คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รถไฟ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 49 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2755/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทเลินเล่อของทางการรถไฟฯ กรณีถอดเครื่องกั้นถนนซ่อมโดยไม่จัดระบบป้องกันอันตราย ถือเป็นฝ่ายประมาทมากกว่า
ตรงถนนตัดผ่านทางรถไฟ จำเลยมีสัญญาณไฟอัตโนมัติใช้ควบคู่กับคานเครื่องกั้นถนน เมื่อรถไฟแล่นผ่านจะมีคานเครื่องกั้นถนนปิดกั้นมิให้ยานพาหนะผ่านทางรถไฟ การที่จำเลยถอดเอาคานเครื่องกั้นถนนออกไปซ่อมโดยไม่จัดให้เจ้าหน้าที่คอยให้สัญญาณ หรือทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อป้องกันภยันตรายอันอาจจะเกิดขึ้นได้ในขณะที่รถไฟแล่นผ่าน คงมีแต่สัญญาณไฟอัตโนมัติ ภริยาโจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นมารดาโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 5 ขับรถยนต์ฝ่าฝืนสัญญาณไฟเข้าไปชนกับรถไฟของจำเลยซึ่งแล่นผ่านมาถึงแก่ความตาย ดังนี้ ถือว่าฝ่ายจำเลยประมาทมากกว่าฝ่ายโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1842/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสั่งไล่ออกลูกจ้าง: การปฏิบัติตามระเบียบและคำสั่งมอบอำนาจของผู้ว่าการรถไฟฯ
โจทก์เป็นลูกจ้างของการรถไฟแห่งประเทศไทยจำเลยที่ 1 โจทก์ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานทุจริตต่อหน้าที่และประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงอันเป็นความผิดซึ่งมีโทษถึงไล่ออกเมื่อมีการตั้งกรรมการสอบสวนกรณีที่โจทก์ถูกกล่าวหาดังกล่าวและจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาได้พิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวนแล้วเห็นว่าโจทก์ทำความผิดจริงก็มีคำสั่งไล่โจทก์ออกจากงานได้ตามที่ได้รับมอบอำนาจ โดยมิต้องนำเรื่องเสนอที่ประชุมผู้อำนวยการฝ่ายและหัวหน้าสำนักงานให้พิจารณาเสียก่อนไม่เป็นการฝ่าฝืนระเบียบการและคำสั่งของจำเลยที่ 1 แต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2614/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่รถไฟละเลยปิดกั้นถนน ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถไฟชนรถยนต์ ผู้ประกอบการต้องรับผิดร่วมด้วย
จำเลยที่ 2 เป็นเจ้าหน้าที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยจำเลยที่ 3 มีหน้าที่ปิดกั้นแผงกั้นถนนเมื่อมีขบวนรถไฟวิ่งผ่านตรงที่ทางรถไฟตัดผ่านถนน ในวันเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ละทิ้งหน้าที่ไป ตามพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวงพระพุทธศักราช 2464 มาตรา 72 บัญญัติว่าเมื่อทางรถไฟผ่านข้ามถนนสำคัญเสมอระดับ ให้ทำประตูหรือขึงโซ่หรือทำราวกั้นขวางถนน ซึ่งกฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่โดยตรงของจำเลยที่ 3 ต้องป้องกันภัยในการที่จะเดินรถไฟตัดผ่านถนนการที่จำเลยที่ 2 ไม่นำแผงมาปิดกั้นถนนขณะที่ขบวนรถไฟจะแล่นผ่านจึงเป็นการละเลยไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ถือได้ว่าเป็นการประมาทอย่างร้ายแรงถ้าหากปิดแผงกั้นถนนแล้ว รถยนต์ของโจทก์ที่ 1 ก็ไม่อาจขับผ่านเข้าไปถึงทางรถไฟจนเกิดเหตุชนกันได้ จำเลยที่ 2 มีส่วนประมาทมากกว่าโจทก์ที่ 1 ที่จำเลยที่ 3 อ้างว่าวันเกิดเหตุพนักงานรถไฟบางส่วนนัดหยุดงาน ไม่สามารถหาคนมาปฏิบัติงานให้ทันท่วงทีได้นั้น จะถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้ จำเลยที่ 3 ต้องร่วมรับผิด
โจทก์มีสิทธิเรียกค่ารักษาพยาบาลที่ต้องรักษาต่อที่บ้าน ค่าทำศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า และค่าที่ต้องทนทุกข์เวทนาที่ได้รับจากการละเมิดของจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2614/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่รถไฟและการละเลยหน้าที่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถไฟชนรถยนต์ ผู้ประกอบการต้องรับผิด
จำเลยที่ 2 เป็นเจ้าหน้าที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยจำเลยที่ 3 มีหน้าที่ปิดกั้นแผงกั้นถนนเมื่อมีขบวนรถไฟวิ่งผ่านตรงที่ทางรถไฟตัดผ่านถนน ในวันเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ละทิ้งหน้าที่ไป ตามพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวงพระพุทธศักราช 2464 มาตรา 72 บัญญัติว่าเมื่อทางรถไฟผ่านข้ามถนนสำคัญเสมอระดับ ให้ทำประตูหรือขึงโซ่หรือทำราวกั้นขวางถนน ซึ่งกฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่โดยตรงของจำเลยที่ 3 ต้องป้องกันภัยในการที่จะเดินรถไฟตัดผ่านถนนการที่จำเลยที่ 2 ไม่นำแผงมาปิดกั้นถนนขณะที่ขบวนรถไฟจะแล่นผ่านจึงเป็นการละเลยไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ถือได้ว่าเป็นการประมาทอย่างร้ายแรงถ้าหากปิดแผงกั้นถนนแล้ว รถยนต์ของโจทก์ที่ 1 ก็ไม่อาจขับผ่านเข้าไปถึงทางรถไฟจนเกิดเหตุชนกันได้ จำเลยที่ 2 มีส่วนประมาทมากกว่าโจทก์ที่ 1 ที่จำเลยที่ 3 อ้างว่าวันเกิดเหตุพนักงานรถไฟบางส่วนนัดหยุดงาน ไม่สามารถหาคนมาปฏิบัติงานให้ทันท่วงทีได้นั้น จะถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้ จำเลยที่ 3 ต้องร่วมรับผิด
โจทก์มีสิทธิเรียกค่ารักษาพยาบาลที่ต้องรักษาต่อที่บ้าน ค่าทำศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า และค่าที่ต้องทนทุกข์เวทนาที่ได้รับจากการละเมิดของจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2497-2500/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของรถไฟต่ออุบัติเหตุทางตัดกับถนน: หน้าที่ป้องกันภัยตามกฎหมาย
ในคดีที่โจทก์และจำเลยต่างฟ้องซึ่งกันและกันโดยกล่าวอ้างว่าอีกฝ่ายหนึ่งประมาทและให้รับผิดฐานละเมิดซึ่งจำเลยเรียกค่าเสียหายเพียง 800 บาทเศษนั้นเมื่อศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยประมาทฝ่ายเดียวและให้ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์จำเลยอุทธรณ์ว่าเป็นความประมาทของโจทก์ฝ่ายเดียวหรือเป็นความประมาทร่วมกันของจำเลยและโจทก์ เป็นการอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มาตรา 3 ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยให้ จึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในข้อนี้
พระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464 ส่วนที่ 5ว่าด้วยความปราศจากภัยแห่งประชาชน มาตรา 72, 88 บัญญัติว่า เมื่อทางรถไฟผ่านข้ามถนนสำคัญ ให้ทำประตูหรือขึงโซ่หรือทำรางกั้นขวางถนนหรือทางนั้น ๆ ตามควรแก่การพนักงานรถไฟคนใดละเลยไม่กระทำตามหน้าที่โดยประมาทท่านว่ามีความผิด ดังนี้การรถไฟ ฯ จำเลยผู้ดำเนินกิจการรถไฟมีหน้าที่ต้องป้องกันภัยในการที่จะเดินรถไฟผ่านถนนสายนั้นๆ
ตรงที่เกิดเหตุเป็นที่ซึ่งถนนตัดกับทางรถไฟ จำเลยได้ทำเครื่องกั้นถนนไว้โดยใช้คนหมุนขึ้นลงปิดกั้นถนนขณะรถไฟแล่นผ่าน แต่ขณะเกิดเหตุพนักงานของจำเลยละเว้นไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ โดยไม่ปิดเครื่องกั้นถนน อันเป็นการฝ่าฝืนบทบังคับแห่งกฎหมายที่ประสงค์จะปกป้องอันตรายประชาชน เป็นเหตุให้รถยนต์ของโจทก์แล่นผ่านเข้าไปถูกรถไฟของจำเลยชนเกิดความเสียหายขึ้น ถือได้ว่าพนักงานของจำเลยประมาทเลินเล่อ เพราะฝ่าฝืนกฎหมาย จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างต้องร่วมรับผิดในผลแห่งการกระทำละเมิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2195/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของรถไฟกับการส่งของทางรถไฟ: ละเมิด vs. สัญญา
ส่งรถแทรกเตอร์ทางรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่ใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ตาม มาตรา 609 ในส่วนที่บัญญัติไว้ใน พระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464 ซึ่ง มาตรา 51 บัญญัติว่า การรถไฟไม่รับผิดเว้นแต่ได้ส่งโดยประกัน จำเลยได้รับความคุ้มครองเฉพาะความรับผิดทางสัญญา แต่โจทก์ฟ้องการรถไฟฯ เรียกค่าเสียหายฐานละเมิดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1946/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากการชนกับรถไฟ: การปฏิบัติตามกฎหมายรถไฟและการพิจารณาความสำคัญของทางตัด
มาตรา 72 และ 73 แห่งพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวงพระพุทธศักราช 2464 ให้อำนาจการรถไฟฯ เป็นผู้พิจารณาว่าทางรถไฟผ่านเข้ามถนนสายใดสำคัญหรือไม่ ถ้าเป็นทางสายสำคัญก็ให้ปฏิบัติตามมาตรา 72 ถ้าเป็นทางสายไม่สู้สำคัญก็ให้ปฏิบัติตามมาตรา 73 หาได้บังคับให้การรถไฟฯ จำต้องทำประตูหรือขึงโซ่หรือทำราวกั้นขวางถนนบรรดาที่ตัดผ่านทางรถไฟทุกสายไม่
ก่อนถึงทางรถไฟตรงที่เกิเหตุมีป้ายบอกว่าระวังรถไฟ มีป้ายใช้ความเร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตอนจะถึงทางรถไฟมีเลข 20 แล้วมีเสาแผงสัญญาณไฟ ขณะนั้นสัญญาณไฟวาบและระฆังทำงานได้ตามปกติ แสดงว่าโจทก์ได้ปฏิบัติตามมาตรา 73 แล้ว ไม่เป็นการประมาทเพราะฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 529/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถโดยสาร ชนรถไฟ ทำให้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส ศาลไม่ลดโทษแม้รับสารภาพ
จำเลยขับรถยนต์โดยสารประจำทางด้วยความประมาทเพื่อตัดหน้ารถไฟ รถจำเลยจึงถูกรถไฟชน เป็นเหตุให้คนโดยสารในรถจำเลยตาย 25 คน และบาดเจ็บ 36 คน การกระทำของจำเลยเกิดผลเสียหายร้ายแรงมาก และเกิดเหตุในเวลากลางวัน ต่อหน้าคนจำนวนมาก ยากที่จำเลยจะหลบหนีทัน แม้จำเลยจะรับสารภาพ ก็ไม่เป็นเหตุถึงขนาดที่จะต้องลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 941/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกคืนที่ดินเวนคืนเพื่อกิจการรถไฟ แม้จะไม่ได้ใช้ประโยชน์จริง เจ้าของไม่มีสิทธิเรียกร้องคืน
พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2477 มาตรา 32กำหนดให้เจ้าของเดิมหรือทายาทหรือผู้รับโอนมีสิทธิเรียกทรัพย์สินคืนได้เฉพาะแต่ในกรณีที่เวนคืนมาเพื่อการสาธารณูปโภคหรือการเหมืองแร่แต่ถ้าเวนคืนมาเพื่อใช้ในกิจการของรถไฟ และที่ดินที่เวนคืนได้ตกเป็นของรถไฟโดยโดยชอบแล้ว แม้รถไฟจะมิได้เคยใช้หรือกำลังใช้ในกิจการของรถไฟ เจ้าของหรือทายาทหรือผู้รับโอนก็ไม่มีสิทธิที่จะเรียกทรัพย์สินนั้นคืนได้ตามมาตรา 32 นี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 941/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกคืนที่ดินเวนคืนเพื่อกิจการรถไฟ แม้ยังมิได้ใช้ประโยชน์ ย่อมไม่มีสิทธิเรียกคืนได้ตาม พ.ร.บ.เวนคืน
พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2477 มาตรา 32 กำหนดให้เจ้าของเดิมหรือทายาทหรือผู้รับโอนมีสิทธิเรียกทรัพย์สินคืนได้เฉพาะแต่ในกรณีที่เวนคืนมาเพื่อการสาธารณูปโภคหรือการเหมืองแร่แต่ถ้าเวนคืนมาเพื่อใช้ในกิจการของรถไฟ และที่ดินที่เวนคืนได้ตกเป็นของรถไฟโดยโดยชอบแล้ว แม้รถไฟจะมิได้เคยใช้หรือกำลังใช้ในกิจการของรถไฟ เจ้าของหรือทายาทหรือผู้รับโอนก็ไม่มีสิทธิที่จะเรียกทรัพย์สินนั้นคืนได้ตามมาตรา 32 นี้
of 5