คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ร่วมกัน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 229 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1911/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมกันในคดีละเมิดสิทธิบัตร: การเชื่อมโยงคำพิพากษาคดีอาญากับความรับผิดทางแพ่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่2และจำเลยที่1ฐานร่วมกันผลิตผลิตภัณฑ์โดยใช้กรรมวิธีตามสิทธิบัตรของโจทก์โดยไม่มีสิทธิตามกฎหมายและฐานร่วมกันขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวโดยรู้อู่แล้วว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตหรือใช้กรรมวิธีตามสิทธิบัตรของโจทก์โดยไม่มีสิทธิตามกฎหมายตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตรพ.ศ.2522มาตรา85และ86คดีดังกล่าวถึงที่สุดแล้วเป็นเรื่องที่จำเลยทั้งสองเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา83ด้วยกันโจทก์มาฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีนี้ว่าจำเลยทั้งสองได้ผลิตเครื่องผลิตก๊าซจากแกลบสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงตามกรรมวิธีการประดิษฐ์ของโจทก์ซึ่งตรงกับข้อถือสิทธิตามสิทธิบัตรของโจทก์ซึ่งเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาดังกล่าวการพิพากษาคดีนี้จึงต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาว่าจำเลยที่2ได้ร่วมกับจำเลยที่1กระทำความผิดอันเป็นการกระทำละเมิดสิทธิบัตรของโจทก์ต่อโจทก์ด้วยจำเลยที่2จึงต้องรับผิดเป็นส่วนตัวร่วมกับจำเลยที่1ต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 117/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมกันของจำเลย
ซึ่งจำเลยที่ 1 และที่ 2 จะต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 3 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการทำร้ายร่างกายร่วมกัน การประเมินความรับผิดชอบทางอาญาเฉพาะตัว และการลดโทษ
จำเลยที่1และผู้ตายชกต่อยกันจำเลยที่3เข้าไปเตะที่กลางหลังผู้ตายส่วนจำเลยที่2เข้าไปตบหน้าผู้ตายเป็นเหตุให้ผู้ตายเสียหลักล้มแล้วจำเลยที่1เข้ากระทืบที่ร่างผู้ตายบริเวณลำคอหลายครั้งจนกระทั่งผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้เมื่อทางนำสืบของพยานโจทก์ไม่ปรากฎว่าจำเลยที่2และที่3มีเจตนาร่วมกันไปฆ่าผู้ตายแต่แรกประกอบกับจำเลยทั้งสามไม่ได้ใช้อาวุธทำร้ายผู้ตายแต่อย่างใดอีกทั้งการกระทำของจำเลยที่2และที่3ล้วนแต่มิได้ก่อให้เกิดบาดแผลแก่ผู้ตายถึงขนาดจะเป็นเหตุแห่งความตายได้ส่วนที่ผู้ตายถึงแก่ความตายเนื่องจากจำเลยที่1กระทืบที่ลำตัวและคอผู้ตายเป็นการกระทำและเป็นเจตนาที่เกิดขึ้นเฉพาะตัวจำเลยที่1ที่ต้องการให้ผู้ตายถึงแก่ความตายซึ่งจำเลยที่2และที่3ไม่อาจคาดหมายหรือเล็งเห็นมาก่อนว่าจำเลยที่1อาจฆ่าผู้ตายจึงไม่อาจถือได้ว่าจำเลยที2และที3มีเจตนาร่วมกันเป็นตัวการฆ่าผู้ตายทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยที่2และที่3มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตายมาก่อนเหตุทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นระหว่างเดินทางไปด้วยกันน่าเชื่อว่าเหตุทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นทันทีทันใดจึงต้องสันนิษฐานให้เป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิดว่าจำเลยทั้งสามไม่มีเจตนาร่วมกันทำร้ายผู้ตายแต่เป็นกรณีที่ต่างคนต่างทำร้ายผู้ตายเป็นการเฉพาะตัวจำเลยที่2และที่3จึงต้องรับผิดเฉพาะการกระทำของตนซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา295ประกอบมาตรา83เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันขนส่งยาเสพติด: พยานหลักฐานเชื่อมโยงจำเลยที่ 1 ถึงการกระทำผิด
พยานโจทก์คือจ่าสิบตำรวจ ม. และสิบตำรวจโท อ. ได้ทำการตรวจค้นรถยนต์โดยสารประจำทางอย่างเปิดเผยต่อหน้าผู้โดยสารจำนวนมากเชื่อว่าปฏิบัติหน้าที่โดยชอบธรรมส่วนนางสาว ว.ซึ่งเป็นพยานคนกลางก็ได้ทำหน้าที่พนักงานบริการประจำรถยนต์โดยสารประจำทางมาหลายเดือนย่อมสามารถจำพฤติกรรมของผู้โดยสารและตำแหน่งที่วางกระเป๋าใส่เสื้อผ้าหรือสิ่งของต่างๆของผู้โดยสารได้ดีพอสมควรประกอบกับขณะที่จำเลยที่1นำกระเป๋าทั้งสองใบซึ่งมีเฮโรอีนบรรจุอยู่ไปเก็บไว้บนชั้นวางของก็ยังไม่มีผู้โดยสารคนอื่นอยู่บนรถทั้งจำเลยที่1เป็นผู้เลือกวางกระเป๋าในลักษณะที่ผิดปกติเองด้วยเป็นเหตุให้นางสาว ว. เกิดความสงสัยย่อมจดจำการกระทำของจำเลยที่1ได้แม่นยำเป็นพิเศษกว่าผู้โดยสารรายอื่นเมื่อคำเบิกความของพยานโจทก์ทั้งสามนี้สอดคล้องเชื่อมโยงกันไม่มีข้อพิรุธหรือข้อระแวงสงสัยว่าจะปรักปรำให้ร้ายจำเลยที่1จึงมีน้ำหนักในการรับฟัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 566/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น: การพิสูจน์เจตนาและความเกี่ยวข้องของจำเลย
การที่ ส. ยิงปืนไปที่หน้าต่างบ้านผู้ตายโดยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าในขณะนั้นจะฟังว่าจำเลยรู้เห็นหรือคบคิดกับ ส. มาก่อนหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5306/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนายึดถือครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมายร่วมกัน
อาวุธปืนของกลางเป็นอาวุธปืนพกรีวอลเวอร์ชนิดประกอบขึ้นเองจำเลยน่าที่จะทราบดีมาตั้งแต่ต้นว่าของกลางที่ ณ.นำมาฝากเป็นของผิดกฎหมายแต่จำเลยก็ยังคงยินดีรับฝากโดยยอมให้นำมาเก็บในกระเป๋าเสื้อผ้าของตน ทั้งยังนั่งรถยนต์แท็กซี่ออกจากโรงงานไปพร้อมกัน แม้กระทั่งก่อนที่จะถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมเพียงเล็กน้อย เจ้าพนักงานตำรวจก็ยังเห็นจำเลยและ ณ.ใช้มือจับกระเป๋าเสื้อผ้าของจำเลยคนละข้าง พฤติการณ์ของจำเลยและ ณ.ดังที่ได้กล่าวแสดงให้เห็นว่าทั้งจำเลยและ ณ.ต่างมีเจตนายึดถือครอบครองกระเป๋าเสื้อผ้าของจำเลย รวมทั้งอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้ามาด้วยกันตั้งแต่เริ่มขึ้นรถยนต์แท็กซี่มาด้วยกันตลอดมาจนกระทั่งถูกเจ้าพนักงานตำรวจทำการจับกุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5306/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมายร่วมกัน โดยมีเจตนายึดถือครอบครองร่วมกัน แม้ผู้หนึ่งจะอ้างว่าไม่รู้
อาวุธปืนของกลางเป็นอาวุธปืนพกรีวอลเวอร์ชนิดประกอบขึ้นเองจำเลยน่าที่จะทราบดีมาตั้งแต่ต้นว่าของกลางที่ณ.ที่มาฝากเป็นของผิดกฎหมายแต่จำเลยก็ยังคงยินดีรับฝากโดยยอมให้นำมาเก็บในกระเป๋าเสื้อผ้าของตนทั้งยังนั่งรถยนต์แท็กซี่ออกจากโรงงานไปพร้อมกันแม้กระทั่งก่อนที่จะถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมเพียงเล็กน้อยเจ้าพนักงานตำรวจก็ยังเห็นจำเลยและณ.ใช้มือจับกระเป๋าเสื้อผ้าของจำเลยคนละข้างพฤติการณ์ของจำเลยและณ.ดังที่ได้กล่าวแสดงให้เห็นว่าทั้งจำเลยและณ.ต่างมีเจตนายึดถือครอบครองกระเป๋าเสื้อผ้าของจำเลยรวมทั้งอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้ามาด้วยกันตั้งแต่เริ่มขึ้นรถยนต์แท็กซี่มาด้วยกันตลอดมาจนกระทั่งถูกเจ้าพนักงานตำรวจทำการจับกุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 185/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด ศาลรับฟังพยานหลักฐานเชื่อมโยงจำเลยที่ 2-3 มีส่วนร่วม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสามร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนและนำสืบการวางแผนจับโดยให้เจ้าพนักงานตำรวจปลอมตัวเป็นผู้ซื้อเป็นการสืบตามฟ้องหาเป็นการนอกฟ้องไม่ จำเลยคดีอาญามีสิทธินำพยานเข้าสืบพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนได้โดยไม่ต้องซักค้านพยานโจทก์ไว้ก่อนแต่จะรับฟังได้หรือไม่เป็นดุลพินิจของศาลและไม่มีกฎหมายห้ามรับฟังข้อนำสืบต่อสู้คดีของจำเลยอื่น การจำหน่ายเฮโรอีนเป็นการกระทำผิดกฎหมายมีโทษสูงซึ่งผู้กระทำผิดย่อมปกปิดเป็นความลับถ้าจำเลยที่2และที่3มิได้มีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิดก็ไม่มีเหตุที่ผู้กระทำผิดจะกล้าให้ร่วมรู้เห็นด้วย พยานโจทก์ทั้งสามซึ่งเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติการไปตามหน้าที่และไม่รู้จักจำเลยมาก่อนไม่มีเหตุจะปรักปรำใส่ร้ายเมื่อเบิกความสอดคล้องเชื่อมโยงกันตั้งแต่ต้นจนจับจำเลยได้จึงมีน้ำหนักควรแก่การรับฟัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7423/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันทำร้ายจนถึงแก่ความตาย แม้ไม่มีเจตนาฆ่า ก็มีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
ก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายมีเรื่องโต้เถียงกับจำเลยที่6ต่อมาจำเลยที่6กับพวกรวมทั้งจำเลยที่5วิ่งไล่ทำร้ายผู้เสียหายและเข้าทำร้ายผู้ตายโดยเข้าใจว่าเป็นพวกผู้เสียหายการเข้ากลุ้มรุมทำร้ายเช่นนี้มิใช่ต่างคนมาพบและทำร้ายผู้ตายโดยลำพังแต่มีเจตนาวิ่งไล่ตามทำร้ายผู้เสียหายมาด้วยกันตั้งแต่แรกแล้วและเมื่อมีเจ้าพนักงานตำรวจมาพบก็วิ่งหนีไปด้วยกันย่อมฟังว่าจำเลยทุกคนมีเจตนาร่วมกันทำร้ายผู้ตายเมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายเนื่องจากการร่วมกันทำร้ายนั้นแม้การกระทำของจำเลยที่5จะไม่อาจทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ก็ตามจำเลยที่5ก็ย่อมต้องได้รับผลจากการตายของผู้ตายนั้นด้วยจำเลยที่5มิได้มีเจตนาฆ่าผู้ตายแต่การร่วมกับพวกทำร้ายผู้ตายจนเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายจำเลยที่5จึงมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6951/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันปล้นทรัพย์: การกระทำโดยสนับสนุนและไม่ห้ามปราม
จำเลยที่ 4 ถึงที่ 7 ร่วมกับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ว่าจ้างผู้เสียหายขับรถยนต์รับจ้างไปส่งที่เกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 3 ซึ่งนั่งรวมอยู่กับจำเลยที่ 4 ถึงที่ 7 ด้านหลังลงมาช่วยจำเลยที่ 1 และที่ 2 ปลดทรัพย์ผู้เสียหายหลังเกิดเหตุเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยที่ 5 ถึงที่ 7 ได้ ในลักษณะที่ตัวจำเลยที่ 5 ถึงที่ 7 เปรอะเปื้อนและเปียก ส่วนจำเลยที่ 4 ตามจับได้ตามคำซัดทอดของผู้ถูกจับได้ก่อน ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 4 ถึงที่ 7 ไม่ห้ามปรามจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3ทั้งยังแยกย้ายกันหลบหนี พยานหลักฐานโจทก์ฟังประกอบคำรับสารภาพของจำเลยทั้งหมดฟังได้ว่าจำเลยที่ 4 ถึงที่ 7 ร่วมกับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ปล้นทรัพย์ผู้เสียหาย
of 23