พบผลลัพธ์ทั้งหมด 65 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2216/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม: การลงโทษซ้ำซ้อนทางวินัย การพักงานโดยจ่ายค่าจ้างไม่ถือเป็นการลงโทษ
ระเบียบข้อบังคับของจำเลยที่ระบุการลงโทษทางวินัยแก่พนักงานที่กระทำความผิดฯ ว่า..."(3) ให้พักงานชั่วคราว โดยไม่จ่ายค่าจ้างในระหว่างนั้น" การให้พักงานที่จะเป็นการลงโทษทางวินัยตามระเบียบข้อบังคับดังกล่าว จะต้องเป็นการให้พักงานชั่วคราวโดยไม่จ่ายค่าจ้างในระหว่างนั้น จำเลยให้โจทก์พักงานชั่วคราวเพื่อสอบสวน โดยจ่ายค่าจ้างให้โจทก์ตามปกติ จึงไม่ถือเป็นการลงโทษในความผิดที่โจทก์ได้กระทำไปแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2094/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการสั่งพักงานมิใช่การเลิกจ้าง และมีข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้โดยไม่ต้องสืบพยาน
เมื่อตามคำฟ้อง คำให้การ และคำแถลงรับของคู่ความมีข้อเท็จจริงเพียงพอที่ศาลจะวินิจฉัยได้ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องให้คู่ความสืบพยานต่อไปอีก ศาลก็ชอบที่จะสั่งงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายเสียได้
การเลิกจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน หมายถึงการที่นายจ้างให้ลูกจ้างออกจากงานไม่ว่ากระทำด้วยวิธีใด โดยทำให้สภาพของการเป็นนายจ้างและลูกจ้างหมดไป การพักงานที่เป็นเพียงจำเลยให้โจทก์หยุดทำงานชั่วคราว สภาพของการเป็นลูกจ้างและนายจ้างยังคงมีอยู่ต่อไปโดยจำเลยยังมิได้แสดงเจตนาเลิกจ้างนั้น หาเป็นการเลิกจ้างตามประกาศดังกล่าวไม่
การเลิกจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน หมายถึงการที่นายจ้างให้ลูกจ้างออกจากงานไม่ว่ากระทำด้วยวิธีใด โดยทำให้สภาพของการเป็นนายจ้างและลูกจ้างหมดไป การพักงานที่เป็นเพียงจำเลยให้โจทก์หยุดทำงานชั่วคราว สภาพของการเป็นลูกจ้างและนายจ้างยังคงมีอยู่ต่อไปโดยจำเลยยังมิได้แสดงเจตนาเลิกจ้างนั้น หาเป็นการเลิกจ้างตามประกาศดังกล่าวไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2094/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานในคดีแรงงานและการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม โดยพักงานมิใช่การเลิกจ้าง
เมื่อตามคำฟ้อง คำให้การ และคำแถลงรับของคู่ความมีข้อเท็จจริงเพียงพอที่ศาลจะวินิจฉัยได้โดยไม่จำเป็นที่จะต้องให้คู่ความสืบพยานต่อไปอีกศาลก็ชอบที่จะสั่งงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายเสียได้ การเลิกจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานหมายถึง การที่นายจ้างให้ลูกจ้างออกจากงานไม่ว่ากระทำด้วยวิธีใดโดยทำให้สภาพของการเป็นนายจ้างและลูกจ้างหมดไป การพักงานที่เป็นเพียงจำเลยให้โจทก์หยุดทำงานชั่วคราว สภาพของการเป็นลูกจ้างและนายจ้างยังคงมีอยู่ต่อไป โดยจำเลยยังมิได้แสดงเจตนาเลิกจ้างนั้น หาเป็นการเลิกจ้างตามประกาศดังกล่าวไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6386/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพักงานลูกจ้างทุจริต และสิทธิในการเลื่อนขั้นเงินเดือน สิทธิลูกจ้างขาดหายเมื่อไม่ได้ปฏิบัติงาน
ลูกจ้างที่ถูกสั่งพักงานเพื่อรอฟังผลการดำเนินคดี เนื่องจากมีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริต ซึ่งนายจ้างมีสิทธิสั่งพักงานลูกจ้างได้โดยชอบ เมื่อลูกจ้างมิได้ทำงานในระหว่างพักงานตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2522 ถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2529 ย่อมไม่มีงานที่มีคุณภาพและปริมาณงานอันสมควรที่จะได้เลื่อนบำเหน็จเพื่อตอบแทนผลงานที่ได้ปฏิบัติในรอบปีนั้นตามระเบียบ จึงไม่มีสิทธิได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนในระหว่างพักงาน เมื่อลูกจ้างกลับเข้าทำงานตามเดิมจึงไม่มีค่าจ้างในส่วนที่เพิ่มขึ้นที่จะเรียกร้องจากนายจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6386/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพักงานลูกจ้างส่อทุจริต ทำให้สิทธิเลื่อนขั้นเงินเดือนระงับตามระเบียบของนายจ้าง
ลูกจ้างที่ถูกสั่งพักงานเพื่อรอฟังผลการดำเนินคดี เนื่องจากมีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริต ซึ่งนายจ้างมีสิทธิสั่งพักงานลูกจ้างได้โดยชอบ เมื่อลูกจ้างมิได้ทำงานในระหว่างพักงานตั้งแต่วันที่21 สิงหาคม 2522 ถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2529 ย่อมไม่มีงานที่มีคุณภาพและปริมาณงานอันสมควรที่จะได้เลื่อนบำเหน็จเพื่อตอบแทนผลงานที่ได้ปฏิบัติในรอบปีนั้นตามระเบียบ จึงไม่มีสิทธิได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนในระหว่างพักงาน เมื่อลูกจ้างกลับเข้าทำงานตามเดิมจึงไม่มีค่าจ้างในส่วนที่เพิ่มขึ้นที่จะเรียกร้องจากนายจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5838/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างและการสิ้นสุดความเป็นลูกจ้าง: การสั่งพักงานและคำสั่งเลิกจ้างมีผลเมื่อใด
โจทก์ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จนถูกจำเลยตั้งกรรมการสอบสวน และจำเลยมีคำสั่งพักงานโจทก์ตามข้อบังคับตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2530 เพื่อรอฟังผลการสอบสวน ต่อมาวันที่ 20 มกราคม 2531 จำเลยออกคำสั่งเลิกจ้างโจทก์โดยให้มีผลตั้งแต่วันแรกที่พักงาน ความเป็นลูกจ้างและนายจ้างระหว่างโจทก์จำเลยจึงสิ้นสุดลงตั้งแต่วันนั้นโจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาค่าจ้างในช่วงนับแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2530 ถึงวันที่ 20 มกราคม 2531
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5838/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างและการสิ้นสุดความเป็นลูกจ้าง: การพักงานก่อนเลิกจ้างถือเป็นการเลิกจ้าง
โจทก์ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จนถูกจำเลยตั้งกรรมการสอบสวน และจำเลยมีคำสั่งพักงานโจทก์ตามข้อบังคับตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2530 เพื่อรอฟังผลการสอบสวน ต่อมาวันที่20 มกราคม 2531 จำเลยออกคำสั่งเลิกจ้างโจทก์โดยให้มีผลตั้งแต่วันแรกที่พักงานความเป็นลูกจ้างและนายจ้างระหว่างโจทก์จำเลยจึงสิ้นสุดลงตั้งแต่วันนั้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาค่าจ้างในช่วงนับแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2530 ถึงวันที่ 20 มกราคม 2531
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพักงาน-สิทธิลูกจ้าง-การกลับเข้าทำงาน-ลาออก: จำเลยไม่มีอำนาจพักงานรอผลคดีแพ่ง ลูกจ้างมีสิทธิกลับเข้าทำงานหรือลาออก
โจทก์ถูกกล่าวหาว่าทุจริต และปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และถูกดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางแพ่ง จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างจึงมีคำสั่งพักงานโจทก์ เพื่อรอฟังผลของคดี สำหรับคดีอาญา ศาลพิพากษายกฟ้องคดีถึงที่สุดส่วนคดีแพ่งอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาดังนี้ โจทก์จึงเป็นผู้สุจริตและไม่มีมลทินมัวหมอง การสอบสวนเป็นอันสิ้นสุดเพราะตามข้อบังคับฯ จำเลยไม่มีอำนาจพักงานเพื่อรอฟังผลในคดีแพ่ง โจทก์จึงมีสิทธิกลับเข้าทำงานดังเดิม มีสิทธิได้รับค่าจ้างในระหว่างพักงานมีสิทธิขอลาออกและมีสิทธิขอให้จำเลยพิจารณาการลาออก แต่ขณะที่พิพาทเป็นคดีนี้ โจทก์หาได้กลับเข้าทำงานไม่ และยังไม่ได้รับการอนุมัติให้ลาออก ก็กลับมาฟ้องเสียก่อนว่าโจทก์ได้กลับเข้าทำงานแล้ว และได้รับอนุมัติให้ลาออกแล้ว มีสิทธิได้รับเงินต่าง ๆ ในระหว่างถูกพักงาน และเงินต่าง ๆ ที่จะได้หลังจากลาออกแล้ว ซึ่งเป็นการฟ้องก่อนสิทธิเกิดขึ้น ชั้นนี้โจทก์พึงดำเนินการตามสิทธิต่าง ๆ นั้นให้เรียบร้อยก่อน จึงจะมีอำนาจฟ้องคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพักงานและการฟ้องเรียกค่าเสียหายก่อนสิทธิเกิด: โจทก์ต้องดำเนินการให้สิทธิเกิดก่อนจึงฟ้องได้
โจทก์ถูกกล่าวหาว่าทุจริต และปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และถูกดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางแพ่ง จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างจึงมีคำสั่งพักงานโจทก์เพื่อรอฟังผลของคดี สำหรับคดีอาญา ศาลพิพากษายกฟ้องคดีถึงที่สุด ส่วนคดีแพ่งอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ดังนี้ โจทก์จึงเป็นผู้สุจริตและไม่มีมลทินมัวหมองการสอบสวนเป็นอันสิ้นสุดเพราะตามข้อบังคับ ฯ จำเลยไม่มีอำนาจพักงานเพื่อรอฟังผลในคดีแพ่ง โจทก์จึงมีสิทธิกลับเข้าทำงานดังเดิม มีสิทธิได้รับค่าจ้างในระหว่างพักงานมีสิทธิขอลาออกและมีสิทธิขอให้จำเลยพิจารณาการลาออก แต่ขณะที่พิพาทเป็นคดีนี้โจทก์หาได้กลับเข้าทำงานไม่ และยังไม่ได้รับการอนุมัติให้ลาออก ก็กลับมาฟ้องเสียก่อนว่าโจทก์ได้กลับเข้าทำงานแล้ว และได้รับอนุมัติให้ลาออกแล้ว มีสิทธิได้รับเงินต่าง ๆ ในระหว่างถูกพักงาน และเงินต่าง ๆ ที่จะได้หลังจากลาออกแล้ว ซึ่งเป็นการฟ้องก่อนสิทธิเกิดขึ้น ชั้นนี้โจทก์พึงดำเนินการตามสิทธิต่าง ๆ นั้นให้เรียบร้อยก่อน จึงจะมีอำนาจฟ้องคดีนี้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2631/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างและการสิ้นสุดสภาพการจ้าง: สิทธิในค่าจ้างหลังคำสั่งพักงานและผลของการเลิกจ้างย้อนหลัง
จำเลยมีคำสั่งพักงานโจทก์เพื่อทำการสอบสวนโจทก์เรื่องกระทำผิดอาญาต่อจำเลย แม้จำเลยมิได้จ่ายค่าจ้างในระหว่างพักงานแก่โจทก์สภาพการจ้างระหว่างโจทก์จำเลยก็ยังมีอยู่จนกว่าจำเลยจะมีคำสั่งเลิกจ้างต่อมาเมื่อจำเลยมีคำสั่งเลิกจ้างโจทก์โดยให้การเลิกจ้างมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่จำเลยมีคำสั่งพักงานโจทก์เป็นต้นไป ดังนี้ สภาพการจ้างระหว่างโจทก์จำเลยย่อมเป็นอันสิ้นสุดลง โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างนับแต่วันที่การเลิกจ้างมีผล