พบผลลัพธ์ทั้งหมด 50 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1074/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความมรดก: ศาลไม่รับวินิจฉัยข้ออ้างอายุความเมื่อจำเลยอ้างเหตุครอบครองปรปักษ์
จำเลยให้การต่อสู้อายุความขาดสิทธิฟ้องร้องเพราะสามีและจำเลยครอบครองที่พิพาทมากว่า 10 ปี จำเลยฎีกาอ้างอายุความมรดก 1 ปีตั้งแต่สามีจำเลยตาย ศาลไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 949/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นข้อต่อสู้ใหม่ในชั้นอุทธรณ์ฎีกา ศาลไม่รับวินิจฉัย
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขายฝากที่ดินพิพาทกับ ล. ครบกำหนดไม่ไถ่ จำเลยเช่าที่พิพาทจาก ล. ล. ขายที่พิพาทให้โจทก์ ครบอายุสัญญาเช่าแล้ว จำเลยไม่ออกขอให้ศาลบังคับ จำเลยให้การเพียงว่า ไม่เคยขายฝากที่ดินแก่ใคร ไม่ได้ทำสัญญาเช่า และไม่ได้ลงชื่อไว้ ไม่ได้ต่อสู้โดยแจ้งชัดว่าจำเลยเช่าโดยไม่มีกำหนดเวลา ฉะนั้นการที่จำเลยอุทธรณ์ว่าเป็นการเช่าโดยไม่มีกำหนดเวลา เมื่อโจทก์ไม่ได้บอกเลิกการเช่าก่อน ก็ไม่มีอำนาจฟ้องนั้นเป็นการอุทธรณ์ในข้อที่จำเลยมิได้ยกเป็นข้อต่อสู้ไว้ในศาลชั้นต้น จำเลยจะอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้ แม้ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยข้อนี้มา ก็เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการบังคับคดี: เมื่อข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินซ้ำซ้อนกับคำพิพากษาเดิม ศาลไม่รับวินิจฉัยซ้ำ
ที่ดินพิพาทตามที่โจทก์ยื่นคำร้องว่า.จำเลยได้บุกรุกเข้าไปปลูกพืชพันธุ์ลงไปและขอให้ศาลบังคับจำเลยให้ออกไปนั้น. เป็นที่ดินส่วนหนึ่งของที่ดินโจทก์ที่จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นจนคดีถึงที่สุดแล้ว. ดังนั้น การดำเนินการพิจารณาตามคำร้องของโจทก์จึงเป็นเรื่องในชั้นบังคับคดีและมีปัญหาเพียงว่า จำเลยได้ปฏิบัติถูกต้องตามคำพิพากษาหรือไม่เท่านั้น. ไม่มีปัญหาต้องวินิจฉัยซ้ำไปถึงว่าโจทก์จะมีสิทธิครอบครองที่พิพาทอีกหรือไม่.ดังข้อฎีกาของจำเลย. ฉะนั้น ฎีกาของจำเลยจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 991/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องขับไล่: การระบุสภาพแห่งข้อหาในฟ้องเพียงพอแล้ว ศาลไม่รับวินิจฉัยข้ออุทธรณ์เรื่องเคหะ
โจทก์ได้กล่าวมาในฟ้องแล้วว่า จำเลยเช่าห้องพิพาทเพื่อประกอบการค้า เป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์แล้ว ส่วนห้องพิพาทอยู่ในทำเลการค้าและจำเลยได้ประกอบการค้าอะไร มีสภาพอย่างใดนั้น เป็นรายละเอียดที่จะนำสืบกันต่อไปในชั้นพิจารณา ฟ้องของโจทก์จึงหาเคลือบคลุมไม่
ข้อที่จำเลยฎีกาว่า ห้องพิพาทเป็นเคหะตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯ ซึ่งศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง อุทธรณ์ข้อนี้ก็เป็นอุทธรณ์ข้อเท็จจริง เป็นอุทธรณ์ต้องห้ามตามประมาวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 เมื่อเป็นอุทธรณ์ต้องห้ามแล้ว ก็ไม่ถือว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทะรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
ข้อที่จำเลยฎีกาว่า ห้องพิพาทเป็นเคหะตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯ ซึ่งศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง อุทธรณ์ข้อนี้ก็เป็นอุทธรณ์ข้อเท็จจริง เป็นอุทธรณ์ต้องห้ามตามประมาวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 เมื่อเป็นอุทธรณ์ต้องห้ามแล้ว ก็ไม่ถือว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทะรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 955/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำให้การที่เคลือบคลุมและไม่มีประเด็น ศาลไม่รับวินิจฉัย
จำเลยให้การเพียงว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมไม่สามารถจะเข้าใจสภาพแห่งข้อหาได้ โดยมิได้ให้การว่า ไม่สามารถจะเข้าใจสภาพแห่งข้อหาข้อไหน คำไหน อย่างไร เช่นนี้ถือว่า เป็นคำให้การที่ไม่มีประเด็น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 955/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำให้การที่เคลือบคลุมและไม่มีประเด็นชัดเจน ศาลไม่รับวินิจฉัย
จำเลยให้การเพียงว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมไม่สามารถจะเข้าใจสภาพแห่งข้อหาได้ โดยมิได้ให้การว่า ไม่สามารถจะเข้าใจสภาพแห่งข้อหา ข้อไหน คำไหน อย่างไร เช่นนี้ถือว่า เป็นคำให้การที่ไม่มีประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย: การไม่วางค่าธรรมเนียมและค่าทนายในกำหนดเวลา ทำให้ศาลไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์
โจทก์อุทธรณ์อย่างคนอนาถาและขอทุเลาการบังคับคดี ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์อุทธรณ์อย่างคนอนาถให้โจทก์ปฏิบัติตาม ม.229 นำค่าธรรมเนียมมาวางศาลแต่โจทก์คงนำค่าธรรมเนียมฉะเพาะฟ้องอุทธรณ์มาชำระศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ ต่อมาเมื่อศาลอุทธรณ์สั่งไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีแล้วโจทก์จึงนำค่าธรรมเนียมค่าทนายที่จะต้องใช้ให้แก่คู่ควมอีกฝ่ายหนึ่งมาวางศาล ซึ่งพ้นกำหนดที่ศาลชั้นต้นสั่งให้วางแล้ว ค่าทนายเป็นค่าธรรมเนียมอย่างหนึ่ง เมื่ออุทธรณ์โจทก์ไม่ถูกต้องตาม ม.224 ศาลย่อมรับวินิจฉัยให้ไม่ได้ ต้องยกเสียตาม ม.242 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 756/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอไถ่คืนทรัพย์หลังขายทอดตลาด: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยประเด็นใหม่ที่ยกขึ้นในชั้นฎีกา
จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า เจ้าพนักงานศาลขายทอดตลาดฝนกำลังตกหนัก จำเลยมาสายไป 20 นาที จะขอชำระเงินให้โจทก์ตามคำพิพากษา เจ้าพนักงานแจ้งว่า ขายแล้ว จึงขอให้จำเลยวางเงินชำระหนี้ โจทก์และคืนทรัพย์ที่ยึดให้จำเลย
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์อ้างเหตุว่า ในวันขายทรัพย์ยังไม่หมดเวลาทำงาน จำเลยมีความชอบธรรมที่จะนำเงินมาชำนะหนี้ได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่า แม้ศาลขายทอดตลาดแล้ว แต่ทรัพย์ที่ขายเป็นอสังหาริมทรัพย์ ยังมิได้ทำนิติกรรมซื้อขายต่อกรมการอำเภอ จำเลยชอบที่จะขอไถ่คืนทรัพย์ที่ขายได้ ดังนี้ วินิจฉัยว่า จำเลยเพิ่งมากล่าวในชั้นฎีกา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์อ้างเหตุว่า ในวันขายทรัพย์ยังไม่หมดเวลาทำงาน จำเลยมีความชอบธรรมที่จะนำเงินมาชำนะหนี้ได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่า แม้ศาลขายทอดตลาดแล้ว แต่ทรัพย์ที่ขายเป็นอสังหาริมทรัพย์ ยังมิได้ทำนิติกรรมซื้อขายต่อกรมการอำเภอ จำเลยชอบที่จะขอไถ่คืนทรัพย์ที่ขายได้ ดังนี้ วินิจฉัยว่า จำเลยเพิ่งมากล่าวในชั้นฎีกา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 118/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตให้เข้าอยู่อาศัยตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า: ศาลไม่รับวินิจฉัยข้อโต้แย้งความจำเป็นของผู้ให้เช่า หากคณะกรรมการปฏิบัติตามกฎหมาย
คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าฯได้มีมติอนุญาติให้ผู้เช่า เข้าอยู่ในบ้าน ซึ่งผู้เช่า เช่าอยู่ตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันมาตรา 16(6) แล้ว ผู้เช่าไม่ยอมออกจากที่เช่า จะมารื้อฟื้นข้อเถียงว่า ผู้ให้เช่าไม่มีความจำเป็นจะเข้าอยู่ในที่เช่า คณะกรรมการออกคำสั่งโดยหลงผิดนั้น ไม่เป็นเหตุที่ศาลควรรับวินิจฉัย ในเมื่อไม่ปรากฎว่าคณะกรรมการได้กระทำนอกเหนือความใน พ.ร.บ.ที่กล่าวแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงเรื่องค่าบำเหน็ดกับการเปลี่ยนแปลงคำฟ้อง: ศาลไม่รับวินิจฉัยประเด็นใหม่
ฟ้องโจทกล่าวว่าจำเลยได้ตกลงไห้โจทจัดการขายที่ดินโดยสัญญาจะไห้บำเหน็ดแต่ไนชั้นดีกาโจทดีกาว่าคดีอาดถือได้ว่ามีการตกลงกันโดยปริยายว่าโจทจะได้รับค่านายหน้าเช่นนี้ ย่อมเปนการขัดกับการฟ้องเดิมสาลดีกาไม่รับวินิจฉัยไห้