พบผลลัพธ์ทั้งหมด 55 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1019/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพิพากษาถึงที่สุดยันบุคคลภายนอก การยึดทรัพย์ต้องพิสูจน์สิทธิเหนือกว่า
โจทก์นำยึดที่ดินของจำเลย แต่ปรากฏว่าที่ดินที่โจทก์นำยึดนี้น ศาลเคยมีคำพิพากษาถึงที่สุดไว้แล้วในคดีเรื่องหนึ่งว่าเป็นของผู้ร้อง คำพิพากษานั้นย่อมใช้ยันโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกคดีดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 (2) เว้นแต่โจทก์จะพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่า โดยแสดงได้ว่ามีแปลงนั้นเป็นของจำเลย
เพียงแต่มีชื่อเป็นผู้แจ้งการครอบครองใน ส.ค.1 หาพอฟังว่าตนเป็นผู้ครอบครองที่ดินนั้นไม่
เพียงแต่มีชื่อเป็นผู้แจ้งการครอบครองใน ส.ค.1 หาพอฟังว่าตนเป็นผู้ครอบครองที่ดินนั้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ที่ดินมือเปล่า: ผู้ครอบครองเดิมต้องพิสูจน์สิทธิก่อน และมีระยะเวลาฟ้องคดีตามกฎหมาย
ที่ดินมือเปล่านั้น เมื่อจำเลยเป็นผู้ครอบครองที่พิพาทย่อมต้องด้วยข้อสันนิษฐานของกฎหมายในเบื้องต้นว่า จำเลยเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องนำสืบก่อน
โจทก์มิได้ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองที่ดินมือเปล่าภายในหนึ่งปีนับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครอง โจทก์หมดสิทธิที่จะฟ้องเอาคืนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
โจทก์มิได้ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองที่ดินมือเปล่าภายในหนึ่งปีนับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครอง โจทก์หมดสิทธิที่จะฟ้องเอาคืนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 313-314/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตที่ดินติดกัน-คูน้ำ: ข้อสันนิษฐานเจ้าของร่วมและการพิสูจน์สิทธิ
คูพิพาทเป็นเขตระหว่างที่ของโจทก์และจำเลย จึงต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1344 ว่าเจ้าของที่ดินทั้งสองข้างเป็นเจ้าของรวมกันเมื่อจำเลยอ้างว่าคูซึ่งเป็นเขตระหว่างที่โจทก์และจำเลยเป็นของจำเลยแต่ผู้เดียว จำเลยจึงมีหน้าที่นำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานของกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1286/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องขับไล่ขึ้นอยู่กับสิทธิในที่ดิน โจทก์ต้องพิสูจน์ความเป็นเจ้าของก่อน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าที่ดินของโจทก์ โจทก์ต้องการที่คืนจึงบอกเลิกการเช่ากับจำเลยและให้จำเลยออกไปจากที่เช่า จำเลยก็ไม่ออก ขอให้ขับไล่ จำเลยสู้ว่าที่พิพาทเป็นของกรมชลประทานไม่ใช่ของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ดังนี้ ศาลจำต้องวินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือไม่ เพราะโจทก์จะมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้ก็ต้องได้ความว่ที่พิพาทเป็นของโจทก์ ถ้าโจทก์ไม่มีสิทธิเหนือที่พิพาทแล้ว โจทก์ก็ไม่มีอำนาจเอาไปให้ผู้อื่นเช่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1748/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดิน: การพิสูจน์สิทธิก่อนมีผลบังคับใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
สิทธิครอบครองที่จะคุ้มครองตลอดถึงผู้รับโอนด้วย ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 4 นั้น ผู้โอนจะต้องได้มาซึ่งสิทธิครอบครองก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของรัฐโดยจำเลยไม่มีสิทธิครอบครองและไม่ได้รับอนุญาต เมื่อจำเลยรับว่าไม่มีสิทธิครอบครองเมื่อประกาศใช้ประมวลกฎหมายที่ดินถึง 3 ปีแล้ว โดยอ้างว่าซื้อที่รายนี้จากผู้อื่น จำเลยก็มีหน้าทีนำสืบใช้ได้ความว่า ผู้ขายมีสิทธิครอบครองมาก่อนใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน จึงจะได้รับความคุ้มครองตาม 4 นั้น ผู้โอนจะต้องได้มาผู้อื่น จำเลยก็มีหน้าที่นำสืบใช้ได้ความว่า ผู้ขายมีสิทธิครอบครองมาก่อนใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน จึงจะได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 4 นั้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของรัฐโดยจำเลยไม่มีสิทธิครอบครองและไม่ได้รับอนุญาต เมื่อจำเลยรับว่าไม่มีสิทธิครอบครองเมื่อประกาศใช้ประมวลกฎหมายที่ดินถึง 3 ปีแล้ว โดยอ้างว่าซื้อที่รายนี้จากผู้อื่น จำเลยก็มีหน้าทีนำสืบใช้ได้ความว่า ผู้ขายมีสิทธิครอบครองมาก่อนใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน จึงจะได้รับความคุ้มครองตาม 4 นั้น ผู้โอนจะต้องได้มาผู้อื่น จำเลยก็มีหน้าที่นำสืบใช้ได้ความว่า ผู้ขายมีสิทธิครอบครองมาก่อนใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน จึงจะได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 4 นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1748/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน: ผู้รับโอนต้องพิสูจน์สิทธิครอบครองของผู้ขายก่อนประกาศใช้กฎหมาย
สิทธิครอบครองที่จะคุ้มครองตลอดถึงผู้รับโอนด้วยตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 4 นั้น ผู้โอนจะต้องได้มาซึ่งสิทธิครอบครองก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของรัฐโดยจำเลยไม่มีสิทธิครอบครองและไม่ได้รับอนุญาต เมื่อจำเลยรับว่าจำเลยเข้าครอบครองเมื่อประกาศใช้ประมวลกฎหมายที่ดินถึง 3 ปีแล้ว โดยอ้างว่าซื้อที่รายนี้จากผู้อื่น จำเลยก็มีหน้าที่นำสืบให้ได้ความว่า ผู้ขายมีสิทธิครอบครองมาก่อนใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน จึงจะได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 4 นั้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของรัฐโดยจำเลยไม่มีสิทธิครอบครองและไม่ได้รับอนุญาต เมื่อจำเลยรับว่าจำเลยเข้าครอบครองเมื่อประกาศใช้ประมวลกฎหมายที่ดินถึง 3 ปีแล้ว โดยอ้างว่าซื้อที่รายนี้จากผู้อื่น จำเลยก็มีหน้าที่นำสืบให้ได้ความว่า ผู้ขายมีสิทธิครอบครองมาก่อนใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน จึงจะได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 4 นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 336/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์สถานะสามีภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมาย และสิทธิในทรัพย์มรดก
ฟ้องว่า โจทก์เป็นน้องเจ้ามรดกจำเลยเป็นลูกจ้างเจ้ามรดกทายาทอื่นไม่มี จำเลยลอบเอาโฉนดมรดกไปโอนรับมรดกอ้างว่าเป็นสามีขอเพิกถอนการโอน จำเลยให้การว่าจำเลยเป็นสามีเจ้ามรดกดังนี้โจทก์เป็นผู้ฟ้องจำเลยไม่รับ โจทก์ต้องพิสูจน์ที่ดินอยู่ในครอบครองของจำเลยและได้แก้ทะเบียนโอนโฉนดเป็นชื่อจำเลยไปแล้วโจทก์ฟ้องขอเพิกถอนการโอนโจทก์จะสืบว่า โจทก์เป็นทายาทเท่านั้นไม่พอต้องสืบว่าการโอนทำโดยจำเลยไม่มีอำนาจ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในทรัพย์สินของบุคคลภายนอกคดี: การบังคับคดีต้องไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย และให้โอกาสพิสูจน์สิทธิ
คำพิพากษาที่ได้กล่าวไว้ว่าให้บุคคลภายนอกซึ่งมิได้เป็นคู่ความในคดีมีส่วนได้ในทรัพย์สินใด ๆ ด้วยนั้น ย่อมไม่ผูกพันบุคคลภายนอกที่อ้างว่าตนจะพิสูจน์ได้ว่ามีสิทธิดีกว่า
ในชั้นบังคับคดีหากมีบุคคลภายนอกคัดค้านว่า ตนมีสิทธิในทรัพย์ที่ยึดดีกว่า ตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 145 ศาลควรรอการขายทอดตลาดทรัพย์นั้นไว้ก่อน และให้บุคคลภายนอกนั้นไปดำเนินคดีกับผู้ชนะคดีที่นำยึดทรัพย์ภายในกำหนดเสียก่อน ถ้าพ้นกำหนดไม่จัดการจึงให้ขายทอดตลาดทรัพย์ได้
ในชั้นบังคับคดีหากมีบุคคลภายนอกคัดค้านว่า ตนมีสิทธิในทรัพย์ที่ยึดดีกว่า ตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 145 ศาลควรรอการขายทอดตลาดทรัพย์นั้นไว้ก่อน และให้บุคคลภายนอกนั้นไปดำเนินคดีกับผู้ชนะคดีที่นำยึดทรัพย์ภายในกำหนดเสียก่อน ถ้าพ้นกำหนดไม่จัดการจึงให้ขายทอดตลาดทรัพย์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงทำแผนที่เพื่อพิสูจน์สิทธิในที่ดิน หากผลไม่เป็นไปตามตกลง ฝ่ายที่ผิดสัญญาต้องแพ้คดี
ท้ากันให้พนักงานป่าไม้ชี้ที่พิพาท ถ้าเป็นป่าสงวน โจทก์ยอมแพ้ถ้าไม่เป็นป่าสงวน จำเลยยอมแพ้ ทางราชการแจ้งว่าการสงวนป่ารายนี้ทางราชการสั่งระงับแล้ว ดังนี้จำเลยต้องแพ้ ศาลพิพากษาขับไล่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 953/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเอาทรัพย์จำนองหลุดในคดีที่เจ้าหนี้อื่นยึดทรัพย์ ผู้ร้องต้องแสดงสิทธิและพิสูจน์ราคาทรัพย์
ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้รับจำนองที่ดินไว้จากจำเลยมิได้ฟ้องผู้จำนอง (จำเลย)เพื่อเอาทรัพย์ (ที่ดิน) จำนองหลุด แต่ได้ร้องเข้ามาในคดีที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา(โจทก์)ได้ยึดที่ดินนั้นเพื่อเอาชำระหนี้เช่นนี้ผู้ร้องจะว่าเป็นหน้าที่ของผู้จำนองจะต้องนำสืบว่าราคาทรัพย์สินนั้นท่วมจำนวนเงินอันค้างชำระ ฟังไม่ได้เพราะไม่ใช่คดีระหว่างผู้รับจำนองกับผู้จำนอง
เมื่อผู้ร้องต้องการเอาทรัพย์จำนองหลุดเป็นสิทธิเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและยึดทรัพย์สินนั้นไว้ผู้ร้องก็ต้องแสดงสิทธิของตนให้ปรากฏโจทก์โต้แย้งอยู่ว่าราคาทรัพย์สินไม่ท่วมจำนวนหนี้ของผู้ร้อง ซึ่งศาลรับฟังเป็นประเด็นข้อพิพาทเมื่อผู้ร้องไม่นำสืบ ก็แสดงสิทธิที่จะเรียกเอาทรัพย์จำนองหลุดเป็นสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา289 ไม่ได้
เมื่อผู้ร้องต้องการเอาทรัพย์จำนองหลุดเป็นสิทธิเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและยึดทรัพย์สินนั้นไว้ผู้ร้องก็ต้องแสดงสิทธิของตนให้ปรากฏโจทก์โต้แย้งอยู่ว่าราคาทรัพย์สินไม่ท่วมจำนวนหนี้ของผู้ร้อง ซึ่งศาลรับฟังเป็นประเด็นข้อพิพาทเมื่อผู้ร้องไม่นำสืบ ก็แสดงสิทธิที่จะเรียกเอาทรัพย์จำนองหลุดเป็นสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา289 ไม่ได้