พบผลลัพธ์ทั้งหมด 52 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1665/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้กำลังเพื่อป้องกันภัยอันตรายที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า
ผู้เสียหายมีรูปร่างใหญ่กว่าจำเลย เป็นฝ่ายรุกรานเข้ามาทำร้ายจำเลยก่อน จำเลยแย่งมีดจากผู้เสียหายก็แย่งไม่ได้ จึงคว้ามีดที่โต๊ะทำอิฐแทงผู้เสียหายไปหลายทีเพื่อป้องกันตัวให้พ้นอันตราย และการกระทำของจำเลยก็เกิดขึ้นโดยกะทันหันติดพันกันในขณะนั้นเอง จำเลยย่อมไม่มีโอกาสที่จะคิดเป็นอย่างอื่นนอกจากจะคิดป้องกันตัวให้พ้นอันตรายที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า ทั้งขณะที่จำเลยแทงผู้เสียหาย ภัยที่จำเลยอาจจะได้รับจากผู้เสียหายก็ยังไม่หมดไป ในขณะนั้นจำเลยก็ไม่รู้ว่าบาดแผลของผู้เสียหายนั้นจะถึงบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถจะทำร้ายจำเลยได้อีกหรือไม่ การกระทำของจำเลยไม่เกินสมควรแก่เหตุ
การที่ผู้เสียหายเข้ามาจะทำร้ายจำเลยโดยละเมิดต่อกฎหมาย จำเลยย่อมมีอำนาจที่จะทำการป้องกันตัวได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องวิ่งหนี
การที่ผู้เสียหายเข้ามาจะทำร้ายจำเลยโดยละเมิดต่อกฎหมาย จำเลยย่อมมีอำนาจที่จะทำการป้องกันตัวได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องวิ่งหนี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1465/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนภายใต้สถานการณ์ภัยอันตรายยังไม่หมดไป แม้แย่งอาวุธได้แล้ว ศาลฎีกาต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ฟัง
ผู้ตายเดินเข้ามาหาจำเลย จำเลยถามว่ามองทำไม ผู้ตายชกหน้าจำเลย 1 ที จำเลยทรุดนั่ง ผู้ตายชักมีดเงื้อแทงจำเลยอีก จำเลยแย่งมีดได้ก็เอามีดนั้นแทงผู้ตาย 1 ที ดังนี้ แม้จำเลยจะแย่งมีดได้ ก็หาได้หมายความว่าอันตรายหมดไปไม่ ถือว่าจำเลยแทงผู้ตายในขณะที่การต่อสู้ยังมีอยู่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
คดีที่ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง ซึ่งศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยแทงผู้ตายในขณะที่การต่อสู้ยังมีอยู่ ซึ่งศาลฎีกาต้องถือตาม โจทก์ฎีกาโต้เถียงข้อเท็จจริงนี้ไม่ได้
คดีที่ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง ซึ่งศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยแทงผู้ตายในขณะที่การต่อสู้ยังมีอยู่ ซึ่งศาลฎีกาต้องถือตาม โจทก์ฎีกาโต้เถียงข้อเท็จจริงนี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1494/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายเมื่อถูกทำร้ายต่อเนื่อง แม้การตอบโต้จะเกินสมควร แต่ถือเป็นการกระทำเพื่อป้องกันภัยอันตราย
ผู้ตายชักมีดพกแทงจำเลย จำเลยวิ่งหนีไปรอบๆ บ้าน จำเลยสะดุดรากไม้ล้มลง ผู้ตายตามไปทันก็เอามีดพกแทงถูกที่ขาขวา 1 แผล จำเลยลุกวิ่งหนีเข้าบ้าน ผู้ตายตามไปอีก จำเลยก็หยิงมีดพร้าถือไว้และวิ่งหนีไป เหนื่อยก็หยุดหันสู้ผู้ตายโดยฟังไป 3 ที เพราะจำเลยหนีผู้ตายก็ยังตามไปเรื่อยไม่หยุดยั้ง การที่จำเลยใช้มีดพร้าฟันไป 3 ที โดยไม่รู้ว่าถูกตรงไหนบ้าง เพราะมืดแล้ว ถือว่าได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุ เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การกระทำเพื่อความจำเป็นเพื่อป้องกันภัยอันตรายถึงชีวิต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามมาตรา 251 - 55 จำคุกจำเลย 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยผิดตามมาตรา 249 - 53 จำคุก 2 ปี ดังนี้ เป็นแก้มาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 218
ผู้ตายไล่ตามจะทำร้ายจำเลยเข้าไปในห้องผู้มีชื่อ แล้วมีการต่อสู้กัน จำเลยแทงผู้ตาย 5 แห่ง ดังนี้เป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุคดีเข้ามาตรา 249 - 53.
(ประชุมใหญ่)
ผู้ตายไล่ตามจะทำร้ายจำเลยเข้าไปในห้องผู้มีชื่อ แล้วมีการต่อสู้กัน จำเลยแทงผู้ตาย 5 แห่ง ดังนี้เป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุคดีเข้ามาตรา 249 - 53.
(ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1842/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวที่สมควรแก่เหตุ เมื่อถูกทำร้ายและมีภัยอันตรายใกล้เข้ามา
ได้ความว่าผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายบิดาจำเลย จำเลยเข้าห้ามโดยไม่มีอาวุธติดตัว ผู้ตายตามไปจะทำร้ายจำเลย จนจำเลยถอยหนีไปจนมุมไม่มีทางหนีไปอีกแล้วพอดีจำเลยพบมีดวางอยู่ จึงเอามีดกวัดแกว่งและร้องห้ามผู้ตายไม่ให้เข้ามา ผู้ตายยังขืนเข้าไปจึงถูกมีดที่หน้าผากผู้ตายไม่ล้มเอามือซ้ายปิดท้ายทอยส่วนมือขวายังถือมีดเงื้อง่าอยู่ จำเลยเอามีดเหวี่ยงไปอีกที่หนึ่งถูกท้ายทอยแล้วโดดหนี ผู้ตายอยู่ต่อมา 5-6 วันก็ตายเพราะบาดแผลนั้น ข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้วินิจฉัยเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ เพราะการกระทำของจำเลยทั้ง 2 ครั้งเป็นการกระทำต่อเนื่องในขณะเดียวกัน การที่ผู้ตายถูกฟันครั้งแรก จะให้จำเลยซึ่งอยู่ในฐานะเช่นนั้นคาดหมายว่าผู้ตายได้รับบาดเจ็บเพียงไรและจะหวนกลับมาทำร้ายอีกหรือไม่ย่อมไม่ได้ และที่จำเลยเหวี่ยงมีดไปยังท้ายทอยอีก 1 ทีเป็นการกระทำเพื่อให้โอกาสจำเลยหลีกพ้นจากภัยอันผู้ตายเป็นผู้ก่อแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1074/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและการป้องกันผู้อื่น: การกระทำเพื่อป้องกันภัยอันตรายถึงแก่ชีวิต
ผู้ตายใช้มีดแทงผู้ใหญ่บ้าน ๆ ร้องให้ช่วย จำเลยที่ 1 จึงใช้ไม้ตี 1 ทีและจำเลยที่ 2 ใช้ปืนยิง 1 นัดพร้อม ๆ กันทั้งสองคน
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความตามพยานโจทก์ผู้ตายใช้มีดโถมเข้าแทงผู้ใหญ่บ้าน ๆ หลบล้มลงและเรียกให้ช่วย จำเลยที่ 2 จึงยิงผู้ตาย 1 นัด ในทันทีทันใดขณะที่ยิงนั้นผู้ตายกำลังจะแทงผู้ใหญ่บ้าน ตัวมีดห่างตัวผู้ใหญ่บ้าน ในขณะที่ล้มอยู่ประมาณ 1 ศอก ถ้าไม่ยิงก่อนนายแผ่นอาจถูกทำร้ายถึงตายได้ ดังนั้นการกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการกระทำเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความตามพยานโจทก์ผู้ตายใช้มีดโถมเข้าแทงผู้ใหญ่บ้าน ๆ หลบล้มลงและเรียกให้ช่วย จำเลยที่ 2 จึงยิงผู้ตาย 1 นัด ในทันทีทันใดขณะที่ยิงนั้นผู้ตายกำลังจะแทงผู้ใหญ่บ้าน ตัวมีดห่างตัวผู้ใหญ่บ้าน ในขณะที่ล้มอยู่ประมาณ 1 ศอก ถ้าไม่ยิงก่อนนายแผ่นอาจถูกทำร้ายถึงตายได้ ดังนั้นการกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการกระทำเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1074/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและการป้องกันผู้อื่น: การใช้กำลังเพื่อป้องกันภัยอันตรายถึงชีวิต
ผู้ตายใช้มีดแทงผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านร้องให้ช่วย จำเลยที่ 1 จึงใช้ไม้ตี 1 ทีและจำเลยที่ 2 ใช้ปืนยิง 1 นัดพร้อมๆ กันทั้งสองคน
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความตามพยานโจทก์ว่าผู้ตายใช้มีดโถมเข้าแทงผู้ใหญ่บ้านๆ หลบล้มลงและเรียกให้ช่วย จำเลยที่ 2 จึงยิงผู้ตาย 1 นัดในทันทีทันใดขณะที่ยิงนั้นผู้ตายกำลังจะแทงผู้ใหญ่บ้าน ตัวมีดห่างตัวผู้ใหญ่บ้านในขณะที่ล้มอยู่ประมาณ 1 ศอก ถ้าไม่ยิงก่อนนายแผนอาจถูกทำร้ายถึงตายได้ ดังนั้นการกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการกระทำเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความตามพยานโจทก์ว่าผู้ตายใช้มีดโถมเข้าแทงผู้ใหญ่บ้านๆ หลบล้มลงและเรียกให้ช่วย จำเลยที่ 2 จึงยิงผู้ตาย 1 นัดในทันทีทันใดขณะที่ยิงนั้นผู้ตายกำลังจะแทงผู้ใหญ่บ้าน ตัวมีดห่างตัวผู้ใหญ่บ้านในขณะที่ล้มอยู่ประมาณ 1 ศอก ถ้าไม่ยิงก่อนนายแผนอาจถูกทำร้ายถึงตายได้ ดังนั้นการกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการกระทำเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 908/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัว: การกระทำเพื่อป้องกันชีวิตจากภัยอันตรายใกล้ชิด
ผู้เสียหายเป็นผู้ก่อเหตุและถือปืนเดินแกว่งเข้าหาจำเลยในระยะใกล้ชิด ห่างกันเพียงประมาณ 1 ศอก ส่อแสดงว่าจะทำร้ายจำเลยจำเลยใช้ขวานตีผู้เสียหาย 1 ที การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้ขวานป้องกันการถูกทำร้ายด้วยมีด
จำเลยและผู้ตายได้พูกเถึยงกัน ผู้ตายชักมีดพกยาว 1 คืบเศษ จำเลยลุกขึ้นยืน ผู้ตายลุกขึ้นยืน จำเลยถอยไปข้างฝาและหยิบขวานที่เหน็บฝาไว้พอผู้ตายเดินเข้ามา จำเลยก็ใช้ขวานทุบศีร์ษะผู้ตาย 1 ที ผู้ตายล้มลงและถึงแก่ความตายนั้น การกระทำของจำเลยเพื่อป้องกันชีวิตของจำเลยให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดขึ้นโดยผิดกฎหมาย ไม่ควรลงอาญาแก่จำเลยตาม ม.50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1528/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและการใช้กำลังสัดส่วนกับภัยอันตราย
ผู้ตายขึ้นไปใช้ไม้ตีจำเลยซึ่งนั่งห้อยเท้าอยู่ริมพื้นเรือน จนคิ้วแตก และยังใช้มีดแทงซ้ำอีก จำเลยกดมือผู้ตายที่ถือมีดไว้กับพื้นเรือน แล้วจำเลยชักมีดของจำเลยแทงผู้ตายถูกกลางหลัง 1 ที ต่อมาผู้ตายก็ถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่จำเลยแทง ดังนี้วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่ควรลงโทษ