พบผลลัพธ์ทั้งหมด 62 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1604/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดอำนาจศาล: ศาลมีอำนาจไต่สวน แต่ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงเมื่อเหตุเกิดไม่ต่อหน้าศาล
ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลนั้นเป็นความผิดต่อศาล ศาลย่อมดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนได้เองตามที่เห็นสมควร ไม่ว่าพยานหลักฐานเหล่านั้นฝ่ายใดจะได้อ้างหรือไม่ สำหรับกรณีที่การละเมิดอำนาจศาลได้กระทำต่อหน้าศาล ย่อมถือได้ว่าศาลได้ทราบข้อเท็จจริงนั้นจากพยานหลักฐานที่ปรากฏแก่ศาลเองแล้ว ศาลพิพากษาลงโทษในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลไปได้ทีเดียว แต่ในกรณีที่การกระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาลไม่ได้กระทำต่อหน้าศาล ศาลจำต้องดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนหาข้อเท็จจริงก่อนเพียงแต่สอบถามปากคำพยานโดยไม่ปรากฏว่าพยานเหล่านั้นได้สาบานตน หรือกล่าวคำปฏิญาณว่าจะให้การตามสัตย์จริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 112ถ้อยคำพยานเหล่านั้นจึงฟังเป็นความจริงยังไม่ได้ (อ้าง ฎีกาที่ 824/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแบ่งมรดกและการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องการมีอยู่จริงของนิติบุคคลผู้รับมรดก
โจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์จำเลยไม่อาจตกลงแบ่งที่ดินมรดกตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำกันไว้ในศาลได้ที่ดินที่โจทก์จำเลยตกลงอุทิศให้มัสยิดหัวหมากตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น ไม่มีมัสยิดหัวหมากที่จะได้รับประโยชน์ข้อตกลงข้อนี้เป็นโมฆะ ต้องนำที่ดินส่วนที่ยกให้มัสยิดหัวหมากมาแบ่งให้โจทก์จำเลยคนละเท่าๆกันโจทก์จำเลยได้จดทะเบียนรับโอนมรดกที่ดินแปลงนี้ร่วมกันต่อเจ้าพนักงานที่ดินแล้วดังนี้ เห็นได้ว่าเป็นกรณีที่โจทก์ใช้สิทธิฟ้องจำเลยขอแบ่งที่ดินโดยอ้างว่ามัสยิดหัวหมากไม่มีตัวตนอยู่ ต้องนำที่ดินส่วนนั้นมาแบ่งระหว่างโจทก์จำเลย แต่ไม่อาจตกลงกันได้ ประการหนึ่งอีกประการหนึ่งโจทก์จำเลยมีสิทธิร่วมกันในที่ดินมรดกแปลงนี้ไม่อาจตกลงแบ่งกันได้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของร่วมย่อมมีสิทธิฟ้องขอแบ่งจากจำเลยได้เสมอตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1363,1364 ฟ้องของโจทก์ได้แสดงชัดแจ้งแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาจึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55,172
เมื่อโจทก์กล่าวอ้างข้อเท็จจริงว่า มัสยิดหัวหมากไม่มีตัวตนดังที่ปรากฏตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์จำเลยทำไว้ต่อกันในศาล แต่จำเลยให้การว่ามัสยิดหัวหมากมีตัวตนอยู่ ประเด็นหน้าที่นำสืบจึงตกแก่โจทก์ต้องนำสืบก่อนให้สมตามฟ้อง
เมื่อโจทก์กล่าวอ้างข้อเท็จจริงว่า มัสยิดหัวหมากไม่มีตัวตนดังที่ปรากฏตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์จำเลยทำไว้ต่อกันในศาล แต่จำเลยให้การว่ามัสยิดหัวหมากมีตัวตนอยู่ ประเด็นหน้าที่นำสืบจึงตกแก่โจทก์ต้องนำสืบก่อนให้สมตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องเขตควบคุมการแปรรูปไม้ เพื่อเอาผิดฐานครอบครองไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต
โจทก์มิได้นำสืบ จึงฟังไม่ได้ว่าท้องที่ที่จำเลยมีไม้แปรรูป ไว้ ในครอบครองเป็นเขตควบคุมการแปรรูปไม้ จึงลงโทษจำเลย ฐานมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาตไม่ได้ และ ริบไม้ของกลางไม่ได้ (อ้างนัยฎีกาที่ 1384/2494 และที่ 825/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 803/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ข้อเท็จจริงการร่วมประกอบการค้าและการวินิจฉัยเกินคำฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันประกอบการค้า โจทก์ย่อมนำสืบพฤติการณ์ต่าง ๆ อันจะแสดงให้เห็นได้ว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันประกอบการค้า เช่นว่า จำเลยที่ 1 ได้แสดงตนเป็นหุ้นส่วนกับจำเลยที่ 2 ด้วยกิริยาดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1054 ได้ และศาลย่อมยกเหตุนี้ไปประกอบพยานพฤติเหตุอื่น ๆ แล้วชี้ขาดว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันประกอบการค้าได้ ไม่เป็นการวินิจฉัยเกินคำฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องตัวผู้ขับขี่ในคดีขับรถประมาททำให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือถึงแก่ความตาย
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถโดยประมาทชนกับรถที่สวนมาเป็นเหตุให้ผู้โดยสารถึงแก่ความตายและบาดเจ็บ ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยมิได้เป็นคนขับรถคันที่ชนกันนี้ ศาลพิพากษายกฟ้อง(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 25/2507)
(หมายเหตุ)มีบันทึกท่านอาจารย์ประกอบ หุตะสิงห์ เจ้าของสำนวน(รับโอน)ความว่าท่านตรวจสำนวนแล้วตามฟ้องและที่จำเลยเถียงประเด็นคงเหลือว่าจำเลยเป็นคนขับหรือคนอื่นขับเท่านั้นซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงศาลอุทธรณ์ว่าจำเลยไม่ได้ขับ จึงยกฟ้องโจทก์ฎีกาว่าจำเลยขับ ประเด็นที่เสนอเป็นข้อกฎหมายเข้าประชุมใหญ่มีว่า 'จำเลยเป็นผู้ขับรถคันที่ชนกันนี้เป็นประจำแต่ได้ปล่อยให้คนอื่นขับจนเป็นเหตุให้รถชนกันมีคนตาย จำเลยจะมีความผิดฐานทำให้คนตายโดยประมาทด้วยหรือไม่' นั้นจึงไม่มีในสำนวนท่านจึงชี้ขาดข้อเท็จจริงแต่อย่างเดียว โดยไม่ได้กล่าวถึงมติที่ประชุมใหญ่ เพราะจะเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น)
(หมายเหตุ)มีบันทึกท่านอาจารย์ประกอบ หุตะสิงห์ เจ้าของสำนวน(รับโอน)ความว่าท่านตรวจสำนวนแล้วตามฟ้องและที่จำเลยเถียงประเด็นคงเหลือว่าจำเลยเป็นคนขับหรือคนอื่นขับเท่านั้นซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงศาลอุทธรณ์ว่าจำเลยไม่ได้ขับ จึงยกฟ้องโจทก์ฎีกาว่าจำเลยขับ ประเด็นที่เสนอเป็นข้อกฎหมายเข้าประชุมใหญ่มีว่า 'จำเลยเป็นผู้ขับรถคันที่ชนกันนี้เป็นประจำแต่ได้ปล่อยให้คนอื่นขับจนเป็นเหตุให้รถชนกันมีคนตาย จำเลยจะมีความผิดฐานทำให้คนตายโดยประมาทด้วยหรือไม่' นั้นจึงไม่มีในสำนวนท่านจึงชี้ขาดข้อเท็จจริงแต่อย่างเดียว โดยไม่ได้กล่าวถึงมติที่ประชุมใหญ่ เพราะจะเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1298/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนคำรับสารภาพ การพิจารณาเหตุผลสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม และการพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่ขัดแย้ง
ก่อนศาลพิพากษา จำเลยขอแก้คำให้การที่รับสารภาพไว้แล้ว ศาลพิจารณาตามสำนวนนอกไปจากเหตุที่จำเลยอ้างขึ้น ถ้ามีเหตุสมควรก็อนุญาตได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1958/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบ – การพิสูจน์ข้อเท็จจริง – เอกสารที่ไม่สมบูรณ์ – ผลของการไม่นำสืบ
เมื่อศาลมีคำสั่งกำหนดหน้าที่นำสืบให้ฝ่ายใดนำสืบก่อนโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ไม่นำสืบตามข้ออ้าง ฝ่ายนั้นต้องแพ้คดี
โจทก์อ้างว่าโจทก์ชำระหนี้ให้จำเลยเกินไป ฝ่ายจำเลยปฏิเสธว่ามิได้รับเงินเกิน เพราะเลขจำนวนเงินในเอกสารถูกปลอมโดยเติมเลข เอกสารอยู่ในความยึดถือของโจทก์ จำเลยไม่ได้รับรองความถูกต้องแท้จริง ทำให้เอกสารไม่เป็นผลให้โจทก์ได้สิทธิจากเอกสารนั้น จึงเป็นหน้าที่โจทก์ต้องพิสูจน์ จำนวนเงินให้ได้ความจริง ตามเอกสารนั้น.
โจทก์อ้างว่าโจทก์ชำระหนี้ให้จำเลยเกินไป ฝ่ายจำเลยปฏิเสธว่ามิได้รับเงินเกิน เพราะเลขจำนวนเงินในเอกสารถูกปลอมโดยเติมเลข เอกสารอยู่ในความยึดถือของโจทก์ จำเลยไม่ได้รับรองความถูกต้องแท้จริง ทำให้เอกสารไม่เป็นผลให้โจทก์ได้สิทธิจากเอกสารนั้น จึงเป็นหน้าที่โจทก์ต้องพิสูจน์ จำนวนเงินให้ได้ความจริง ตามเอกสารนั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 240/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาฐานกีดขวางทางสาธารณะและการพิสูจน์ความเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จำเป็นต้องบรรยายฟ้องและพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ชัดเจน
การฟ้องขอให้ลงโทษตามกฎหมายอาญา มาตรา336(2) นั้นโจทก์จะต้องบรรยายในฟ้องด้วยว่า จำเลยมิได้รับอนุญาตอันชอบด้วยกฎหมายมิฉะนั้นย่อมจะเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ลงโทษจำเลยไม่ได้
ที่ชายทะเลซึ่งน้ำท่วมถึงนั้นหาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือทางสาธารณะเสมอไปไม่
ที่ชายทะเลซึ่งน้ำท่วมถึงนั้นหาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือทางสาธารณะเสมอไปไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1619/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องวิวาท หากสืบไม่ได้ว่ามีการต่อสู้ ย่อมถือว่าโจทก์สืบไม่สมฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าวิวาทต่อสู้กันมีผู้บาดเจ็บถึงตายดังมาตรา 253,335ข้อ3,14 ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกลุ้มรุมทำร้ายผู้ตายฝ่ายเดียว ดังนี้จึงเป็นเรื่องที่โจทก์สืบฟังไม่ได้ว่ามีการวิวาทต่อสู้กันดังฟ้อง ย่อมถือว่าโจทก์สืบไม่สมฟ้อง ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1310/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าช่วงและการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องค่าเช่า ศาลฎีกาตัดสินว่าการให้ผู้อื่นอยู่แล้วให้ทดแทนบุญคุณไม่ถือเป็นค่าเช่า
ผู้เช่าให้ผู้อื่นเข้าอยู่ในห้องเช่าชั้นบน โดยผู้เข้าอยู่เสียเงินให้ผู้เช่าเล็กๆ น้อยๆทดแทนบุญคุณ ไม่ถือเป็นเงินค่าเช่า ไม่เรียกว่าเช่าช่วง