พบผลลัพธ์ทั้งหมด 44 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1071/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รายละเอียดการทำร้ายร่างกายในฟ้องไม่ตรงกับข้อเท็จจริงตามการพิจารณา ไม่ถึงเหตุยกฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัสโดยจำเลยใช้มือชกถูกแก้มและเตะถูกขากรรไกรซ้ายหัก ดังนี้แม้จะได้ความตามทางพิจารณาว่าจำเลยเตะผู้เสียหายขากรรไกรขวาหักต่างกับฟ้องจริงก็ดี ข้อเท็จจริงนี้ก็เป็นแต่เพียงรายละเอียดของฟ้องไม่ใช่ข้อสำคัญแห่งฟ้อง ไม่ถึงกับต้องยกฟ้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องยักยอกทรัพย์ที่เคลือบคลุม ทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดี
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยยักยอกเงินของบริษัทหลายครั้งเป็นจำนวนเงินจำนวนหนึ่ง ในระหว่างเวลาประมาณ 3 เดือนขอให้ลงโทษโดยมิได้บรรยายให้แจ้งชัดว่ายักยอกเงินรายไหน ประเภทใดทั้งที่โจทก์รู้รายการละเอียดเหล่านั้นในสำนวนการสอบสวนอยู่ดีแล้วดังนี้ ได้ชื่อว่าฟ้องเคลือบคลุมจะลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การระบุเวลาเกิดเหตุ
ฟ้องของโจทก์บอกแต่ วันเดือนปีที่จำเลยกระทำผิด ส่วนเวลาบอกแต่เพียง'เวลากลาง'จะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน โจทก์ไม่บอก ดังนี้ ถือว่าเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยเห็นว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด และฟ้องของโจทก์ก็ไม่สมบูรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายโจทก์ฎีกาว่าฟ้องของโจทก์สมบูรณ์และว่าจำเลยกระทำผิดดังนี้ แม้ศาลฎีกาจะเห็นว่าฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 และฎีกาในข้อฟ้องสมบูรณ์อันเป็นฎีกาข้อกฎหมายนั้นแม้ศาลฎีกาจะพิพากษาให้โจทก์ชนะโดยฟังว่าฟ้องสมบูรณ์ก็ตาม แต่ผลของคำพิพากษาก็ยังคงต้องปล่อยจำเลยอยู่นั่นเอง ดังนี้ศาลฎีกาก็มีสิทธิรับฎีกาของโจทก์ไว้วินิจฉัยให้ในข้อกฎหมายนั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยเห็นว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด และฟ้องของโจทก์ก็ไม่สมบูรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายโจทก์ฎีกาว่าฟ้องของโจทก์สมบูรณ์และว่าจำเลยกระทำผิดดังนี้ แม้ศาลฎีกาจะเห็นว่าฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 และฎีกาในข้อฟ้องสมบูรณ์อันเป็นฎีกาข้อกฎหมายนั้นแม้ศาลฎีกาจะพิพากษาให้โจทก์ชนะโดยฟังว่าฟ้องสมบูรณ์ก็ตาม แต่ผลของคำพิพากษาก็ยังคงต้องปล่อยจำเลยอยู่นั่นเอง ดังนี้ศาลฎีกาก็มีสิทธิรับฎีกาของโจทก์ไว้วินิจฉัยให้ในข้อกฎหมายนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเพียงพอของฟ้องคดีพนัน: ไม่ต้องบรรยายวิธีเล่นละเอียด หากบรรยายการกระทำและสินพนันชัดเจน
โจทก์ฟ้องบรรยายว่าจำเลยสมคบกันเล่นการพนันสลากกินรวม พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน โดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดให้มีการเล่นขึ้นเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งจำเลยทั้งสองกับพวกที่ยังหลบหนีอยู่ เป็นผู้เข้าเล่น ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.กาาพนันดังนี้ เป็นฟ้องที่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) แล้วไม่จำเป็นจะต้องบรรยายวิธีเล่นโดยละเอียดอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1792/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีมรดกต่อเนื่อง: ฟ้องแบ่งมรดกโดยอ้างอิงคำพิพากษาเดิม แม้ฟ้องมีรายละเอียดขาดตกบกพร่อง แต่หากข้อเท็จจริงปรากฏในสำนวนเดิมถือว่าสมบูรณ์
ในคดีก่อนศาลฎีกาวินิจฉัยไม่ตัดสิทธิที่จะให้โจทก์ว่ากล่าวเอาส่วนของตน หรือว่ากล่าวกันในทางมรดก โจทก์จึงมาฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดกจากจำเลยโดยบรรยายฟ้องท้าวความถึงคดีเดิมด้วย ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าเป็นเรื่องสืบเนื่องมาจากคดีก่อน ฉะนั้นแม้คำบรรยายฟ้องจะขาดตกบกพร่องในรายละเอียดไปบ้าง เช่นไม่ได้กล่าวถึง วันเดือนปีที่เจ้ามรดกตาย ตนได้ปกครองทรัพย์มาอย่างไร เหล่านี้ แต่เมื่อปรากฏว่าข้อความเหล่านี้มีชัดอยู่แล้วในสำนวนก่อนและในการพิจารณาคดีนี้จำเลยก็รับรองเวลาตายของเจ้ามรดกแล้วก็ย่อมถือได้ว่าฟ้องของโจทก์ในคดีนี้สมบูรณ์แล้ว ไม่เป็นการเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1276/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมคำฟ้องที่ขาดรายละเอียดสถานที่เกิดเหตุ หากจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้ ศาลอนุญาตได้
ฟ้องของโจทก์ไม่ได้ระบุสถานที่เกิดเหตุ โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องในวันเดียวกับที่จำเลยยื่นคำให้การยังไม่ทันลงมือสืบพยาน โดยกล่าวว่าโจทก์พิมพ์ฟ้องขาดตกบกพร่องไปเพราะความหลงลืม ดังนี้ ไม่มีเหตุจะว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ในคดีเรื่องสถานที่เกิดเหตุแต่ประการใด โจทก์ย่อมขอเพิ่มเติมฟ้องได้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่20/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 739/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุเวลาในข้อกล่าวหาลักทรัพย์ ความพอเพียงของรายละเอียดฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์ระหว่าง 2 วัน เวลาไม่ปรากฏแม้พยานให้การในชั้นสอบสวนและในชั้นศาล ถึงวันเวลากระทำผิดชัดเจน ก็คงถือว่าฟ้องของโจทก์ระบุรายละเอียดพอควรแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 273/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุปีที่กระทำผิดในฟ้องอาญา การไม่ระบุปีถือว่าฟ้องไม่ชัดเจน
ฟ้องไม่ระบุปีที่กระทำผิดถือว่าไม่มีรายละเอียดพอต้องยกฟ้อง
ฟ้องไม่ระบุปี แม้ระบุว่าจับจำเลยได้ในวันนั้น และกล่าววันเดือนปีที่จำเลยถูกควบคุมระหว่างสอบสวนก็ไม่พอแสดงว่าปีที่กระทำผิดเป็นปีเดียวกับปีที่ถูกควบคุม เพราะการจะทำผิดและการถูกควบคุมอาจต่างปีกันได้
ฟ้องไม่ระบุปี แม้ระบุว่าจับจำเลยได้ในวันนั้น และกล่าววันเดือนปีที่จำเลยถูกควบคุมระหว่างสอบสวนก็ไม่พอแสดงว่าปีที่กระทำผิดเป็นปีเดียวกับปีที่ถูกควบคุม เพราะการจะทำผิดและการถูกควบคุมอาจต่างปีกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 273/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุปีที่กระทำผิดในฟ้องอาญา หากไม่ชัดเจน แม้มีข้อมูลวันจับกุมและควบคุมตัว ก็ถือว่าฟ้องไม่ละเอียดพอ ต้องยกฟ้อง
ฟ้องไม่ระบุปีที่กระทำผิดถือว่าไม่มีรายละเอียดพอต้องยกฟ้อง
ฟ้องไม่ระบุปี แม้ระบุว่าจับจำเลยได้ในวันนั้นและกล่าววันเดือนปีที่จำเลยถูกควบคุมระหว่างสอบสวนก็ไม่พอแสดงว่าปีที่กระทำผิดเป็นปีเดียวกับปีที่ถูกควบคุมเพราะการจะทำผิดและการถูกควบคุมอาจต่างปีกันได้
ฟ้องไม่ระบุปี แม้ระบุว่าจับจำเลยได้ในวันนั้นและกล่าววันเดือนปีที่จำเลยถูกควบคุมระหว่างสอบสวนก็ไม่พอแสดงว่าปีที่กระทำผิดเป็นปีเดียวกับปีที่ถูกควบคุมเพราะการจะทำผิดและการถูกควบคุมอาจต่างปีกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 252/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขเวลาเกิดเหตุในฟ้องคดี: เหตุอันควรและผลกระทบต่อการต่อสู้คดี
โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้เวลาเกิดเหตุ เวลากลางวัน เป็นเวลากลางคืน ในวันที่จำเลยให้การนั้น โดยกล่าวว่าเวลาในฟ้องเดิมพิมพ์ผิดความจริงไปถือว่าเป็นเหตุอันควรให้แก้ได้ตาม มาตรา 163
โจทก์ขอแก้เวลาเกิดเหตุโดยที่จำเลยทราบเวลาเกิดเหตุดีอยู่แล้วแสดงว่าจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้อย่างใด
การขอแก้เวลาเกิดเหตุถือว่าเป็นการแก้รายละเอียดในฟ้อง
โจทก์ขอแก้เวลาเกิดเหตุโดยที่จำเลยทราบเวลาเกิดเหตุดีอยู่แล้วแสดงว่าจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้อย่างใด
การขอแก้เวลาเกิดเหตุถือว่าเป็นการแก้รายละเอียดในฟ้อง