดคร่าถึงภายในบ้าน โดยนางสาว ศ. ไม่สามารถดิ้นรนขัดขืนได้เมื่อจำเลยเข้าไปขัดขวางห้ามปรามกลับถูกผู้ตายทำร้ายจนล้มลง การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายไปในเวลาฉุกละหุก4 นัดติด ๆ กัน เป็นเพราะจำเลยไม่มีโอกาสทันพิเคราะห์ว่าผู้ตายมีอาวุธติดตัวหรือไม่ ทั้งไม่มีเวลาไตร่ตรองด้วยว่าหากใช้ปืนยิงขู่เพียงนัดเดียวจะทำให้ผู้ตายเกรงกลัวและหยุดการกระทำที่อุกอาจลงได้ ประกอบกับผู้ตายเป็นชายฉกรรจ์แข็งแรงกว่าจำเลยซึ่งเป็นหญิงและไม่มีทางเลือกที่จะป้องกันด้วยวิธีอื่น การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรณีที่จำต้องกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนและบุตรสาวให้พ้นจากการฉุดคร่าซึ่งเป็นภยันตรายอันปรากฏขึ้นเฉพาะหน้าโดยพอสมควรแก่เหตุ.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2777/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายและการใช้กำลังเกินสมควร การทำร้ายร่างกายจนเป็นอันตรายสาหัส
ผู้เสียหายเป็นชู้กับภริยาจำเลยซึ่งมิได้จดทะเบียนสมรสกันในระหว่างที่ จำเลยต้องโทษจำคุกเมื่อจำเลยพ้นโทษแล้ววันใดที่จำเลยไม่อยู่บ้านผู้เสียหาย ก็มาหลับนอนกับภริยาจำเลยที่บ้านจำเลยเช้าวันเกิดเหตุในขณะที่จำเลย กำลังเดิน เข้าบ้านผู้เสียหายได้เตะต่อยจำเลยก่อนจำเลยซึ่งมีอายุมากกว่า ผู้เสียหายมากสู้ผู้เสียหายไม่ได้จึงวิ่งไป คว้ามีดมาฟันผู้เสียหายการกระทำ ของจำเลยจึงเป็นการป้องกันสิทธิของตนให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการ ประทุษร้าย อันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงแต่จำเลย ใช้มีดทั้งด้ามและใบมีดยาว 1 ฟุต ใบมีดกว้าง 4 นิ้ว ฟันผู้เสียหาย หลายทีจนผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่ กายเป็นบาดแผลรวม 8 แห่ง แต่ไม่ถึงแก่ความตายบาดแผลที่สำคัญคือท้ายทอยยาว 15 เซนติเมตร ลึก 7 เซนติเมตรที่หน้าผากยาว 5 เซนติเมตรลึกถึงกะโหลกศีรษะ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยมีเจตนาฆ่าและเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2717/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิในทรัพย์สินเกินสมควร การยิงผู้ลักลอบตัดข้าวโพด
ผู้ตายเข้ามาลักลอบตัดฟันต้นข้าวโพดของมารดาจำเลยใน เวลากลางคืนจำเลยซึ่งอาศัยอยู่กับมารดาได้ไปพบเห็น ย่อมมีสิทธิกระทำการเพื่อป้องกันสิทธิในทรัพย์สินของมารดาได้ แต่ขณะที่จำเลยยิงผู้ตายนั้นปรากฏว่าผู้ตายถือมีดอยู่ห่างประมาณ 2 วา ยังไม่อยู่ในลักษณะพร้อมที่จะฟันทำร้ายจำเลยจำเลยยังมีทางหลบหลีกและยิงขู่ผู้ตายได้ เมื่อผู้ตายรู้ว่าจำเลยกับพวกมีอาวุธปืนย่อมจะอาศัย ความมืดหลบหนีไปดังนั้นการที่จำเลยด่วนยิงผู้ตายเสีย เช่นนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2717/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิในทรัพย์สินเกินสมควรแก่เหตุ การยิงผู้บุกรุกที่ไม่ได้เป็นอันตราย
ผู้ตายเข้ามาลักลอบตัดฟันต้นข้าวโพดของมารดาจำเลยใน เวลากลางคืนจำเลยซึ่งอาศัยอยู่กับมารดาได้ไปพบเห็น ย่อมมีสิทธิกระทำการเพื่อป้องกันสิทธิในทรัพย์สินของมารดา ได้ แต่ขณะที่จำเลยยิงผู้ตายนั้นปรากฏว่าผู้ตายถือมีดอยู่ห่างประมาณ 2 วา ยังไม่อยู่ในลักษณะพร้อมที่จะ ฟันทำร้ายจำเลยจำเลยยังมีทางหลบหลีกและยิงขู่ผู้ตาย ได้ เมื่อผู้ตายรู้ว่าจำเลยกับพวกมีอาวุธปืนย่อมจะอาศัย ความมืดหลบหนีไปดังนั้นการที่จำเลยด่วนยิงผู้ตายเสีย เช่นนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2285/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย: กรณีชักปืนข่มขู่ก่อน และถูกป้องกัน
ผู้ตายตามไปพบจำเลยและพูดขอแบ่งวัวจากจำเลย จำเลยไม่ยอมแบ่งและชวนให้ไปตกลงกันที่บ้านผู้ใหญ่บ้านหรือที่บ้านกำนัน แต่ผู้ตายไม่ยอมไป กลับชักปืนออกมาจากเอว จำเลยย่อมเข้าใจว่าผู้ตายจะใช้ปืนนั้นยิงจำเลยอันเป็น ภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงการที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายไป 1 นัดและผู้ตายถึงแก่ความตายจึงเป็นการป้องกันสิทธิของตนพอสมควรแก่เหตุการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2285/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย: การยิงเพื่อป้องกันภัยอันตรายใกล้ถึงจากการถูกทำร้าย
ผู้ตายตามไปพบจำเลยและพูดขอแบ่งวัวจากจำเลย จำเลยไม่ยอมแบ่งและชวนให้ไปตกลงกันที่บ้านผู้ใหญ่บ้านหรือที่บ้านกำนันแต่ผู้ตายไม่ยอมไป กลับชักปืนออกมาจากเอว จำเลยย่อมเข้าใจว่าผู้ตายจะใช้ปืนนั้นยิงจำเลยอันเป็น ภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็น ภยันตรายที่ใกล้จะถึงการที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายไป 1 นัด และผู้ตายถึงแก่ความตายจึงเป็นการป้องกันสิทธิของตนพอสมควรแก่เหตุการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3661/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายและการใช้กำลังป้องกันตัวเกินสมควร
ผู้ตายถือเหล็กแหลมไล่แทงจำเลยเนื่องจากโต้เถียงกันเรื่องรถยนต์ของผู้ตายที่ให้จำเลยเป็นคนขับ ถึงแม้จำเลยจะทะเลาะโต้เถียงกับผู้ตายก็ยังฟังไม่ได้ว่าสมัครใจวิวาทกัน การที่ผู้ตายถือเหล็กแหลมไล่แทงจำเลย จึงเป็นการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย ซึ่งจำเลยมีสิทธิที่จะป้องกันสิทธิของตนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 186/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิในฐานะนายเรือที่ถูกทำร้าย แม้ไม่มีอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต แต่การใช้อาวุธเกินสมควร
จำเลยเป็นกัปตันเรือบรรทุกสินค้าระหว่างประเทศ ขณะเรือกำลังแล่นอยู่ในน่านน้ำผู้ตายกับพวกซึ่งเป็นลูกเรือไม่พอใจจำเลยที่ห้ามมิให้ซื้อสินค้าเข้ามาในประเทศไทยโดยวิธีหลบหนีภาษี จึงช่วยกันยุแหย่ให้พวกช่างกลและเดินเรือหยุดงานกว่า 20 คน และตั้งวงเสพสุรากัน จำเลยขอร้องให้กลับเข้าทำงานก็ไม่เป็นผล มีผู้เตือนจำเลยว่าจะมีคนทำร้าย จำเลยถือปืนลงไปชั้นล่างสวนทางกับผู้ตายและพวกอีก 3 - 4 คน ผู้ตายจะทำร้ายจำเลย จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ ได้ความว่าแผนกช่างกลและเดินเรือมีลูกเรือแผนกละประมาณ 20 คน วันเกิดเหตุลูกเรือยอมทำงานประมาณ 15 คน และทำงานไปโดยไม่ได้ผลัดเปลี่ยน ขณะเกิดเหตุเรือยังแล่นเดินทางมาอย่างปกติ ฉะนั้น ภยันตรายที่ใกล้จะถึงอันจะเกิดแก่เรือถึงขึ้นอับปางจึงยังไม่มี การที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายจึงไม่ใช่การป้องกันมิให้เกิดอันตรายแก่เรือถึงขึ้นอับปางเพราะผู้ตายกับพวกละทิ้งหน้าที่ แต่การที่ผู้ตายกับพวกขึ้นไปพบจำเลย ผู้ตายแสดงกริยาจะเข้าทำร้ายจำเลยและร้องตะโกนให้พรรคพวกนำอาวุธไปให้ ทั้งปรากฏว่ามีพวกของจำเลยคนหนึ่งถือมีดดาบยืนอยู่ที่เชิงบันไดชั้นล่าง จำเลยเป็นนายเรือมีหน้าที่รับผิดชอบในเรือทั้งทรัพย์สินและชีวิตของลูกเรือได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อระงับเหตุร้ายที่เกิดขึ้น กลับถูกผู้ตายกับพวกจะทำร้ายจำเลยซึ่งมีแต่ตัวคนเดียว จำเลยจึงยิงผู้ตาย ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันสิทธิของตนให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงแต่ผู้ตายกับพวกที่ขึ้นไปอยู่ตรงที่เกิดเหตุไม่มีอาวุธติดตัว คงมีเพียงคนเดียวที่ถือมีดดาบอยู่ตรงเชิงบันได้ชั้นล่างห่างที่เกิดเหตุ จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายเพื่อป้องกันจึงเป็นการเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1049/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลียนแบบสลากผ้าและเจตนาหลอกลวงประชาชน การกระทำไม่เป็นละเมิดหากเป็นการกล่าวตามความจริงเพื่อป้องกันสิทธิ
โจทก์ได้เลียนแบบลายกนกสลากปิดผ้าโสร่งของจำเลยที่ 1 โดยจงใจที่จะลวงประชาชนให้หลงเชื่อว่าสินค้าผ้าโสร่งของโจทก์เป็นของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 เสียหาย การที่จำเลยนำสลากปิดผ้าของจำเลยที่ 1 ปิดในใบปลิวซึ่งประทับตราห้างของจำเลยที่ 1 คู่กับสลากปิดผ้าของโจทก์ เขียนข้อความข้างสลากของจำเลยที่ 1 ว่า 'แท้' ข้างสลากของโจทก์ว่า 'เทียม' และทำเครื่องหมายกากบาทไว้บนสลากของโจทก์ด้วย ส่งไปให้ประชาชนและร้านค้าผ้า เพียงเพื่อให้ผู้รับใบปลิวเข้าใจได้ถูกต้องว่า สลากปิดผ้าของจำเลยที่ 1 คือสลากปิดผ้าที่มีคำว่า 'แท้' อย่างข้าง ๆ ส่วนสลากปิดผ้าที่มีคำว่า 'เทียม' อยู่ข้าง ๆ นั้นเป็นสลากของเทียมไม่ใช่ของแท้ของจำเลยที่ 1 เป็นการกล่าวเกี่ยวกับสลากปิดผ้าของจำเลยที่ 1 ไปตามความจริงเพื่อให้ผู้จะซื้อผ้าโสร่งปาเต๊ะของจำเลยที่ 1 ทราบ จะได้เข้าใจถูกต้อง มิใช่เป็นการกล่าวทับถมว่า ผ้าโสร่งปาเต๊ะของโจทก์มีคุณภาพเลวและไม่ควรซื้อแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยทั้งสองยังไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ไม่เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยยิงผู้ลักแตงเกินกว่าเหตุป้องกันสิทธิ ย่อมมีเจตนาพยายามฆ่า
ผู้เสียหายกับพวกเข้าไปลักแตงในไร่ของจำเลยในเวลากลางคืน จำเลยใช้อาวุธปืน .22 ยิงผู้เสียหายขณะผู้เสียหายกับพวกวิ่งหนี ถูกที่หลังกระสุนฝังใน การที่จำเลยยิงผู้เสียหายโดยเหตุที่ผู้เสียหายลักแตง 2-3 ใบราคาเล็กน้อย กระสุนถูกที่สำคัญตรงหน้าอก ย่อมเล็งเห็นได้ว่ามีเจตนาจะฆ่า จึงเป็นการกระทำที่เกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายเพื่อป้องกันสิทธิของตนเกินสมควรแก่เหตุ