พบผลลัพธ์ทั้งหมด 60 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 490/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองแทนโจทก์หลังสัญญาขายฝากครบกำหนด จำเลยยังไม่บอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการยึดถือ โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกคืน
จำเลยขายฝากที่ดินให้โจทก์ ระหว่างขายฝากโจทก์ยินยอมให้จำเลยเข้าทำประโยชน์ในที่ดินโดยอาศัยสิทธิโจทก์ จำเลยมิได้ใช้สิทธิไถ่ที่พิพาทภายในเวลาที่กำหนดจนที่พิพาทหลุดเป็นของโจทก์ แต่จำเลยก็ยังครอบครองที่พิพาทโดยร่วมทุนกับโจทก์ปลูกยาสูบต่อมาอีก จึงถือว่าจำเลยครอบครองที่พิพาทแทนโจทก์ โจทก์บอกให้จำเลยทำสัญญาเช่าที่พิพาท จำเลยไม่ยอมทำสัญญาเช่าโดยอ้างว่าได้ชำระเงินค่าไถ่ถอนที่พิพาทแล้ว แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยยังมิได้ชำระเงินค่าไถ่ถอนเพียงแต่การที่จำเลยไม่ยอมทำสัญญาเช่าที่พิพาทจากโจทก์ จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้บอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือ โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 672/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีอาวุธปืนในความครอบครอง: การยึดถือเพื่อผู้อื่น ไม่ถือว่ามีอาวุธปืนในครอบครอง
คำว่ามีอาวุธปืน ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 7 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 นั้น หมายความว่ามีกรรมสิทธิหรือมีไว้ในความครอบครอง ดังที่พระราชบัญญัติดังกล่าวบัญญัติไว้ในมาตรา 4 (6)
จำเลยยึดถืออาวุธปืนของกลางของผู้อื่นไว้ ไม่ทำให้จำเลยมีกรรมสิทธิ์ในอาวุธปืนนั้น และการยึดถือไว้ให้เจ้าของชั่วขณะที่เจ้าของนั่งดื่มสุราอยู่ใกล้ ๆ นั้น ไม่ทำให้จำเลยมีสิทธิครอบครองในอาวุธปืน เพราะจำเลยมิได้ยึดถือเพื่อตน สิทธิครอบครองยังคงอยู่กับเจ้าของ ถือไม่ได้ว่าจำเลยมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง จำเลยไม่มีความผิด
จำเลยยึดถืออาวุธปืนของกลางของผู้อื่นไว้ ไม่ทำให้จำเลยมีกรรมสิทธิ์ในอาวุธปืนนั้น และการยึดถือไว้ให้เจ้าของชั่วขณะที่เจ้าของนั่งดื่มสุราอยู่ใกล้ ๆ นั้น ไม่ทำให้จำเลยมีสิทธิครอบครองในอาวุธปืน เพราะจำเลยมิได้ยึดถือเพื่อตน สิทธิครอบครองยังคงอยู่กับเจ้าของ ถือไม่ได้ว่าจำเลยมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง จำเลยไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 203/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนของผู้อื่น: ผู้ดูแลบ้านไม่มีความผิดหากมิได้ยึดถือเพื่อตน
เจ้าของบ้านไม่อยู่ไปต่างจังหวัด มอบหมายให้คนทำสวนเฝ้าบ้านแม้จะมอบปืนให้ประจำตัว ปืนก็มิได้อยู่ที่ตัวคนสวน ซึ่งมิได้ยึดถือเพื่อตน เจ้าของบ้านเป็นผู้ครอบครองคนสวนไม่มีความผิดตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 640/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์: สิทธิของผู้รับโอนจากการเช่า และการเปลี่ยนแปลงลักษณะการยึดถือ
ที่พิพาทเป็นของโจทก์ ม. เป็นเพียงผู้ยึดถือครอบครองที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิตามสัญญาเช่าที่ ม. ทำกับโจทก์จำเลยรับโอนที่นาพิพาทจาก ม. ย่อมได้สิทธิไปเพียงเท่าที่ ม. มีอยู่ คือมีฐานะเป็นผู้ยึดถือที่พิพาทแทนโจทก์สืบต่อจาก ม. เท่านั้นจะถือว่าจำเลยแย่งการครอบครองจากโจทก์ไม่ได้ จนกว่าจำเลยจะได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 แต่ตามฟ้องและคำให้การไม่มีประเด็นเรื่องเปลี่ยนลักษณะการยึดถือดังกล่าวจำเลยจึงไม่มีทางที่จะอ้างว่าโจทก์มิได้ฟ้องเอาคืนการครอบครองภายใน 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1345/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป่าช้าสาธารณะ: สิทธิครอบครองและการเข้ายึดถือโดยพลการ
ป่าช้าซึ่งประชาชนเคยใช้ประโยชน์ในการเผาและฝังศพเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้จะยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนของทางการไว้และหมดสภาพเป็นป่าช้าเพราะโจทก์เข้าครอบครองประชาชนจึงไม่ได้ใช้มาหลายปีก็ตาม ตราบใดที่ทางราชการยังไม่ได้ถอนสภาพก็ยังเป็นป่าช้าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอยู่นั่นเอง การที่โจทก์เข้ายึดถือโดยพลการไม่ทำให้โจทก์ได้สิทธิครอบครองตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์: ความยึดถือในทรัพย์สินของผู้เสียหายยังไม่ขาดตอน แม้ทรัพย์สินจะตกหล่น
ผู้เสียหายกับคณะกลองยาวไปวัดในพิธีอุปสมบท คณะกลองยาวเล่นกลองยาวบนศาลาอยู่กับผู้เสียหายและญาติ ต่อมาคณะกลองยาวก็ลงจากศาลาประโคมกลองยาวนำหน้านาค โดยมีผู้เสียหายเดินตามไปผู้เสียหายไปได้ 2 เส้น รู้สึกตัวว่าสายสร้อยข้อมือทองคำหายจึงกลับขึ้นไปหาบนศาลา ปรากฏว่า ส. อายุไม่เกิน 7 ปี เก็บสร้อยนั้นได้บนศาลาแล้วเอาไปให้จำเลยที่ 2 อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวจำเลยที่ 2 เอาไปให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นมารดาที่ข้างศาลาในเวลากระชั้นชิดกัน จำเลยที่ 1 เอาสร้อยห่อพกออกจากวัดไปทันที เมื่อผู้เสียหายไปสอบถาม จำเลยที่ 1 ว่าไม่รู้เห็น พฤติการณ์เช่นนี้ถือว่าสร้อยนั้นยังอยู่ในความยึดถือของผู้เสียหาย ไม่ใช่ทรัพย์ตกหาย จำเลยที่ 1 น่าจะทราบว่าทรัพย์นั้นเป็นของพวกที่มาในคณะกลองยาวและเจ้าของจะติดตามเอาคืนจำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานลักทรัพย์ ส่วน ส. และจำเลยที่ 2 ไม่มีเจตนาทุจริต จึงไม่มีความผิด
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 25/2514)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 25/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1676/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองต้องแสดงเจตนาเปลี่ยนการยึดถือชัดเจน หากครอบครองเกิน 10 ปีแต่ไม่แจ้งเจตนา ย่อมไม่เกิดกรรมสิทธิ์
ผู้ยึดถือที่ดินมีโฉนดไว้แทนเจ้าของเกิน 10 ปีแล้ว แต่เพิ่งแสดงเจตนาเปลี่ยนการยึดถือเมื่อราว 2 ปีมานี้ ย่อมไม่อาจอ้างว่าได้กรรมสิทธิ์โดยทางครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1382
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1186/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองในที่ดินมรดก: สิทธิอาศัย-เก็บกินผลประโยชน์ ไม่ถือเป็นการยึดถือเพื่อตนเอง
เจ้ามรดกทำพินัยกรรมที่พิพาทให้จำเลย แต่ให้โจทก์มีสิทธิอาศัยและเก็บผลประโยชน์กินจนกว่าจะสิ้นชีวิต การที่โจทก์อยู่และเก็บผลประโยชน์ในที่พิพาทตามข้อกำหนดในพินัยกรรม จะถือว่าโจทก์มีเจตนายึดถือเพื่อตัวโจทก์ไม่ได้ โจทก์จึงไม่ได้สิทธิครอบครอง
การที่โจทก์อยู่และเก็บผลประโยชน์ในที่ดิน ซึ่งเจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกให้บุคคลอื่นไว้โดยพินัยกรรมระบุให้โจทก์มีสิทธิอาศัยและเก็บผลประโยชน์ในที่ดินนั้นถือ ว่าโจทก์อยู่ในฐานะผู้อาศัยสิทธิของผู้เป็นเข้าของทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม แม้โจทก์จะปกครองเก็บผลประโยชน์ในทรัพย์นั้นนานเพียงใด ก็ถือว่าเป็นการปกครองแทนผู้เป็นเจ้าของ จะยกอายุความ มรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 ขึ้นใช้ยันผู้เป็นเจ้าของไม่ได้
การที่โจทก์อยู่และเก็บผลประโยชน์ในที่ดิน ซึ่งเจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกให้บุคคลอื่นไว้โดยพินัยกรรมระบุให้โจทก์มีสิทธิอาศัยและเก็บผลประโยชน์ในที่ดินนั้นถือ ว่าโจทก์อยู่ในฐานะผู้อาศัยสิทธิของผู้เป็นเข้าของทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม แม้โจทก์จะปกครองเก็บผลประโยชน์ในทรัพย์นั้นนานเพียงใด ก็ถือว่าเป็นการปกครองแทนผู้เป็นเจ้าของ จะยกอายุความ มรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 ขึ้นใช้ยันผู้เป็นเจ้าของไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1186/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินมรดก: การครอบครองเพื่ออยู่อาศัยและเก็บผลประโยชน์ตามพินัยกรรม ไม่ถือเป็นการยึดถือเพื่อตนเอง
เจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกที่พิพาทให้จำเลย แต่ให้โจทก์มีสิทธิอาศัยและเก็บผลประโยชน์กินจนกว่าจะสิ้นชีวิต การที่โจทก์อยู่และเก็บผลประโยชน์ในที่พิพาทตามข้อกำหนดในพินัยกรรม จะถือว่าโจทก์มีเจตนายึดถือเพื่อตัวโจทก์ไม่ได้ โจทก์จึงไม่ได้สิทธิครอบครอง
การที่โจทก์อยู่และเก็บผลประโยชน์ในที่ดินซึ่งเจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกให้บุคคลอื่นไว้ โดยพินัยกรรมระบุให้โจทก์มีสิทธิอาศัยและเก็บผลประโยชน์ในที่ดินนั้น ถือว่าโจทก์อยู่ในฐานะผู้อาศัยสิทธิของผู้เป็นเจ้าของทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม แม้โจทก์จะปกครองเก็บผลประโยชน์ในทรัพย์นั้นนานเพียงใดก็ถือว่าเป็นการปกครองแทนผู้เป็นเจ้าของ จะยกอายุความมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 ขึ้นใช้ยันผู้เป็นเจ้าของไม่ได้
การที่โจทก์อยู่และเก็บผลประโยชน์ในที่ดินซึ่งเจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกให้บุคคลอื่นไว้ โดยพินัยกรรมระบุให้โจทก์มีสิทธิอาศัยและเก็บผลประโยชน์ในที่ดินนั้น ถือว่าโจทก์อยู่ในฐานะผู้อาศัยสิทธิของผู้เป็นเจ้าของทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม แม้โจทก์จะปกครองเก็บผลประโยชน์ในทรัพย์นั้นนานเพียงใดก็ถือว่าเป็นการปกครองแทนผู้เป็นเจ้าของ จะยกอายุความมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 ขึ้นใช้ยันผู้เป็นเจ้าของไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1365/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความครอบครองแทน & การเปลี่ยนแปลงลักษณะการยึดถือทรัพย์มรดก
คำบรรยายฟ้องที่พอฟังได้ว่าจำเลยได้ครอบครองทรัพย์มรดกแทนโจทก์ตลอดมาถึงวันฟ้อง
การที่จำเลยได้ครอบครองทรัพย์มรดกแทนโจทก์ซึ่งเป็นผู้เยาว์ตลอดมาตั้งแต่เจ้ามรดกตาย แม้ต่อมาโจทก์บรรลุนิติภาวะแล้ว จำเลยก็ยังคงครอบครองแทนต่อมาอีก โจทก์ย่อมฟ้องคดีเกิน 10 ปีนับตั้งแต่เจ้ามรดกตายได้ คดีไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1748
การที่จำเลยบอกโจทก์ว่าจะไม่ให้ทรัพย์มรดกที่เจ้ามรดกให้นั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยพูดไปด้วยความโมโห ไม่มีเจตนาจริงจังก็ไม่ถือว่าจำเลยได้เปลี่ยนลักษณะการยึดถือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 กรณีไม่ใช่โจทก์ถูกจำเลยแย่งการครอบครอง โจทก์จึงไม่ต้องฟ้องคดีภายใน 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
การที่จำเลยได้ครอบครองทรัพย์มรดกแทนโจทก์ซึ่งเป็นผู้เยาว์ตลอดมาตั้งแต่เจ้ามรดกตาย แม้ต่อมาโจทก์บรรลุนิติภาวะแล้ว จำเลยก็ยังคงครอบครองแทนต่อมาอีก โจทก์ย่อมฟ้องคดีเกิน 10 ปีนับตั้งแต่เจ้ามรดกตายได้ คดีไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1748
การที่จำเลยบอกโจทก์ว่าจะไม่ให้ทรัพย์มรดกที่เจ้ามรดกให้นั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยพูดไปด้วยความโมโห ไม่มีเจตนาจริงจังก็ไม่ถือว่าจำเลยได้เปลี่ยนลักษณะการยึดถือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 กรณีไม่ใช่โจทก์ถูกจำเลยแย่งการครอบครอง โจทก์จึงไม่ต้องฟ้องคดีภายใน 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375