คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องไม่สมบูรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 146 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 55/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแจ้งความเท็จต้องระบุรายละเอียดความสัมพันธ์กับความเสียหายที่เกิดขึ้นครบถ้วน มิฉะนั้นฟ้องไม่สมบูรณ์
คดีแจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่1และที่2ให้การแก่พนักงานสอบสวนว่าโจทก์ไปซื้อน้ำมันก๊าดจากจำเลยและจำเลยที่3ให้การว่าเห็นโจทก์เข้าร่วมประชุมในห้องทำงานของช. อันเป็นความเท็จทำให้โจทก์ถูกควบคุมตัวถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยและถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนแต่ไม่ได้บรรยายว่าการแจ้งความดังกล่าวมีข้อเท็จจริงอะไรอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องที่โจทก์ถูกควบคุมตัวถูกตั้งกรรมการสอบสวนและถูกให้ออกและเป็นการแจ้งความเกี่ยวกับคดีอาญาฐานใดศาลไม่อาจเข้าใจหรือพอแปลความหมายได้ ฟ้องโจทก์ขาดข้อเท็จจริงและรายละเอียดอันจะพอให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ซึ่งศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองแม้จำเลยจะไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาในศาลชั้นต้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 55/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแจ้งความเท็จต้องระบุรายละเอียดความเชื่อมโยงกับความเสียหายที่เกิดขึ้น มิฉะนั้นฟ้องไม่สมบูรณ์
คดีแจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่1และที่2ให้การแก่พนักงานสอบสวนว่าโจทก์ไปซื้อน้ำมันก๊าดจากจำเลยและจำเลยที่3ให้การว่าเห็นโจทก์เข้าร่วมประชุมในห้องทำงานของช.อันเป็นความเท็จทำให้โจทก์ถูกควบคุมตัวถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยและถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนแต่ไม่ได้บรรยายว่าการแจ้งความดังกล่าวมีข้อเท็จจริงอะไรอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องที่โจทก์ถูกควบคุมตัวถูกตั้งกรรมการสอบสวนและถูกให้ออกและเป็นการแจ้งความเกี่ยวกับคดีอาญาฐานใดศาลไม่อาจเข้าใจหรือพอแปลความหมายได้ฟ้องโจทก์ขาดข้อเท็จจริงและรายละเอียดอันจะพอให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ซึ่งศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองแม้จำเลยจะไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาในศาลชั้นต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4770/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตควบคุมการแปรรูปไม้, ความสมบูรณ์ของฟ้อง, อำนาจสอบสวน: ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 ปี ริบของกลางทั้งหมดศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้คืนของกลางบางส่วนแก่จำเลย เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ศาลอุทธรณ์คงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจำเลยได้ทราบประกาศเขตควบคุมการแปรรูปไม้ของทางราชการแล้ว ดังนี้โจทก์ได้ระบุมาในฟ้องแล้วว่า สถานที่ซึ่งจำเลยมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองอยู่ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ แม้โจทก์มิได้แนบประกาศเขตควบคุมการแปรรูปไม้มาพร้อมฟ้อง ก็เป็นคำฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) เขตควบคุมมีอาณาบริเวณเพียงใด จำเลยกระทำผิดภายในเขตควบคุมหรือไม่ เป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์สามารถนำสืบในชั้นพิจารณาได้
อำนาจของพนักงานสอบสวนจะมีประการใดย่อมเป็นไปตามกฎหมาย และข้อบังคับทั้งหลายของทางราชการที่ระบุถึงอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนนั้น ๆ ไว้ ดังนั้นการที่จะฟังว่าพนักงานสอบสวนผู้ใดมีอำนาจในการสอบสวนหรือไม่จึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4770/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตควบคุมการแปรรูปไม้ & การฟ้องที่ไม่สมบูรณ์: ฎีกาห้ามในข้อเท็จจริง & อำนาจสอบสวน
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 ปี ริบของกลางทั้งหมดศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้คืนของกลางบางส่วนแก่จำเลย เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ศาลอุทธรณ์คงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจำเลยได้ทราบประกาศเขตควบคุมการแปรรูปไม้ของทางราชการแล้ว ดังนี้โจทก์ได้ระบุมาในฟ้องแล้วว่าสถานที่ซึ่งจำเลยมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองอยู่ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้แม้โจทก์มิได้แนบประกาศเขตควบคุมการแปรรูปไม้มาพร้อมฟ้องก็เป็นคำฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) เขตควบคุมมีอาณาบริเวณเพียงใด จำเลยกระทำผิดภายในเขตควบคุมหรือไม่ เป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์สามารถนำสืบในชั้นพิจารณาได้
อำนาจของพนักงานสอบสวนจะมีประการใดย่อมเป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับทั้งหลายของทางราชการที่ระบุถึงอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนนั้น ๆ ไว้ ดังนั้นการที่จะฟังว่าพนักงานสอบสวนผู้ใดมีอำนาจในการสอบสวนหรือไม่จึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 196/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาเช็คต้องระบุวันปฏิเสธการจ่ายเงินชัดเจน หากฟ้องไม่สมบูรณ์แก้ไขไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค โดยบรรยายฟ้องแต่เพียงวันเดือนปีที่จำเลยออกเช็ค และบรรยายต่อไปว่า เมื่อเช็คถึงกำหนดสั่งจ่าย โจทก์นำไปขึ้นเงินและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินซึ่งไม่อาจชี้ชัดหรือคาดคะเนได้ว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินวันใด เป็นฟ้องที่ไม่ปรากฏวันที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิด จึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
การขอแก้ฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 164 นั้น ฟ้องเดิมจะต้องสมบูรณ์อยู่แล้ว หากมีข้อที่จะต้องแก้หรือเพิ่มเติมอีก ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ฟ้องเดิมไม่สมบูรณ์ แต่โจทก์มาขอแก้ให้สมบูรณ์เช่นนี้หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1698/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องฉ้อโกงไม่สมบูรณ์ หากไม่ระบุทรัพย์สินที่ถูกหลอกลวง หรือมูลหนี้ที่เกี่ยวข้อง
ฟ้องโจทก์ในข้อหาความผิดฐานฉ้อโกง ไม่ได้บรรยายให้ปรากฏว่าจากการกระทำของจำเลยนั้น จำเลยได้ทรัพย์สินอะไรไปจากโจทก์ หรือโจทก์ต้องถอนทำลายเอกสารสิทธิอะไรไปบ้าง ซึ่งเป็นสาระสำคัญที่จะต้องกล่าวถึง แม้ฟ้องจะบรรยายว่าจำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายในเช็คของบุคคลภายนอกที่จำเลยไม่มีอำนาจสั่งจ่ายเพราะจำเลยไม่มีบัญชีเงินฝากในธนาคารตามเช็ค และมอบเช็คให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ก็ตามแต่ก็ไม่ได้ความว่าชำระหนี้อะไร มีมูลหนี้เกี่ยวข้องกันระหว่างโจทก์กับจำเลยอย่างไรอันพอจะแสดงให้เห็นว่าจำเลยได้ทรัพย์สินไปจากโจทก์เนื่องจากถูกจำเลยหลอกลวง ถือได้ว่าเป็นฟ้องที่ไม่ได้บรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วย พอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีซึ่งไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1698/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องฉ้อโกงไม่สมบูรณ์เมื่อไม่ระบุทรัพย์สินที่ได้ไปจากโจทก์ หรือมูลหนี้ที่ชัดเจน
ฟ้องโจทก์ในข้อหาความผิดฐานฉ้อโกงไม่ได้บรรยายให้ปรากฏว่าจากการกระทำของจำเลยนั้น จำเลยได้ทรัพย์สินอะไรไปจากโจทก์หรือโจทก์ต้องถอนทำลายเอกสารสิทธิอะไรไปบ้างซึ่งเป็นสาระสำคัญที่จะต้องกล่าวถึงแม้ฟ้องจะบรรยายว่าจำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายในเช็คของบุคคลภายนอกที่จำเลยไม่มีอำนาจสั่งจ่ายเพราะจำเลยไม่มีบัญชีเงินฝากในธนาคารตามเช็ค และมอบเช็คให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ก็ตามแต่ก็ไม่ได้ความว่าชำระหนี้อะไร มีมูลหนี้เกี่ยวข้องกันระหว่างโจทก์กับจำเลยอย่างไรอันพอจะแสดงให้เห็นว่าจำเลยได้ทรัพย์สินไปจากโจทก์เนื่องจากถูกจำเลยหลอกลวงถือได้ว่าเป็นฟ้องที่ไม่ได้บรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดข้อเท็จจริงและรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วย พอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีซึ่งไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตในการสั่งจ่ายเช็คต้องชัดเจนในฟ้อง คำฟ้องที่ไม่ระบุเจตนาทุจริตในการห้ามจ่ายเช็คถือเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยโดยเจตนาทุจริตรู้อยู่แล้วว่าไม่มีเงินในบัญชีพอจ่าย ได้บังอาจลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คหมายความว่ามีเจตนาทุจริตในการสั่งจ่ายเช็คไม่มีทางที่จะแปลได้เลยว่ามีเจตนาทุจริตในการห้ามธนาคารมิให้ใช้เงินตามเช็คคำฟ้องเช่นนี้จึงเป็นฟ้องที่ขาดองค์ประกอบความผิดเพราะปรากฏว่าจำเลยได้มีคำสั่งห้ามธนาคารมิให้จ่ายเงินตามเช็คแม้โจทก์จะอ้างถึงกฎหมายและมาตราในกฎหมายมาในฟ้องหรือนำสืบไว้ก็ไม่อาจลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3323/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่สมบูรณ์ฐานพยายามฆ่า – โจทก์ไม่ได้อ้างบทกฎหมายที่ถูกต้อง – ศาลฎีกายกฟ้อง
บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงใส่ย. โดยเจตนาฆ่าเพื่อจะเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่จำเลยกับพวกได้กระทำผิดฐานชิงทรัพย์ ฯลฯ แต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล แต่โจทก์ไม่ได้ระบุอ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 มาในคำขอท้ายฟ้อง กรณีมิ ใช่โจทก์อ้างฐานความผิด หรือบทมาตราผิด แต่โจทก์ไม่ได้ อ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการ กระทำเช่นนั้นเป็น ความผิดตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(6)มาในฟ้อง ฟ้องโจทก์ฐานพยายามฆ่าตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ประกอบด้วย มาตรา 80จึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ลงโทษจำเลยสำหรับความผิด ฐานนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 494/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแจ้งความเท็จต้องระบุรายละเอียดความจริง เพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อกล่าวหา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนด้วยข้อความอันเป็นเท็จว่า โจทก์ได้ยักยอกปูนซีเมนต์ของจำเลยที่ 1 แต่มิได้บรรยายฟ้องว่าความจริงเกี่ยวกับปูนซีเมนต์นั้นเป็นอย่างไร แม้จะกล่าวอ้างในตอนท้ายว่า โจทก์ได้ไปพบพนักงานสอบสวนแก้ข้อกล่าวหาและแสดงพยานหลักฐานว่าโจทก์มิได้ยักยอกทรัพย์ของจำเลยที่ 1 ก็เป็นเรื่องการแก้ข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวน มิใช่เป็นการบรรยายฟ้องถึงข้อเท็จจริงและรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำตามที่โจทก์ฟ้อง ฟ้องของโจทก์ย่อมขาดข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่จะแสดงให้เห็นว่าการแจ้งความของจำเลยเป็นการแจ้งความเท็จ จึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5)
of 15