คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผิดกฎหมาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 179 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5306/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมายร่วมกัน โดยมีเจตนายึดถือครอบครองร่วมกัน แม้ผู้หนึ่งจะอ้างว่าไม่รู้
อาวุธปืนของกลางเป็นอาวุธปืนพกรีวอลเวอร์ชนิดประกอบขึ้นเองจำเลยน่าที่จะทราบดีมาตั้งแต่ต้นว่าของกลางที่ณ.ที่มาฝากเป็นของผิดกฎหมายแต่จำเลยก็ยังคงยินดีรับฝากโดยยอมให้นำมาเก็บในกระเป๋าเสื้อผ้าของตนทั้งยังนั่งรถยนต์แท็กซี่ออกจากโรงงานไปพร้อมกันแม้กระทั่งก่อนที่จะถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมเพียงเล็กน้อยเจ้าพนักงานตำรวจก็ยังเห็นจำเลยและณ.ใช้มือจับกระเป๋าเสื้อผ้าของจำเลยคนละข้างพฤติการณ์ของจำเลยและณ.ดังที่ได้กล่าวแสดงให้เห็นว่าทั้งจำเลยและณ.ต่างมีเจตนายึดถือครอบครองกระเป๋าเสื้อผ้าของจำเลยรวมทั้งอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้ามาด้วยกันตั้งแต่เริ่มขึ้นรถยนต์แท็กซี่มาด้วยกันตลอดมาจนกระทั่งถูกเจ้าพนักงานตำรวจทำการจับกุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2322/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายก๋วยเตี๋ยวผสมกัญชาถือเป็นการจำหน่ายกัญชาผิดกฎหมาย แม้ไม่มีเจตนาโดยตรง
การที่จำเลยขาย ก๋วยเตี๋ยวที่มีกัญชาเป็นส่วนผสมก็เท่ากับได้จำหน่ายกัญชานั้นให้ผู้ที่ซื้อก๋วยเตี๋ยวจากจำเลยด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7299/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการแข่งรถผิดกฎหมาย ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
ในการแข่งขับรถจักรยานยนต์หากไม่มีรถจักรยานยนต์ก็ไม่สามารถแข่งขันกันได้รถจักรยานยนต์จึงเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดในการแข่งขันรถของจำเลยศาลมีอำนาจสั่งริบรถจักรยานยนต์ของกลางตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา33(1) จำเลยฎีกาทำนองว่าศาลอุทธรณ์ภาค3ไม่ควรริบของกลางซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงแต่เนื่องจากคดีนี้ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก1เดือนปรับ4,000บาทโทษจำคุกให้รอไว้2ปีไม่ริบของกลางศาลอุทธรณ์ภาค3พิพากษาแก้เฉพาะให้ริบของกลางจึงเป็นกรณีแก้ไขเล็กน้อยห้ามคู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา218วรรคแรกศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 650/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งออกยาเสพติดผิดกฎหมาย: การพิจารณาความผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร
เฮโรอีนจำนวน3,491กิโลกรัมที่จำเลยพยายามนำหรือพาออกนอกราชอาณาจักรเป็นของที่มีไว้เป็นความผิดไม่อาจเสียภาษีได้มิใช่เป็นการนำหรือพาออกไปนอกราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากรการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากรฯมาตรา27อีกกระทงหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 284-285/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาต: ศาลฎีกายืนโทษฐานจัดหางานผิดกฎหมาย แม้ผู้เสียหายถอนฟ้องคดีฉ้อโกง
ฟ้องโจทก์บรรยายถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำผิดแยกกันมาฐานฉ้อโกงตามคำบรรยายฟ้องโจทก์ข้อก.เมื่อจะมีข้อความว่าจำเลยทั้งสองกับพวกไม่สามารถจัดให้ผู้เสียหายทั้งสี่ได้ทำงานในต่างประเทศตามที่จำเลยทั้งสองกับพวกกล่าวอ้างแต่ก็ไม่มีข้อความใดที่แสดงให้เห็นว่าจำเลยทั้งสองกับพวกไม่มีเจตนาประกอบธุรกิจจัดหางานตามที่บรรยายไว้ในข้อข.การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นความผิดฐานจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตตามฟ้อง หลังจากศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแล้วจำเลยทั้งสองยื่นฎีกาในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาเนื่องจากคดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจำเลยที่2อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาคดีข้อหาร่วมกันฉ้อโกงอยู่ในระหว่างอุทธรณ์คำสั่งต่อมาโจทก์ยื่นคำแถลงว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันคืนหรือใช้เงินแก่ผู้เสียหายทั้งสี่จึงขอถอนคำร้องทุกข์ความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา341เป็นความผิดอันยอมความได้เมื่อผู้เสียหายทั้งสี่ถอนคำร้องทุกข์สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา39(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5177/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำหน่ายยาแผนโบราณโดยไม่ขึ้นทะเบียน และหลอกลวงผู้ป่วยด้วยข้อมูลเท็จ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ยา และอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาต
จำเลยได้รับอนุญาตให้ตั้งสถานพยาบาล ได้รับใบอนุญาตให้ขายยาแผนโบราณ และได้รับใบอนุญาตให้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณ สาขาเภสัชกรรม เมื่อยาของกลางมีไว้เพื่อกิจการค้าของจำเลย และถูกเก็บซุกซ่อนอยู่ในสถานพยาบาล แม้มิได้นำออกแสดงโดย เปิดเผยให้คนทั่วไปทราบ แต่จำเลยพร้อมที่จะนำมาขายให้แก่ คนไข้หรือผู้มาขอซื้อได้ การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิด ตามพระราชบัญญัติ ยา พ.ศ. 2510 มาตรา 4,72,122 ซึ่งตาม มาตรา 4 ให้ถือว่า การมีไว้เพื่อขายเป็นการขายด้วย ก่อนเกิดเหตุ จำเลยถูกร้องเรียนจากราษฎรว่าสถานพยาบาลของจำเลยมีพฤติการณ์หลอกลวงคนไข้ว่าสามารถรักษาโรคสารพัดโดยใช้คนขับรถสองแถวรับจ้างชักจูงคนไข้ เจ้าหน้าที่เคยตักเตือนจำเลยแล้ว ก็ยังไม่ยอมงดการกระทำอันเป็นการท้าทายเจ้าหน้าที่ โดยอาศัยโอกาสที่ได้รับใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะแผนโบราณสาขาเภสัชกรรม หากปล่อยให้จำเลยประกอบอาชีพต่อไป อาจกระทำความผิดได้อีก กรณีอยู่ในหลักเกณฑ์ใช้วิธีการเพื่อ ความปลอดภัยแก่จำเลยโดยห้ามจำเลยประกอบอาชีพผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณ สาขาเภสัชกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2668/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าพนักงานท้องถิ่นสั่งรื้อถอนอาคารต่อเติมผิดกฎหมาย หากแก้ไขไม่ได้
คำพิพากษาศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ที่โจทก์มีคำสั่งให้จำเลยรื้อถอนอาคารส่วนที่ต่อเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะโจทก์เห็นว่าการกระทำของจำเลยไม่สามารถที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องได้ โจทก์จึงมีอำนาจออกคำสั่งให้จำเลยรื้อถอนอาคารส่วนที่ต่อเติมได้ทันที และจำเลยก็มิได้นำสืบให้เห็นว่าการดัดแปลงต่อเติมอาคารของจำเลยถึงแม้จะขัดต่อข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ.2522 แต่ยังสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องได้ จำเลยมิได้ฎีกาโต้แย้งคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ดังกล่าว ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า การต่อเติมอาคารพิพาทของจำเลยทำไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครดังกล่าว และอาคารที่จำเลยต่อเติมไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครได้ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานท้องถิ่นจึงมีอำนาจสั่งให้จำเลยรื้อถอนหรือร้องต่อศาลบังคับให้มีการรื้อถอนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3765/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท กรณีครอบครองและจำหน่ายกัญชา ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีกัญชาจำนวน 1 ถุง หนัก 30 กรัมไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำเลยได้จำหน่ายกัญชาทั้งหมดจำนวน 1 ถุง ราคา 200 บาท อันเป็นกัญชาที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่ายไปทั้งการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นในวันเวลาเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2387/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนัดหยุดงานที่ผิดกฎหมายและการกระทำที่เป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
จำเลยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทยเข้าไปมีบทบาทในการให้คำปรึกษาแนะนำและสั่งการในการนัดหยุดงานของลูกจ้างประมาณ 300 คน การนัดหยุดงานดังกล่าวมิได้เป็นไปตามขั้นตอนและเงื่อนไขดังที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 แต่เพื่อต่อรองบีบบังคับให้นายจ้างรับลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างกลับเข้าทำงาน เมื่อปรากฏว่า มีการปะทะและทำร้ายซึ่งกันและกันระหว่างลูกจ้างที่นัดหยุดงานและลูกจ้างที่ทำงานในโรงงานมีการปิดประตูทางเข้าออกโรงงานเพื่อมิให้ลูกจ้างส่วนหนึ่งที่ประสงค์จะเข้าทำงานเข้าออกได้ มีการขว้างปาวัตถุก้อนหินก้อนอิฐเข้าไปในโรงงาน เหตุเกิดริมถนนสาธารณะ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1357/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท กรณีผลิตและมีไว้จำหน่ายยาเสพติดโทษหนัก
จำเลยตักเฮโรอีนออกจากถุงบรรจุลงหลอดพลาสติกเบอร์ 5 จำนวน 161 หลอด ถือได้ว่าเป็นการผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 แต่เมื่อเฮโรอีนดังกล่าวเป็นจำนวนเดียวกันกับเฮโรอีนที่จำเลยกับพวกมีไว้เพื่อจำหน่ายการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวหรือหลายกรรมเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
of 18