คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ลงนาม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 39 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 645/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจผู้จัดการบริษัทและการลงนามในเอกสารตามข้อบังคับบริษัท
ข้อบังคับของบริสัทชข้อ 42 ไห้อำนาดกัมการตั้งกัมการคนเดียวเปนผู้จัดการได้ แม้ข้อ 44 จะมีความว่าเอกสารที่ทำไนนามของบริสัทต้องลงชื่อกัมการสองคนก็ตาม ผู้จัดการก็ลงชื่อไนเอกสารคนเดียวได้ตาม ข้อ 42 ส่วนข้อ 44 ไช้ได้ฉเพาะกรนีที่กัมการเปนผู้ทำ
การตั้งผู้จัดการจะเปนการถูกต้องหรือไม่นั้น ถ้าคู่ความไม่โต้เถียงสาลก็ไม่ต้องวินิฉัย เพราะนอกประเด็น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 399/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงนามในเอกสารโดยผู้มีอำนาจ ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร
ครูใหญ่ออกใบสุทธิโดยข้อความเท็จ ไม่เป็นผิดฐานปลอมหนังสือ. โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลอมใบสุทธิโดยลงนามเป็นครูใหญ่จำเลยรับสารภาพ ศาลเรียกสำนวนการสอบสวนมาดูได้ว่าจำเลยเป็นครูใหญ่จริงหรือไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1035/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงนามในเอกสารและการใช้ชื่อที่ถูกต้องตามกฎหมาย: ผลต่อความสมบูรณ์ของเอกสารและการพิสูจน์ข้อเท็จจริง
แม้ดีกาโจทจะลงชื่อบันดาสักดิ์ ก็ไม่ทำไห้ดีกาของโจทเสียไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1015/2477

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงนามในใบรับเงินโดยได้รับมอบหมาย ไม่เป็นความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร หากไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น
อย่างไรเรียกว่าเป็นการกระทำที่ไม่อาจเกิดเสียหายอันจะเป็นผิดฐานปลอมตามกฎหมายข้างบน การที่เซ็นชื่อของผู้อื่นลงในใบรับเงินโดยได้รับมอบหมายจากผู้นั้นให้เซ็นทั้งผู้ที่ชำระเงินก็ทราบความข้อนั้นแล้ว แลใบรับเงินนั้นกฎหมายก็ไม่บังคับว่าจำต้องทำหรือต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือดังนี้ ยังไม่อาจเกิดการเสียหายขึ้นตามกฎหมายจำเลยไม่มีผิดฐานปลอมหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 598-599/2475

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้พิพากษาต้องนั่งพิจารณาคดีด้วยตนเองก่อนลงนามในคำตัดสิน หากคำตัดสินเดิมไม่ชอบด้วยกฎหมายต้องพิจารณาใหม่
ผู้พิพากษาที่มิได้นั่งพิจารณาจะมาลงนามในคำตัดสินไม่ได้เมื่อคำพิพากษาศาลเดิมไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องให้ศาลเดิมพิจารณาพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1205/2473

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้พิพากษาต้องนั่งฟังการพิจารณาคดีก่อนลงนามในคำพิพากษา
ผู้พิพากษาที่มิได้นั่งพิจารณาฟังคำแถลงการ์ จะลงนามในคำตัดสินไม่ได้วิธีพิจารณาอาชญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13967/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจกรรมการนิติบุคคล, การลงนามสัญญา, สิทธิการตรวจเอกสาร, และการค้างชำระค่าสาธารณูปโภค
ตามข้อบังคับนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร น. ข้อ 2 ระบุว่า สมาชิกหมายถึง สมาชิกนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรซึ่งประกอบไปด้วย ผู้ซื้อที่ดินจัดสรรทุกรายที่ได้ซื้อที่ดินจัดสรรจากผู้จัดสรรที่ดินฯ และผู้ซื้อที่ดินจัดสรร หมายถึง ผู้ทำสัญญากับผู้จัดสรรที่ดินเพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดินจัดสรรฯ และตามสารบัญจดทะเบียนโฉนดที่ดินระบุว่าโจทก์ที่ 1 เป็นผู้ซื้อที่ดินจากผู้จัดสรร โจทก์ที่ 1 จึงเป็นผู้ทำสัญญากับผู้จัดสรรที่ดินเพียงรายเดียว โจทก์ที่ 2 เป็นสามีของโจทก์ที่ 1 แต่เป็นคู่สมรสที่ไม่ได้จดทะเบียน จึงมิใช่คู่สมรสโดยชอบด้วยกฎหมาย สถานะทางกฎหมายของโจทก์ที่ 2 ไม่อาจนำมาอ้างเพื่อใช้สิทธิของโจทก์ที่ 1 ได้ นอกจากนี้ตามข้อบังคับข้อ 48.1 ระบุว่าให้สมาชิกหรือคู่สมรสตามกฎหมายของสมาชิกมีสิทธิได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการนิติบุคคลเท่านั้น โจทก์ที่ 2 เป็นคู่สมรสที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ที่ 1 จึงไม่อาจใช้สิทธิในฐานะสมาชิกได้ โจทก์ที่ 2 จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้
ข้อบังคับข้อ 47 วรรคสาม ระบุว่า มติของคณะกรรมการนิติบุคคล ต้องได้รับคะแนนเสียงข้างมากของกรรมการนิติบุคคล คะแนนเสียงของกรรมการนิติบุคคลแต่ละรายไม่ว่าจะมีบ้านในหมู่บ้านกี่หลังมีคะแนนเสียงเท่ากับหนึ่งเสียง แต่ตามข้อบังคับในหมวดที่ 13 คณะกรรมการนิติบุคคลมิได้ระบุถึงการบันทึกรายงานการประชุมคณะกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรว่าต้องบันทึกถึงจำนวนกรรมการที่ออกเสียงลงมติว่ามีจำนวนเท่าใด การที่รายงานการประชุมคณะกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรครั้งที่ 1/2553 และครั้งที่ 1/2554 ระบุแต่เพียงว่าที่ประชุมมีมติให้จำเลยที่ 1 เป็นประธานกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันในนามนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรได้ ก็ต้องถือว่าเป็นมติคะแนนเสียงข้างมากตามข้อบังคับแล้ว อีกทั้งคณะกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรมีฐานะเป็นผู้แทนของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรในกิจการเกี่ยวกับบุคคลภายนอก และดำเนินการใด ๆ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของข้อบังคับและพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ.2543 ตามข้อบังคับหมวดที่ 1 ข้อ 2 การจะให้คณะกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรทั้งหมดลงนามในเอกสารต่าง ๆ เพื่อดำเนินการในกิจการของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรย่อมเป็นการยุ่งยาก การที่คณะกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรมีมติให้จำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียวมีอำนาจลงนามผูกพันในนามนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรได้ จึงเป็นอำนาจโดยทั่วไปในการบริหารจัดการของคณะกรรมการที่จะกระทำได้ กรณีมิใช่เป็นการมอบอำนาจทั้งหมดของคณะกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรให้จำเลยที่ 1 ดำเนินการแทน จึงหาจำต้องอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนิติบุคคล มติที่ประชุมคณะกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านจึงชอบแล้ว
ตามข้อบังคับข้อ 43 ระบุว่า ในกรณีผู้มีหน้าที่ชำระเงินมีความประสงค์จะขอตรวจหรือสำเนาเอกสารบัญชีหรือรายงานในหมวดนี้ ให้คณะกรรมการนิติบุคคลหรือผู้จัดการนิติบุคคลแล้วแต่กรณี ดำเนินการให้ผู้ขอโดยมีสิทธิเรียกเก็บค่าใช้จ่ายได้เท่าที่จำเป็น แต่ตามข้อบังคับข้อ 67.2 วรรคสอง ที่จดทะเบียนแก้ไขเปลี่ยนแปลงต่อเจ้าพนักงานที่ดินเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 ระบุว่า ในกรณีค้างชำระค่าสาธารณูปโภคติดต่อกันตั้งแต่สามเดือนขึ้นไป ให้นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรฯ มีอำนาจในการระงับการให้บริการสาธารณะหรือการใช้สิทธิในสาธารณูปโภค... และบริการอื่นๆ ที่นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และ/หรือคณะกรรมการเห็นสมควรงดให้บริการ ซึ่งขณะที่โจทก์ที่ 2 มีหนังสือถึงคณะกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรขอสำเนาเอกสารข้างต้นเป็นช่วงระยะเวลาเดือนกันยายนและเดือนพฤศจิกายน 2554 นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรยังมีข้อโต้แย้งกับโจทก์ที่ 1 ในการค้างชำระค่าสาธารณูปโภคประจำปี 2554 ประกอบกับโจทก์ที่ 2 มิได้เป็นสมาชิกผู้มีหน้าที่ชำระเงิน การที่คณะกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรปฏิเสธคำขอของโจทก์ที่ 2 จึงเป็นการปฏิบัติตามข้อบังคับดังกล่าวข้างต้น ไม่เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนข้อบังคับอื่น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 18343/2556

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คไม่มีมูลหนี้: จำเลยต้องรับผิดตามเช็คที่ลงนาม แม้จะอ้างไม่มีมูลหนี้ ภาระการพิสูจน์อยู่ที่จำเลย
ตาม ป.พ.พ. มาตรา 900 วรรคหนึ่ง 914 ประกอบมาตรา 989 วรรคหนึ่ง บุคคลผู้ลงลายมือชื่อในเช็คจะต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็ค เมื่อจำเลยรับว่าเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาท แต่ยกข้อต่อสู้ปฏิเสธความรับผิดอ้างว่าไม่มีมูลหนี้ ภาระการพิสูจน์ว่าเช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้ต่อโจทก์จึงตกแก่จำเลยผู้สั่งจ่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3558/2552 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความผูกพันคู่สัญญา แม้โจทก์ไม่ได้ลงนามโดยตรง แต่มีพฤติการณ์เชิดนายสละเป็นผู้ลงนามแทน
โจทก์และจำเลยที่ 1 ทำบันทึกข้อตกลงกันที่ที่ว่าการอำเภอท่าเรือว่า ให้รังวัดแบ่งที่ดินพิพาทออกเป็น 5 ส่วน โดยยึดการถือครองตามเดิมเป็นหลัก ทางเดินให้ใช้ทางหลังอาคารพาณิชย์กว้าง 1.2 เมตร ออกสู่ถนนทางด้านข้างอาคารพาณิชย์ถึงถนนสาธารณะโดยให้ใช้ได้ตลอดไป ส่วนท่อระบายนำให้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยขุดลอกหน้าท่อระบายน้ำให้มีระดับต่ำกว่าปากท่อ สามารถให้น้ำไหลออกสู่ร่องของเทศบาล หากมีการซื้อขายส่วนเกินให้คิดราคา 1,800 บาท ต่อตารางวา และมีการจัดทำแผนที่โดยโจทก์และจำเลยทั้งสองลงลายมือชื่อไว้ บันทึกและแผนที่ดังกล่าวมีลักษณะเป็นการระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่ให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันจึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ การที่โจทก์และจำเลยทั้งสองตกลงแบ่งดินกันอีกตามรูปแผนที่ดังกล่าว จึงมีผลผูกพันโจทก์และจำเลยทั้งสอง
of 4