คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สละเจตนา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 36 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละเจตนาครอบครองที่ดินเกิน 10 ปี ทำให้เจ้าของที่ดินฟ้องขับไล่ผู้ครอบครองไม่ได้ แม้ไม่มีหลักฐานการซื้อขาย
เจ้าของที่ดินมีโฉนดได้สละเจตนาครอบครองที่ดินเป็นเวลาเกิน 10 ปีแล้วบุคคลอื่นหลายคนได้เข้าครอบครองสืบเนื่องกันมา แม้การซื้อขายที่เป็นหลั่นๆ กัน ไม่มีหนังสือเจ้าของที่ดินเดิมจะฟ้องขับไล่ผู้ครอบครองที่นั้นหาได้ไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดิน 2 แปลงทุนทรัพย์ 200 บาทศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากที่แปลงหนึ่ง ยกฟ้องที่อีกแปลงหนึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องทั้งสองแปลง ดังนี้ เป็นการแก้น้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 308/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการครอบครองที่ดินมือเปล่าและการสละเจตนาครอบครองมีผลต่อการฟ้องเรียกคืน
ที่นามือเปล่านั้นผู้ยึดถือมีเพียงสิทธิครอบครอง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375,1377, ใช้บังคับแก่ทรัพย์สินทั่วไป ไม่ว่าเป็นสังหาริมทรัพย์หรืออสังหาริมทรัพย์
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ใช้บังคับได้เฉพาะทรัพย์ซึ่งเจ้าของมีกรรมสิทธิ์ จะใช้แก่ทรัพย์ซึ่งเจ้าของมีแต่เพียงสิทธิครอบครองไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 348/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดินโดยการสละเจตนาครอบครองและมอบให้ผู้อื่น แม้ไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ก็ถือเป็นการโอนที่ชอบด้วยกฎหมาย
+เปลี่ยนที่นามือเปล่า+โดยทำหนังสือสัญญากัน+ เมื่อต่างฝ่ายต่างมอบ +ครอบครองที่นาให้กัน +กันแล้วดังนี้ การโอนนั้น+ ด้วยกฎหมายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 151/2474

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต้องมีเจตนาครอบครองเป็นกรรมสิทธิ การมอบที่ดินให้เจ้าหนี้เพื่อเป็นประกันหนี้ ไม่ถือเป็นการสละเจตนาครอบครอง
ที่ดิน อย่างไรเรียกว่าปกครองปรปักษ์ ที่ดินมือเปล่าเจ้าของที่มอบให้เจ้าหนี้ปกครองเพื่อเป็นประกันหนี้ แม้เจ้าหนี้จะปกครองมาเกินปีก็ไม่ได้กรรมสิทธิ
อย่างไรเรียกว่าสละเจตนาครอบครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12473/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินหลังการซื้อขายในระยะเวลาห้ามโอน และการสละเจตนาครอบครอง
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การ และตามคำแก้อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสิบในชั้นอุทธรณ์ไม่ได้ยกปัญหาข้อเท็จจริงว่า ป. ได้ซื้อที่ดินพิพาทจากจำเลยที่ 1 หรือไม่ และ ป. กับโจทก์เป็นผู้ครอบครองที่ดินพิพาทหรือไม่ขึ้นกล่าวแก้เป็นประเด็น ปัญหาทั้งสองข้อดังกล่าวจึงยุติไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น คำแก้ฎีกาของจำเลยทั้งสิบในส่วนนี้เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น (เฉพาะจำเลยที่ 1) และในศาลอุทธรณ์ภาค 7 ต้องห้ามฎีกา ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง จำเลยทั้งสิบจึงยกขึ้นกล่าวแก้เป็นประเด็นในคำแก้ฎีกาในชั้นฎีกาไม่ได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
การที่จำเลยที่ 1 ขายที่ดินให้แก่ ป. โดยมอบการครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่ ป. โดยมิได้กลับเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับที่ดินอีก แสดงว่าจำเลยที่ 1 สละเจตนาครอบครองไม่ยึดถือที่ดินพิพาทอีกต่อไป ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1377 วรรคหนึ่ง แล้ว แม้ ป. จะได้ซื้อที่ดินและยึดถือทำประโยชน์เพื่อตนในระยะเวลาห้ามโอน ป. ไม่ได้สิทธิครอบครองเนื่องจากถูกจำกัดสิทธิโดยบทบัญญัติแห่ง ป.ที่ดิน มาตรา 58 ทวิ แต่เมื่อ ป. และโจทก์ซึ่งอยู่กินฉันสามีภริยากับ ป. ได้ร่วมกันครอบครองที่ดินตลอดมาจนเลยเวลาห้ามโอนแล้ว ก็ยังครอบครองที่ดินอยู่ จึงถือได้ว่า ป. และโจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1367 นับแต่วันพ้นกำหนดระยะเวลาห้ามโอน จำเลยที่ 1 จึงไม่มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทไม่อาจนำที่ดินพิพาทไปแบ่งแยกโอนให้แก่จำเลยที่ 2 ถึงที่ 9 จำเลยที่ 2 ถึงที่ 10 จึงไม่มีสิทธิเข้าไปในที่ดินของโจทก์และจำเลยที่ 9 ไม่อาจนำที่ดินพิพาทบางส่วนไปจดทะเบียนจำนอง ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยกับศาลล่างทั้งสองที่วินิจฉัยว่า ป. และโจทก์ครอบครองที่ดินพิพาทแทนจำเลยที่ 1 (ประเด็นนี้วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่)
สัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทตกเป็นโมฆะเพราะต้องห้ามตามกฎหมายที่มิให้โอนที่ดินพิพาท การที่ ป. ได้สิทธิครอบครองในที่ดินเป็นการได้ตามผลของกฎหมาย จึงหาอาจเรียกให้จำเลยที่ 1 จดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทให้แก่ ป. ได้ไม่
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 11/2553)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3656/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินหลังการซื้อขาย สิทธิครอบครองเดิมสิ้นสุดลงเมื่อสละเจตนา การฟ้องแย่งการครอบครองต้องภายใน 1 ปี
เดิมจำเลยเป็นผู้มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาท ต่อมาจำเลยสละเจตนาครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ แต่จำเลยได้ขออาศัยอยู่ในบ้านที่ปลูกอยู่ก่อนในที่ดินพิพาทต่อไป โจทก์ตกลงยินยอมโดยไม่ได้คิดค่าตอบแทน ต่อมาโจทก์ยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินที่พิพาทตามคำขอรังวัดออกโฉนดที่ดิน จำเลยได้ไปยื่นคำขอคัดค้านการออกโฉนดที่ดิน ดังนี้เป็นการโต้แย้งคัดค้านสิทธิครอบครองของโจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1375 แล้ว โจทก์ก็จะต้องฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองภายใน 1 ปี นับแต่เวลาถูกรบกวนการครอบครอง สำนักงานที่ดินจังหวัดตราดเพิ่งมีหนังสือแจ้งเรื่องที่จำเลยคัดค้านการขอออกโฉนดที่ดินให้โจทก์ทราบเมื่อ 17 มีนาคม 2535 จึงต้องถือว่าโจทก์ทราบเรื่องที่จำเลยไปคัดค้านการขอออกโฉนดที่ดินเมื่อหนังสือดังกล่าวไปถึงโจทก์ โจทก์ทราบเรื่องดังกล่าวหลังจากโจทก์ฟ้องคดีนี้แล้ว จึงไม่เกินระยะเวลา 1 ปี นับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครอง
of 4