พบผลลัพธ์ทั้งหมด 119 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3196/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับมอบเอกสารปลอมและจ่ายเงินให้ผู้นำมาส่งมอบ มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด
จำเลยรับมอบเอกสารของกลางและจ่ายเงินให้ผู้นำมาส่งมอบโดยจำเลยทราบดีว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม ซึ่งแม้การที่จำเลยต้องจ่ายเงินเป็นค่าตอบแทนแก่ผู้นำมาส่งมอบจะทำให้น่าเชื่อว่าจำเลยมิได้มีส่วนร่วมในการปลอมเอกสารและรอยตราในเอกสาร การกระทำของจำเลยเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นการก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดอันเป็นความผิดฐานเป็นผู้ใช้ ตาม ป.อ. มาตรา 84 ข้อเท็จจริงฟังว่า จำเลยเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด ตามป.อ. มาตรา 84 แต่ฟ้องโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยในฐานตัวการร่วมกระทำผิด ตาม ป.อ. มาตรา 83 จึงแตกต่างจากที่ปรากฏในทางพิจารณาในสาระสำคัญ ลงโทษจำเลยฐานผู้ใช้ไม่ได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสองแต่การกระทำของจำเลยซึ่งยังถือได้ว่าเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ผู้กระทำผิด ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด ตาม ป.อ. มาตรา 86 ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 152/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกันจำหน่ายเฮโรอีน: จำเลยที่ 3 มีความผิดฐานตัวการร่วม ไม่ใช่ผู้สนับสนุน
จำเลยที่ 3 นั่งอยู่ในโต๊ะเดียวกันกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 ระหว่างที่มีการเจรจาซื้อขายเฮโรอีนกับเจ้าพนักงานตำรวจที่ไปล่อซื้อและในวันที่ถูกจับกุมจำเลยที่ 3 ก็เป็นคนขับรถมาให้จำเลยที่ 1 ไปยังที่นัดหมายเพื่อส่งมอบเฮโรอีน ถือได้ว่าจำเลยที่ 3 เป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 มีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนของกลางด้วยมิใช่เพียงแต่เป็นผู้สนับสนุนเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดโดยประมาทและเจตนา, ความรับผิดของผู้สนับสนุน, การรอการลงโทษ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยทั้งสองมีหน้าที่ร่วมกันตามกฎหมายที่จะต้องร่วมกันจัดทำแผ่นป้ายแสดงข้อความว่ารถกำลังลากจูง และต้องจัดให้มีและเปิดโคม ไฟหรือจุดไฟแสงขาวส่องที่ป้ายดังกล่าว เพื่อให้แสงสว่างเพียงพอสำหรับผู้ใช้ถนนหรือผู้ที่ขับรถยนต์ตามหลังมามองเห็นได้ว่ามีการลากจูง จำเลยทั้งสองสามารถกระทำและใช้ความระมัดระวังดังกล่าวแต่ไม่ได้กระทำ เป็นการละเว้นการปฏิบัติตามกฎหมาย ตามคำฟ้องของโจทก์กล่าวถึงความประมาทของจำเลยทั้งสองไว้ชัดเจนแล้วว่าจำเลยทั้งสองกระทำโดยประมาทอย่างไร โจทก์หาได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัสไม่ แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องในข้อ 1(ข)ว่า หลังจากจำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำผิดตามฟ้องข้อ 1 ก. แล้ว..."และในฟ้องข้อ 1 ก. ดังกล่าวจะมีข้อหาเกี่ยวกับการกระทำความผิดโดยประมาทอยู่ก็ตามแต่ก็มีความผิดซึ่งเป็นความผิดที่ต้องกระทำโดยเจตนาอยู่ด้วย ทั้งคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ที่ระบุประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83มาด้วย ก็พอที่จะแปลความได้ว่าหมายถึงจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันกระทำความผิดในข้อหาดังกล่าวนั่นเอง หาใช่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำโดยประมาทไม่ ฟ้องโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว ผู้สนับสนุนในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดนั้น มีได้เฉพาะการสนับสนุนผู้กระทำความผิดโดยเจตนาเท่านั้น ผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดโดยประมาทไม่อาจมีได้ตามกฎหมาย เพราะผู้สนับสนุนต้องมีเจตนาประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลในการสนับสนุนด้วย โดยสภาพจึงไม่อาจมีการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการกระทำผิดโดยประมาทได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 141/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยรับของโจร ไม่ใช่ผู้สนับสนุนปล้นทรัพย์ ไม่ต้องชดใช้ทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืน ศาลแก้ไขข้อกฎหมายเพื่อความสงบเรียบร้อย
เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการปล้นทรัพย์ คงรับฟังได้เพียงว่าจำเลยกระทำความผิดฐานรับของโจร เฉพาะทองรูปพรรณ ล็อกเกต และสร้อยคอ ซึ่งทรัพย์ดังกล่าวผู้เสียหายได้รับคืนไปแล้ว ดังนี้จำเลยจึงไม่ต้องคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ส่วนที่ยังไม่ได้คืนให้แก่ผู้เสียหายอีก ปัญหานี้แม้จำเลยไม่ได้ฎีกาแต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาแก้ไขให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 962/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนการกระทำผิดพยายามฆ่า แม้ไม่ได้บรรยายในฟ้อง ศาลลงโทษฐานผู้สนับสนุนได้
จำเลยที่ 3 จัดหารถจักรยานยนต์ให้แก่จำเลยที่ 1 และที่ 2ใช้ขับขี่ไล่ยิงผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยที่ 3 ยังไม่ถึงขั้นเป็นตัวการ เป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด แม้ฟ้องโจทก์จะไม่ได้บรรยายเพื่อขอให้ลงโทษจำเลยที่ 3 ในฐานเป็นผู้สนับสนุน ศาลก็มีอำนาจลงโทษจำเลยที่ 3 ฐานเป็นผู้สนับสนุนได้ เพราะมีโทษเบากว่าตัวการตามที่โจทก์ฟ้อง.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 527/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำไม้และเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวน: ไม้ฟืนไม่ใช่ไม้แต่เป็นของป่า, ผู้สนับสนุนการกระทำผิด
ไม้ฟืนเป็นไม้ที่ไม่เหมาะสมจะนำไปใช้ทำประโยชน์อย่างอื่นนอกจากเป็นเชื้อเพลิง พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507มาตรา 4 ก็ได้ให้คำนิยามของคำว่าไม้กับคำว่าของป่าไว้แยกต่างหากจาก กัน และไม้ฟืนถูกกำหนดให้เป็นของป่าอย่างหนึ่ง ไม้ฟืนจึงไม่ใช่ไม้ตามความหมายของมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว เมื่อจำเลยนำไม้ฟืนออกจากเขตป่าสงวนแห่งชาติ จึงไม่มีความผิดฐานทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ไม้ฟืนของกลางที่จำเลยรับจ้างบรรทุกรถยนต์มานั้นถูกเก็บกองอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ความผิดฐานเก็บหาไม้ฟืนซึ่งเป็นของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติจึงยังไม่ขาดตอน การที่จำเลยหลบหนีไปเพราะพบเห็นเจ้าหน้าที่ แสดงว่าจำเลยทราบดีว่าไม้ฟืนของกลางอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติจำเลยรับจ้างบรรทุกไม้ฟืนอันเป็นของป่าซึ่งมีผู้กระทำผิดนำมากองไว้เพื่อจะนำออกจากเขตป่าสงวนแห่งชาติจึงเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ผู้กระทำความผิดฐานเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดดังกล่าวตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14,31 วรรคหนึ่ง ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียวกับความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 29 ทวิ,71 ทวิลงโทษบทหนักที่สุดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3595/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดยักยอกทรัพย์: ตัวการร่วม vs. ผู้สนับสนุน แม้ร่วมกับผู้มีหน้าที่ดูแลทรัพย์
ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ไม่ใช่ความผิดเฉพาะตัวของผู้ครอบครองทรัพย์เพียงผู้เดียว ผู้อื่นก็อาจร่วมกระทำความผิดกับผู้ครอบครองในการยักยอกทรัพย์ได้ หากได้ร่วมมือร่วมใจกันกระทำการยักยอกกับผู้ได้รับมอบหมายให้ครอบครองทรัพย์ ข้อที่ว่า ผู้ใดครอบครองทรัพย์นั้น มิใช่คุณสมบัติเฉพาะตัวผู้กระทำ แต่เป็นเพียงองค์ประกอบความผิดในส่วนการกระทำอันหนึ่งเท่านั้น การที่จำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมิใช่ผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนได้ร่วมกับผู้จัดการและสมุห์บัญชีของธนาคารยักยอกทรัพย์ของธนาคาร จำเลยย่อมมีความผิดฐานเป็นตัวการยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ประกอบด้วยมาตรา 83แม้จำเลยจะร่วมกระทำผิดกับผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนก็เป็นเหตุเฉพาะตัวผู้กระทำผิดแต่ละคน จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354 ประกอบด้วยมาตรา 86. (วรรคสองวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2532)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2299/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บทบาทผู้สนับสนุนการปล้นทรัพย์: การให้ความสะดวกไม่ใช่ตัวการร่วม
จำเลยที่ 2 ร่วมไปกับจำเลยที่ 3 กับพวก เมื่อจำเลยที่ 3กับพวกลงจากรถของ ด. ที่หลังสวนกล้วยห่างบ้านผู้เสียหายประมาณ580 เมตร เพื่อปล้นทรัพย์บ้านผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 ได้ติดรถของ ด.ไปที่บ้านบ.และเป็นคนเรียกให้ด. ขับรถมาคอยรอรับจำเลยที่ 3 กับพวกที่เดิม เมื่อจำเลยที่ 3 กับพวกปล้นทรัพย์เสร็จแล้ววิ่งมาขึ้นรถ จำเลยที่ 2 ก็สั่งให้ ด. ขับรถไปส่งจำเลยที่ 2 กับพวก พฤติการณ์ของจำเลยที่ 2 ยังอยู่ห่างไกลกับการเข้าปล้นทรัพย์บ้านผู้เสียหาย แม้จำเลยที่ 2 จะมีหน้าที่คอยติดตามด. คนขับรถรับจ้างในขณะที่จำเลยที่ 3 กับพวกเข้าทำการปล้นทรัพย์และควบคุมให้นำรถกลับไปคอยรับตามเวลาที่จำเลยที่ 3 กับพวกนัดไว้จำเลยที่ 2 ก็ไม่ได้อยู่คอยช่วยเหลือจำเลยที่ 3 กับพวกเมื่ออาจเกิดเหตุการณ์คับขันขึ้น ยังไม่พอฟังว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมกันปล้นทรัพย์ เป็นเพียงการให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 3กับพวกทั้งก่อนและขณะกระทำความผิดเท่านั้น จำเลยที่ 2 จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86ในความผิดฐานปล้นทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1729/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากตัวการร่วมเป็นผู้ใช้/ผู้สนับสนุน และขอบเขตการลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นผู้ร่วมกระทำผิดด้วยกัน แต่ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 มิได้ร่วมจำหน่ายกัญชาด้วย เพียงแต่ จำเลยที่ 2 ได้ บอกที่ซ่อน กัญชาและขอให้จำเลยที่ 1 ช่วย จำหน่ายกัญชาแทนในขณะที่จำเลยที่ 2 ไม่อยู่จึงเป็นการก่อให้จำเลยที่ 1 กระทำผิด อันเป็นความผิดฐาน เป็นผู้ใช้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 ซึ่ง ถือว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่าง กับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องในข้อสาระสำคัญตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง จะลงโทษจำเลยที่ 2 ฐาน เป็นผู้ใช้ ให้กระทำผิดไม่ได้
การที่จำเลยที่ 2 ซึ่ง เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 ได้ บอกที่ซ่อน กัญชา และขอให้จำเลยที่ 1 ช่วย จำหน่ายกัญชาแก่ผู้ซื้อแทนนั้น เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1กระทำผิด เป็นความผิดฐาน เป็นผู้สนับสนุนตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 ซึ่ง ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยที่ 2 ได้
การที่จำเลยที่ 2 ซึ่ง เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 ได้ บอกที่ซ่อน กัญชา และขอให้จำเลยที่ 1 ช่วย จำหน่ายกัญชาแก่ผู้ซื้อแทนนั้น เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1กระทำผิด เป็นความผิดฐาน เป็นผู้สนับสนุนตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 ซึ่ง ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยที่ 2 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1729/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีกัญชาไว้ครอบครองจำหน่าย ผู้ใช้/ผู้สนับสนุน และข้อแตกต่างในฟ้อง
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นผู้ร่วมกระทำผิดด้วยกัน แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 มิได้ร่วมจำหน่ายกัญชาด้วย เพียงแต่จำเลยที่ 2 ได้บอกที่ซ่อนกัญชาและขอให้จำเลยที่ 1 ช่วยจำหน่ายกัญชาแทนในขณะที่จำเลยที่ 2 ไม่อยู่ จึงเป็นการก่อให้จำเลยที่ 1 กระทำผิดอันเป็นความผิดฐานเป็นผู้ใช้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 ซึ่งถือว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องในข้อสาระสำคัญตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง จะลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้ใช้ให้กระทำผิดไม่ได้ การที่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 ได้บอกที่ซ่อนกัญชาและขอให้จำเลยที่ 1 ช่วยจำหน่ายกัญชาแก่ผู้ซื้อแทนนั้นเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 กระทำผิดเป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86ซึ่งศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยที่ 2 ได้