คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พิจารณาโทษ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 46 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 998/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพกับการพิจารณาโทษ ศาลไม่จำต้องสืบพยานเพิ่มเติมหากคำรับสารภาพสอดคล้องกับหลักฐาน
คดีมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่ถึง 10 ปี ซึ่งเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องแล้ว ศาลก็ย่อมพิพากษาได้ โดยมิต้องฟังพะยานโจทก์ต่อไป แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องลงโทษจำเลยตามคำรับสารภาพเสมอไปในเมื่อปรากฎตามหลักฐานในสำนวนขัดแย้งกับคำรับของจำเลย
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ตามใบชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ปรากฎตามใบชันสูตรบาดแผลว่า รักษาในโรงพยาบาล 8 วันทุเลาอีกประมาณ 14 วันหาย รวมเป็น 22 วัน ข้อว่าไม่สามารถประกอบการหาเลี้ยงชีพได้ตามปรกติเกิน 20 วันนั้นเป็นข้อเท็จจริง ในวันที่จำเลยมาให้การรับสารภาพต่อศาลก็เป็นเวลาถึง 2 เดือนเศษจากวันที่ทำร้ายกัน จำเลยย่อมทราบความข้อนี้ดี โจทก์ไม่จำต้องสืบพะยานอะไรอีก ศาลก็ลงโทษจำเลยได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องรู้และวินิจฉัยถึงว่าผู้บาดเจ็บมีอาชีพอะไร.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 998/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพและการพิจารณาโทษคดีทำร้ายร่างกาย: ศาลไม่ต้องสืบพยานเพิ่มเติมหากคำรับสารภาพสอดคล้องกับหลักฐาน
คดีมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่ถึง 10 ปี ซึ่งเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องแล้ว ศาลก็ย่อมพิพากษาได้โดยมิต้องฟังพยานโจทก์ต่อไป แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องลงโทษจำเลยตามคำรับสารภาพเสมอไป ในเมื่อปรากฏตามหลักฐานในสำนวนขัดแย้งกับคำรับของจำเลย
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ตามใบชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องปรากฏตามใบชันสูตรบาดแผลว่า รักษาในโรงพยาบาล 8 วันทุเลาอีกประมาณ 14 วันหาย รวมเป็น 22 วัน ข้อว่าไม่สามารถประกอบการหาเลี้ยงชีพได้ตามปกติเกิน20 วันนั้นเป็นข้อเท็จจริง ในวันที่จำเลยมาให้การรับสารภาพต่อศาลก็เป็นเวลาถึง 2 เดือนเศษจากวันที่ทำร้ายกัน จำเลยย่อมทราบความข้อนี้ดีโจทก์ไม่จำต้องสืบพยานอะไรอีก ศาลก็ลงโทษจำเลยได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องรู้และวินิจฉัยถึงว่าผู้บาดเจ็บมีอาชีพอะไร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 474/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาโทษกักกันจากพฤติกรรมเดิมของผู้ต้องโทษซ้ำ
พฤตติการณ์ที่ถือว่าจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้าย
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุจำเลย 2 ปี 4 เดือน และลงโทษกักกันอีก 3 ปี ศาลอุทธรณ์แก้ให้ยกโทษกักกันเสียดังนี้ โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงในเรื่องกักกันได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาโทษกักกันสำหรับผู้กระทำผิดซ้ำ โดยคำนึงถึงความผิดเก่าและระยะเวลาที่ล่วงเลย
พฤตติการณ์ที่ถือว่า ไม่ควรลงโทษกักกันจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาโทษกักกันสำหรับผู้กระทำผิดซ้ำ โดยคำนึงถึงระยะเวลาที่พ้นโทษและความร้ายแรงของความผิดเดิม
ความผิดที่จำเลยรับอาญามาแต่ก่อนเป็นเรื่องทำร้ายร่างกาย 3 เรื่อง มีโทษจำคุก 6 เดือน 4 เดือน และ 1 ปี และเป็นเรื่องฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา 1 เรื่อง โทษจำคุก 4 ปี ในบรรดาความผิดที่จำเลยกระทำมาที่นับว่าเป็นเรื่องสำคัญก็คือเรื่องฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาซึ่งจำเลยพ้นโทษในความผิดดังกล่าวมา 8 ปีเศษแล้ว คดีนี้จำเลยถูกลงโทษจำคุกฐานลักทรัพย์ เมื่อพิเคราะห์ถึงลักษณะความผิดเก่าใหม่และเวลาที่ล่วงเลยมากรณียังไม่มีเหตุควรลงโทษกักกันจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 318-321/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรวมโทษจำคุกหลายกระทงความผิดซ้ำ และการพิจารณาโทษที่เหมาะสม
สาลพิพากสาลงโทสจำเลย 4 สำนวน ตามมาตรา 293-59 ไนคำพิพากสาเดียวกันแล้วไห้จำเลยรับโทสจำคุก เพียง 3 เดือนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 539/2485

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาโทษจำเลยหลังรับสารภาพ และการยื่นคำร้องเพิ่มเติมโทษหลังการให้การ
จำเลยให้การรับสารภาพ. โจทก์จำเลยแถลงไม่สืบพยาน. ในวันเดียวกันนั้นก่อนศาลอ่านคำพิพากษา. โจทก์ยื่นคำร้องว่าจำเลยเคยต้องโทษ. ขอให้เพิ่มโทษ. ดังนี้ควรรับคำร้องนั้นไว้พิจารณาได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195/2483

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรวมโทษหลายกระทง: ศาลมีอำนาจพิจารณารวมโทษหรือแยกโทษได้ โดยไม่ผูกพันกับต้นฉบับภาษาอังกฤษ
ในคดีที่จำเลยกระทำผิดหลายกะทงในคำพิพากษาอันเดียวกัน ศาลจะพิพากษาให้เรียงกะทงโทษก์ได้หรือไม่เรียงกะกะทงโทษก็ได้การแปล กฎหมายอาญา ซึ่งไม่ถือเอาต้นร่างฉะบับภาษาอังกฤษเป็นสำคัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 523/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษจำเลยจากประวัติโทษเดิมที่ปรากฏในเอกสารแนบท้ายฟ้อง และการพิจารณาคำรับสารภาพ
โจทก์ขอให้เพิ่มโทษจำเลยโดยกล่าวว่าจำเลยเคยต้องโทษมาดังใบแดงแจ้งโทษ+++ฟ้องนั้น ไม่นับว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม ศาล+++ฟ้องให้จำเลยฟังแม้ไม่ได้อ่านใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้องให้จำเลยฟังก็ถือว่าได้ปฏิบัติตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ม.172 เมื่อโจทก์ไม่นำพะยานมาสืบศาลก็ฟังข้อเท็จจริงเท่าที่จำเลยรับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15000/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาโทษอาญา: ศาลต้องพิจารณาจากคำฟ้องเดิมและแก้ฟ้องประกอบกัน การแก้ไขคำพิพากษาเมื่อพิมพ์ผิดพลาด
การที่โจทก์ยื่นคำฟ้องฉบับใหม่แทนคำฟ้องฉบับเดิมก็เพื่อความสะดวกในการพิจารณาพิพากษาของศาลชั้นต้นเท่านั้น ศาลชั้นต้นต้องพิจารณาคำฟ้องฉบับเดิมและคำร้องขอแก้ฟ้องประกอบคำฟ้องฉบับใหม่ด้วย จะถือคำฟ้องฉบับใหม่ฉบับเดียวแทนคำฟ้องฉบับเดิมไม่ได้ เมื่อโจทก์ไม่ได้ขอแก้ไขฟ้องส่วนที่เกี่ยวกับการขอนับโทษต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 277/2556 ทั้งในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นก็ระบุว่าจำเลยที่ 1 เป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 265/2556 การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 277/2556 จึงขัดแย้งกัน เชื่อว่าศาลชั้นต้นพิจารณาจากคำฟ้องฉบับใหม่ที่โจทก์พิมพ์ผิดพลาด ไม่ได้พิจารณาจากคำฟ้องฉบับเดิม ถือว่าเป็นการเขียนหรือพิมพ์ผิดพลาดตาม ป.วิ.อ. มาตรา 190
of 5