พบผลลัพธ์ทั้งหมด 47 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คที่ไม่สามารถใช้ได้ ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค แม้ผู้รับเช็คไม่ตรงตามฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยออกเช็คสั่งจ่ายให้แก่บุคคลตามที่ระบุในฟ้อง โดยเจตนาจะไม่ให้มีการจ่ายเงินตามเช็ค ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คแต่ทางพิจารณาปรากฏว่าจำเลยออกเช็คจ่ายให้แก่บุคคลอื่นนอกจากที่ระบุมาในฟ้อง ดังนี้ ความต่างกันดังกล่าวไม่ใช่ข้อสารสำคัญอันจะถือเป็นเหตุยกฟ้อง
จำเลยออกเช็คให้ผู้มีชื่อคนหนึ่ง ช. เอาไปหมุนหาเงินจากคนอื่นจำเลยจึงต้องรับผิดต่อผู้ทรงเช็คนั้น เมื่อผู้ทรงเช็คเอาไปขั้นเงิน และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยก็ต้องมีความผิด.
จำเลยออกเช็คให้ผู้มีชื่อคนหนึ่ง ช. เอาไปหมุนหาเงินจากคนอื่นจำเลยจึงต้องรับผิดต่อผู้ทรงเช็คนั้น เมื่อผู้ทรงเช็คเอาไปขั้นเงิน และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยก็ต้องมีความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คโดยไม่มีเจตนาให้ใช้เงิน แม้ผู้รับเช็คไม่ตรงตามฟ้อง ไม่เป็นเหตุยกฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยออกเช็คสั่งจ่ายให้แก่บุคคลตามที่ระบุในฟ้องโดยเจตนาจะไม่ให้มีการจ่ายเงินตามเช็คขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คแต่ทางพิจารณาปรากฏว่าจำเลยออกเช็คจ่ายให้แก่บุคคลอื่นนอกจากที่ระบุมาในฟ้องดังนี้ ความต่างกันดังกล่าวไม่ใช่ข้อสารสำคัญอันจะถือเป็นเหตุยกฟ้อง
จำเลยออกเช็คให้บุคคลหนึ่งเอาไปหมุนหาเงินจากคนอื่นจำเลยจึงต้องรับผิดต่อผู้ทรงเช็คนั้นเมื่อผู้ทรงเช็คเอาไปขั้นเงินและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยก็ต้องมีความผิด
จำเลยออกเช็คให้บุคคลหนึ่งเอาไปหมุนหาเงินจากคนอื่นจำเลยจึงต้องรับผิดต่อผู้ทรงเช็คนั้นเมื่อผู้ทรงเช็คเอาไปขั้นเงินและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยก็ต้องมีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คที่ไม่สามารถใช้เงินได้ ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค แม้ผู้รับเช็คจะแตกต่างจากที่ฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยออกเช็คสั่งจ่ายให้แก่บุคคลตามที่ระบุในฟ้องโดยเจตนาจะไม่ให้มีการจ่ายเงินตามเช็ค. ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค.แต่ทางพิจารณาปรากฏว่าจำเลยออกเช็คจ่ายให้แก่บุคคลอื่นนอกจากที่ระบุมาในฟ้อง. ดังนี้ ความต่างกันดังกล่าวไม่ใช่ข้อสารสำคัญอันจะถือเป็นเหตุยกฟ้อง.
จำเลยออกเช็คให้บุคคลหนึ่งเอาไปหมุนหาเงินจากคนอื่น.จำเลยจึงต้องรับผิดต่อผู้ทรงเช็คนั้น. เมื่อผู้ทรงเช็คเอาไปขั้นเงินและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยก็ต้องมีความผิด.
จำเลยออกเช็คให้บุคคลหนึ่งเอาไปหมุนหาเงินจากคนอื่น.จำเลยจึงต้องรับผิดต่อผู้ทรงเช็คนั้น. เมื่อผู้ทรงเช็คเอาไปขั้นเงินและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยก็ต้องมีความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 830/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีเช็ค: ผู้รับเช็คที่นำไปชำระหนี้แล้วถูกปฏิเสธการจ่ายเงิน มีสิทธิฟ้องจำเลยได้
จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินชำระหนี้ให้โจทก์ร่วม โจทก์ร่วมนำเช็คนั้นไปชำระหนี้ให้ผู้มีชื่อ เมื่อผู้มีชื่อนำเช็คไปเข้าบัญชี แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ผู้มีชื่อจึงนำเช็คดังกล่าวมาคืนให้โจทก์ร่วม ดังนี้หนี้ระหว่างโจทก์ร่วมกับผู้มีชื่อจึงยังไม่ระงับ ซึ่งโจทก์ร่วมยังมีหน้าที่ต้องชำระหนี้ให้ผู้มีชื่อ กรณีเช่นนี้ย่อมเห็นได้ชัดว่าโจทก์ร่วมได้รับความเสียหายโจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์และดำเนินคดีกับจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 2(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 830/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายจากการออกเช็คไม่มีเงินรองรับ ผู้รับเช็คมีสิทธิร้องทุกข์
จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินชำระหนี้ให้โจทก์ร่วม โจทก์ร่วมนำเช็คนั้นไปชำระหนี้ให้ผู้มีชื่อ เมื่อผู้มีชื่อนำเช็คไปเข้าบัญชี แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ผู้มีชื่อจึงนำเช็คดังกล่าวมาคืนให้โจทก์ร่วม ดังนี้ หนี้ระหว่างโจทก์ร่วมกับผู้มีชื่อจึงยังไม่ระงับ ซึ่งโจทก์ร่วมยังมีหน้าที่ต้องชำระหนี้ให้ผู้มีชื่อ กรณีเช่นนี้ย่อมเห็นได้ชัดว่าโจทก์ร่วมได้รับความเสียหายโจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์และดำเนินคดีกับจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเท็จฐานออกเช็คโดยเจตนาทุจริต ผู้ฟ้องต้องพิสูจน์เจตนาทุจริต ไม่ใช่แค่ผู้รับเช็ค
เช็คที่ฟ้องร้องกันเป็นเช็คออกให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ จำเลยเป็นผู้ถือย่อมเป็นผู้ทรงเช็ค เมื่อเช็คถึงกำหนด จำเลยจึงนำเช็คไปขอรับเงินจากธนาคาร แต่ถูกธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงิน จำเลยจึงฟ้องกล่าวหาโจทก์ว่าโจทก์กระทำผิดอาญาโดยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2497 มาตรา 3 ข้อความที่จำเลยกล่าวหาโจทก์ว่ากระทำผิดทางอาญาจึงอยู่ที่ข้อความตามที่พระราชบัญญัติดังกล่าวได้บัญญัติไว้นั้น หาใช่อยู่ที่ข้อความว่าโจทก์สั่งจ่ายเช็คนั้นให้แก่ผู้ใด และจ่ายเช็คนั้นเป็นการชำระหนี้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งซึ่งมิใช่จำเลยหรือไม่(อ้างฎีกาที่ 284/2507)ดังนั้นฟ้องของจำเลยจึงไม่เป็นฟ้องเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1285/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องในคดีเช็ค: การเปลี่ยนสถานะจากผู้รับเช็คเป็นผู้ทรงเช็คต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานการใช้เงิน
จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินสดจำนวนหนึ่งแล้ว ส.นำเช็คดังกล่าวมาแลกเงินจากโจทก์ที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ค. โจทก์สั่งจ่ายเงินจำนวนนั้นให้ ส.รับไป โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด ค. แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญา ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ดังนี้ เมื่อโจทก์มาฟ้องคดีแพ่งเรียกเงินตามเช็ค โจทก์ได้บรรยายฟ้องมีความเช่นเดียวกับคำฟ้องคดีอาญา มิได้มีข้อความเพิ่มเติมแสดงว่าเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว โจทก์ต้องใช้เงินให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ค. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ค. จึงโอนเช็คพิพาทให้โจทก์มาจัดการเอาเอง คำพิพากษาในส่วนอาญาก็ได้วินิจฉัยว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด ค. เป็นผู้ทรงเช็คพิพาท โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ทั้งนี้ ย่อมเป็นการวินิจฉัยและฟังตามบทบัญญัติว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางแพ่งมาแล้วว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรง ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ศาลจำต้องถือตามดังที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 46 บังคับไว้ คดีไม่มีเหตุที่จะต้องพิจารณาตามมาตรา 47 ประการใดอีกเมื่อโจทก์มิได้บรรยายฟ้องเพิ่มเติมว่าต่อมาโจทก์ต้องใช้เงินตามเช็คให้แก่ห้างดังกล่าวและห้างนั้นได้โอนเช็คให้โจทก์มาจัดการเอง เป็นการที่โจทก์ได้เป็นผู้ทรงเช็คพิพาทขึ้นด้วยนั้น คดีไม่มีประเด็นที่โจทก์จะนำสืบดังกล่าวนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1044/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชี การร่วมรู้เห็นเป็นใจของผู้รับเช็ค และการบังคับใช้เช็คตามข้อตกลง
ฟ้องที่มิได้กล่าวหาว่า จำเลยร่วมกระทำความผิดด้วย จึงลงโทษไม่ได้
จำเลยที่ 1 ออกเช็คให้จำเลยที่ 2 ก็ได้ยืมเงินและมอบเช็คที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่ายให้โจทก์ร่วมเป็นการชำระหนี้ แม้โจทก์ร่วมรับเช็คไว้โดยรู้ว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีเงินในบัญชี ก็ถือไม่ได้ว่าโจทก์ร่วมรู้เห็นเป็นใจกระทำผิดกับจำเลยอันจะถือว่าไม่ใช่ผู้เสียหาย เพราะความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินยังไม่เกิดจนกว่าจะขอรับเงินและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน นอกจากนี้โจทก์ร่วมและจำเลยที่ 2 ตกลงกันขณะออกเช็คว่า จะบังคับการจ่ายเงินต่อเมื่อพ้นกำหนด 1 เดือน นับแต่วันออกเช็ค จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินจนกว่าจะพ้น 1 เดือน แต่เมื่อพ้น 1 เดือน จำเลยที่ 1 มิได้นำเงินเข้าบัญชีเพื่อชำระเงินตามเช็คและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน อ้างว่าปิดบัญชีจำเลยที่ 1 แล้ว จึงถือได้ว่า จำเลยที่ 1 ออกเช็คโดยในขณะออกไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ฯ มาตรา 3
จำเลยที่ 1 ออกเช็คให้จำเลยที่ 2 ก็ได้ยืมเงินและมอบเช็คที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่ายให้โจทก์ร่วมเป็นการชำระหนี้ แม้โจทก์ร่วมรับเช็คไว้โดยรู้ว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีเงินในบัญชี ก็ถือไม่ได้ว่าโจทก์ร่วมรู้เห็นเป็นใจกระทำผิดกับจำเลยอันจะถือว่าไม่ใช่ผู้เสียหาย เพราะความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินยังไม่เกิดจนกว่าจะขอรับเงินและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน นอกจากนี้โจทก์ร่วมและจำเลยที่ 2 ตกลงกันขณะออกเช็คว่า จะบังคับการจ่ายเงินต่อเมื่อพ้นกำหนด 1 เดือน นับแต่วันออกเช็ค จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินจนกว่าจะพ้น 1 เดือน แต่เมื่อพ้น 1 เดือน จำเลยที่ 1 มิได้นำเงินเข้าบัญชีเพื่อชำระเงินตามเช็คและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน อ้างว่าปิดบัญชีจำเลยที่ 1 แล้ว จึงถือได้ว่า จำเลยที่ 1 ออกเช็คโดยในขณะออกไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ฯ มาตรา 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจร้องทุกข์ในความผิดเช็ค: ผู้เสียหายที่แท้จริงคือผู้รับเช็คโดยตรง
จำเลยออกเช็คให้บริษัทผู้ขายเพื่อผ่อนชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์ที่จำเลยเช่าซื้อจากบริษัทผู้ขาย บริษัทผู้ขายมอบเช็คให้นายชงกิ่งตัวแทนของบริษัทไว้เพื่อเอาไปขึ้นเงินส่งให้บริษัทนายชงกิ่งตัวแทนของบริษัทนำเช็คไปขึ้นเงินธนาคาร ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินโดยแจ้งว่าจำเลยมีเงินในบัญชีไม่พอจ่าย บริษัทผู้ขายเป็นผู้เสียหายนายชงกิ่งตัวแทนของบริษัทผู้ขายซึ่งไม่ใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) ไม่มีอำนาจร้องทุกข์ขอให้เจ้าพนักงานสอบสวนดำเนินคดีแก่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คยังไม่สมบูรณ์: เงื่อนไขจำนองไม่สำเร็จ ผู้รับเช็คทราบแต่ยังขอขึ้นเงิน ผู้ออกเช็คไม่มีความผิด
ออกเช็คโดยมีข้อตกลงกันไว้ว่า ให้เกิดมูลหนี้ต่อกันขึ้นต่อเมื่อผู้ออกเช็คได้จำนองที่ดินได้เงินมาจากธนาคารแล้ว การที่ผู้เสียหายกลับนำเช็คนั้นไปขอรับเงินจากธนาคารโดยรู้อยู่แล้วว่าผู้ออกเช็คยังทำจำนองไม่ได้เช่นนี้ ต้องถือว่าเช็คนั้นยังไม่สมบูรณ์และยังไม่ถึงกำหนดจ่ายเงินตามเช็คผู้ออกเช็คยังไม่มีความผิด