พบผลลัพธ์ทั้งหมด 78 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเล่นแชร์เป็นสัญญาผูกพันระหว่างสมาชิก ผู้ประมูลต้องคืนเงินหากสัญญาเลิก
การเล่นแชร์เป็นสัญญาชนิดหนึ่งเกิดขึ้นจากความตกลงระหว่างผู้เล่นจำเลยทั้งสองและโจทก์ทั้งสิบเอ็ด ต่างเป็นลูกแชร์ ต่างมีความผูกพันต้องส่งเงินตามที่ตกลงกันในการเล่นและย่อมมีสิทธิในการเข้าประมูลระหว่างลูกวงแชร์ด้วยกัน จึงต้องมีความผูกพันต่อกัน หาใช่จะผูกพันเฉพาะแต่นายวงแชร์ไม่ เมื่อจำเลยทั้งสองเป็นผู้ประมูลได้และรับเงินไปแล้ว จำเลยทั้งสองจะอ้างว่าไม่มีความผูกพันกับโจทก์ทั้งสิบเอ็ด ไม่ได้ การที่ นาย วงแชร์หลบหนีสัญญาแชร์จึงเลิกเล่นกันก่อนที่จะมีการประมูลกันในงวดต่อไป คู่กรณีจึงกลับคืนสู่ฐานะเดิมจำเลยทั้งสองต้องส่งเงินที่รับไปคืนโจทก์ทั้งสิบเอ็ด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3648/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินค่าหุ้นสหกรณ์: สิทธิเรียกร้องของสมาชิก vs. อำนาจบังคับคดีเจ้าหนี้
ระเบียบข้อบังคับของสหกรณ์ออมทรัพย์เป็นระเบียบบริหารงานภายในระหว่างสมาชิกเอง ตาม พ.ร.บ. สหกรณ์ฯ มาตรา 4 ไม่ผูกพันบุคคลภายนอกเช่นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา เจ้าพนักงานบังคับคดี จึงมีอำนาจอายัดเงินค่าหุ้นในสหกรณ์ของจำเลย การไต่สวนคำร้อง (ในชั้นบังคับคดี) เป็นดุลพินิจของศาลว่าคำร้องฉบับใดมีความจำเป็นจะต้องไต่สวนพยานหลักฐานของผู้ร้องหรือไม่ หากศาลเห็นว่าแม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ตามข้อกล่าวอ้างของผู้ร้อง ตามคำร้อง ก็ไม่เป็นเหตุที่ผู้ร้องจะยกขึ้นมากล่าวอ้างได้ ศาลจึงไม่มีความจำเป็นต้องไต่สวนอีก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีหุ้นสหกรณ์: สิทธิเรียกร้องคืนได้ แม้มีข้อจำกัดภายในสหกรณ์
ทรัพย์สินและสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้จะอยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาตามมาตรา 285,286แห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เมื่อหุ้นของสหกรณ์ออมทรัพย์ผู้ร้องที่จำเลยที่ 1 ถืออยู่มิได้อยู่ในบทบัญญัติข้อยกเว้นตามกฎหมายดังกล่าวจึงต้องอยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี สำหรับเงินค่าหุ้นนั้น แม้จะเป็นเงินทุนของผู้ร้องตามที่กำหนดไว้ใน พระราชบัญญัติ สหกรณ์ พ.ศ. 2511 และข้อบังคับของผู้ร้องก็ตามแต่จำเลยที่ 1 ก็ยังมีสิทธิเรียกร้องเอาคืนได้ ส่วนข้อบังคับของผู้ร้องเกี่ยวกับการหักหรือคืนเงินค่าหุ้น ตลอดจนกำหนดว่าสมาชิกของผู้ร้องจะขาย โอน ถอนหุ้นดังกล่าวระหว่างเป็นสมาชิกไม่ได้นั้น ก็เป็นเรื่องภายในระหว่างสมาชิกผู้ร้องเอง มิใช่กฎหมายหามีผลผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาไม่ ศาลชั้นต้นชอบที่จะดำเนินการบังคับคดีตามคำสั่งอายัดเดิมไป.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมาชิกสหภาพแรงงานร่วมนัดหยุดงานภายหลังโดยชอบ เลิกจ้างไม่เป็นธรรม
เมื่อสหภาพแรงงานนัดหยุดงานโดยชอบแล้ว การที่ลูกจ้างซึ่งเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานที่มิได้ร่วมหยุดงานในตอนแรกออกมาร่วมนัดหยุดงานในภายหลัง ย่อมเป็นการนัดหยุดงานโดยชอบ และไม่จำต้องแจ้งความประสงค์ขอนัดหยุดงานตามนัยแห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ ฯ มาตรา 34 วรรคท้ายอีก
กรณีดังกล่าวนั้นการที่นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างซึ่งสมทบนัดหยุดงานในภายหลังโดยอ้างเหตุว่าลูกจ้างละทิ้งหน้าที่การงาน จึงเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ ฯ มาตรา 121
กรณีดังกล่าวนั้นการที่นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างซึ่งสมทบนัดหยุดงานในภายหลังโดยอ้างเหตุว่าลูกจ้างละทิ้งหน้าที่การงาน จึงเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ ฯ มาตรา 121
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนัดหยุดงานโดยชอบของสมาชิกสหภาพแรงงาน แม้ไม่ได้แจ้งความประสงค์เอง การเลิกจ้างเป็นอันไม่เป็นธรรม
เมื่อสหภาพแรงงานนัดหยุดงานโดยชอบแล้ว การที่ลูกจ้างซึ่งเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานที่มิได้ร่วมหยุดงานในตอนแรกออกมาร่วมนัดหยุดงานในภายหลัง ย่อมเป็นการนัดหยุดงานโดยชอบ และไม่จำต้องแจ้งความประสงค์ขอนัดหยุดงานตามนัยแห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ฯมาตรา 34 วรรคท้ายอีก กรณีดังกล่าวนั้นการที่นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างซึ่งสมทบนัดหยุดงานในภายหลังโดยอ้างเหตุว่าลูกจ้างละทิ้งหน้าที่การงาน จึงเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ฯมาตรา 121
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4200/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนมติสหกรณ์ที่ไม่ชอบด้วยข้อบังคับ และการละเมิดสิทธิสมาชิก
โจทก์ซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์นัดหมายให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการใหม่แทนคณะเดิม ซึ่งโจทก์มีอำนาจกระทำได้ตามข้อบังคับ มิใช่เป็นการแสดงตน เป็นปฏิปักษ์ต่อสหกรณ์หรือกระทำการอันเป็นเหตุให้เห็นว่าไม่ซื่อ ตรงหรือทำให้เสื่อมเสียชื่อ เสียงหรือประโยชน์ของสหกรณ์ การที่จำเลยกับพวกยกเหตุดังกล่าวเป็นข้ออ้างให้โจทก์ออกจากสมาชิก จึงเป็นการละเมิดต่อสิทธิของโจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1873/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของสหภาพแรงงาน: ต้องมีสมาชิกได้รับผลกระทบโดยตรง จึงจะฟ้องแทนได้
โจทก์เป็นสหภาพแรงงานซึ่งมีอำนาจและหน้าที่ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 98 ที่จะกระทำการอันใดอันหนึ่งเพื่อประโยชน์ของสมาชิกสหภาพแรงงานโดยเฉพาะ เมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยขอให้เพิกถอนระเบียบใหม่ที่ออกมาใช้บังคับซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบเดิม และไม่เป็นคุณแก่ลูกจ้างใหม่โดยมิได้บรรยายฟ้องว่า ลูกจ้างใหม่ที่จำเลยได้ทำสัญญาจ้างภายหลังวันที่ระเบียบใหม่มีผลใช้บังคับนั้นได้เป็นสมาชิกของโจทก์ด้วยหรือไม่ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยขอให้เพิกถอนระเบียบฉบับใหม่ดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นโทษต่อลูกจ้างที่เข้ามาใหม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3115/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่ทำผ่านสหภาพแรงงานมีผลผูกพันสมาชิก แม้จะไม่ได้ฟ้องร้องค้างเก่า
พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานได้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแรงงานระหว่างจำเลยกับสหภาพแรงงานของจำเลยตกลงกันได้ว่าจำเลยตกลงนำเงินค่าครองชีพเดือนละ500บาทไปรวมกับเงินเดือนของพนักงานและพนักงานไม่ติดใจที่จะนำปัญหาการคิดคำนวณค่าล่วงเวลาย้อนหลังไปฟ้องร้องต่อไปอีกบันทึกข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่เกิดขึ้นจากการแจ้งข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานของจำเลยต่อจำเลยผู้แทนทั้งสองฝ่ายลงลายมือชื่อในบันทึกข้กตกลงที่พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานได้บันทึกไว้แล้วคู่กรณีนำไปจดทะเบียนต่ออธิบดีกรมแรงงานจึงเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่เกิดขึ้นโดยชอบตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์พ.ศ.2518มีผลใช้บังคับและผูกพันคู่กรณีรวมทั้งโจทก์ทั้งหมดซึ่งเป็นสมาชิกของสหภาพแรงงานไม่ขัดต่อประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงานหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าล่วงเวลาค่าทำงานในวันหยุดค่าล่วงเวลาในวันหยุดโดยนำค่าครองชีพไปรวมกับเงินเดือนเป็นฐานคำนวณย้อนหลัง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4756/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของสหภาพแรงงาน: ต้องระบุสมาชิกและรายละเอียดค่าจ้างที่ชัดเจน
ฟ้องของสหภาพแรงงานโจทก์ที่มีคำขอให้จำเลยจ่ายค่าจ้างค้างจ่าย แก่ครูผู้มีสิทธินั้น เป็นการฟ้องคดีเพื่อประโยชน์แก่ครู โจทก์มีหน้าที่ ต้องบรรยายฟ้องว่า ครูตามคำฟ้องเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานโจทก์หรือไม่ เพราะถ้าครูผู้นั้นไม่เป็นสมาชิก โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจหรือหน้าที่ใด ๆ ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 98 ที่จะดำเนินการเพื่อประโยชน์แก่ครูผู้ที่ไม่ได้รับค่าจ้างนั้นได้เมื่อโจทก์ไม่บรรยายฟ้องดังกล่าวโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4756/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของสหภาพแรงงานต้องระบุสมาชิกชัดเจน หากฟ้องแทนลูกจ้างที่ไม่เป็นสมาชิก ย่อมไม่มีอำนาจดำเนินการ
ฟ้องของสหภาพแรงงานโจทก์ที่มีคำขอให้จำเลยจ่ายค่าจ้างค้างจ่าย แก่ครูผู้มีสิทธินั้น เป็นการฟ้องคดีเพื่อประโยชน์แก่ครู โจทก์มีหน้าที่ ต้องบรรยายฟ้องว่า ครูตามคำฟ้องเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานโจทก์หรือไม่ เพราะถ้าครูผู้นั้นไม่เป็นสมาชิก โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจหรือหน้าที่ใดๆตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์พ.ศ. 2518 มาตรา 98 ที่จะดำเนินการ เพื่อประโยชน์แก่ครูผู้ที่ไม่ได้รับค่าจ้างนั้นได้เมื่อโจทก์ไม่บรรยายฟ้อง ดังกล่าวโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง