พบผลลัพธ์ทั้งหมด 43 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1311/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะขาย กับ สัญญาซื้อขาย: การรับเงินค่าตึก/ที่ดินยังไม่ถือเป็นสัญญาซื้อขายเด็ดขาด
ฟ้องว่า จำเลยขายตึกและที่ดินให้โจทก์ราคาสามพันบาทจำเลยรับเงินสามพันบาทค่าตึกกับที่ดินไปแล้ว จำเลยมอบตึกและที่ดินให้โจทก์ครอบครองแล้วจำเลยสัญญาว่า จะไปโอนทางทะเบียน แต่ต่อมากลับเอาไปขายแก่คนอื่นจึงขอให้บังคับจำเลยโอนทางทะเบียนให้โจทก์ ดังนี้ย่อมถือว่าโจทก์ฟ้องว่าจำเลยสัญญาจะขายตึกกับที่ดินให้โจทก์โดยจำเลยรับเงินค่าตึกและที่ดินไปแล้ว จะถือว่าเป็นสัญญาซื้อขายเด็ดขาดแล้วไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1581/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะขายอสังหาริมทรัพย์ของผู้เยาว์ต้องได้รับอนุญาตจากศาลจึงมีผลผูกพัน
การที่มารดาเอาที่ดินของบุตร ซึ่งยังเป็นผู้เยาว์ไปทำสัญญาจะขายแก่ผู้อื่นนั้นเป็นสัญญาซึ่งตายนัยแห่ง ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1546(1) เป็นที่เข้าใจกันอยู่ว่าจะผูกพันเด็กได้ก็ต่อเมื่อศาลได้อนุญาตให้ขายตามสัญญานั้นแล้ว
(อ้างฎีกาที่ 462/2488)
(อ้างฎีกาที่ 462/2488)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1354/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินยังไม่สมบูรณ์ สันนิษฐานเป็นสัญญาจะขายได้ หากมีเจตนาให้สมบูรณ์ภายหลัง
ที่พิพาทเป็นที่ว่างยังไม่ได้มีการปลูกสร้าง และไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน แต่ปรากฎว่าอยู่ริมถนนหลวงในเขตต์เทศบาลและมีบ้านเรือนปลูกอยู่แล้วโดยรอบที่นี้ จึงมีลักษณะเป็นที่บ้าน.
บิดาโจทก์ได้ทำสัญญาขายที่พิพาทซึ่งไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ให้แก่จำเลย ทั้งยังได้ลงชื่อจำเลยไว้ในใบไต่สวนเพื่อรับโฉนดในภายหลัง และมอบให้จำเลยครอบครองโดยเปิดเผย ดังนี้ ตามพฤตติการณ์แห่งรูปคดีเป็นที่พึงสันนิษฐานได้ว่า ถ้าคู่กรณีได้รู้ว่าหนังสือสัญญานี้ไม่สมบูรณ์เป็นสัญญาซื้อขาย ก็คงจะได้ตั้งใจให้สมบูรณ์ เป็นสัญญาจะขาย กรณีเข้าลักษณะตามบทบัญญัติแห่ง ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 136.
บิดาโจทก์ได้ทำสัญญาขายที่พิพาทซึ่งไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ให้แก่จำเลย ทั้งยังได้ลงชื่อจำเลยไว้ในใบไต่สวนเพื่อรับโฉนดในภายหลัง และมอบให้จำเลยครอบครองโดยเปิดเผย ดังนี้ ตามพฤตติการณ์แห่งรูปคดีเป็นที่พึงสันนิษฐานได้ว่า ถ้าคู่กรณีได้รู้ว่าหนังสือสัญญานี้ไม่สมบูรณ์เป็นสัญญาซื้อขาย ก็คงจะได้ตั้งใจให้สมบูรณ์ เป็นสัญญาจะขาย กรณีเข้าลักษณะตามบทบัญญัติแห่ง ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 136.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1354/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญและลักษณะเป็นที่บ้าน ศาลสันนิษฐานเป็นสัญญาจะขายได้
ที่พิพาทเป็นที่ว่างยังไม่ได้มีการปลูกสร้าง และไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน แต่ปรากฏว่าอยู่ริมถนนหลวงในเขตเทศบาลและมีบ้านเรือนปลูกอยู่แล้วโดยรอบที่นี้จึงมีลักษณะเป็นที่บ้าน
บิดาโจทก์ได้ทำสัญญาขายที่พิพาทซึ่งไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ให้แก่จำเลย ทั้งยังได้ลงชื่อจำเลยไว้ในใบไต่สวนเพื่อรับโฉนดในภายหลัง และมอบให้จำเลยครอบครองโดยเปิดเผย ดังนี้ ตามพฤติการณ์แห่งรูปคดีเป็นที่พึงสันนิษฐานได้ว่า ถ้าคู่กรณีได้รู้ว่าหนังสือสัญญานี้ไม่สมบูรณ์ เป็นสัญญาซื้อขาย ก็คงจะได้ตั้งใจให้สมบูรณ์เป็นสัญญาจะขาย กรณีเข้าลักษณะตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 136
บิดาโจทก์ได้ทำสัญญาขายที่พิพาทซึ่งไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ให้แก่จำเลย ทั้งยังได้ลงชื่อจำเลยไว้ในใบไต่สวนเพื่อรับโฉนดในภายหลัง และมอบให้จำเลยครอบครองโดยเปิดเผย ดังนี้ ตามพฤติการณ์แห่งรูปคดีเป็นที่พึงสันนิษฐานได้ว่า ถ้าคู่กรณีได้รู้ว่าหนังสือสัญญานี้ไม่สมบูรณ์ เป็นสัญญาซื้อขาย ก็คงจะได้ตั้งใจให้สมบูรณ์เป็นสัญญาจะขาย กรณีเข้าลักษณะตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 136
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1204/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะขาย vs. สัญญาเช่าซื้อ: การวินิจฉัยจากลักษณะของสัญญาและข้อตกลง
โจทก์จำเลยได้ทำสัญญากันว่า จำเลยจะขายโรงเรือนพิพาทเป็นเงิน 42000 บาทแก่โจทก์ โดยจะไปโอนกรรมสิทธิกันตามกฎหมาย เมื่อได้ชำระเงินเสร็จแล้ว ในวันทำสัญญาชำระเงิน 12000 บาทภายในสิ้นเดือนกรกฎา, สิงหา, และกันยา ศกนั้น ชำระอีกงวดละหมื่นบาท และมีเงื่อนไขว่าถ้านายหมาจั๊วผู้เช่าไม่สามารถจะใช้เรือนโรงนี้ประกอบการค้าฝิ่นจนถึงสิ้นเดือนธันวาคมจำเลยจะยอมซื้อคืนด้วยราคาเดิม โดยระหว่างนั้นจำเลยถูกเจ้าของที่ฟ้องขับไล่เรือนโรงรายนี้อยู่ ดังนี้ สัญญานี้จึงเป็นสัญญาจะขาย ไม่ใช่สัญญาเช่าซื้อ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1204/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะขาย vs. สัญญาเช่าซื้อ: การโอนกรรมสิทธิ์เมื่อชำระเงินครบถ้วน
โจทก์จำเลยได้ทำสัญญากันว่า จำเลยจะขายโรงเรือนพิพาทเป็นเงิน 42000 บาทแก่โจทก์ โดยจะไปโอนกรรมสิทธิ์กันตามกฎหมาย เมื่อได้ชำระเงินเสร็จแล้ว ในวันทำสัญญาชำระเงิน 12000 บาทภายในสิ้นเดือนกรกฎา,สิงหา,และกันยาศกนั้น ชำระอีกงวดละหมื่นบาท และมีเงื่อนไขว่าถ้านายหมาจั๊วผู้เช่าไม่สามารถจะใช้เรือนโรงนี้ประกอบการค้าฝิ่นจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม จำเลยจะยอมซื้อคืนด้วยราคาเดิม โดยระหว่างนั้นจำเลยถูกเจ้าของที่ฟ้องขับไล่เรือนโรงรายนี้อยู่ ดังนี้ สัญญานี้จึงเป็นสัญญาจะขาย ไม่ใช่สัญญาเช่าซื้อ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 462/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำสัญญาขาย/จะขายอสังหาริมทรัพย์ของบุตรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล และการคาดเห็นความเสียหายพิเศษ
บิดาจะเอาที่ดินของบุตร์ไปทำสัญญาขายหรือทำสัญญาจะขาย โดยไม่รับอนุญาตจากศาลไม่ได้
ในกรณีผิดสัญญาซื้อขายผู้ซื้ออ้างว่าจะต้องเสียเบี้ยปรับในการไปทำสัญญาขายให้ผู้อื่นและตนขาดกำไรนั้น ถือว่าเป็นค่าเสียหายพิเศษตาม ป.ม. แพ่งฯ ม.222 วรรค 2 ผู้ขายต้องคาดเห็นความเสียหายนั้นจึงจะต้องรับผิด
ในกรณีผิดสัญญาซื้อขายผู้ซื้ออ้างว่าจะต้องเสียเบี้ยปรับในการไปทำสัญญาขายให้ผู้อื่นและตนขาดกำไรนั้น ถือว่าเป็นค่าเสียหายพิเศษตาม ป.ม. แพ่งฯ ม.222 วรรค 2 ผู้ขายต้องคาดเห็นความเสียหายนั้นจึงจะต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2474
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะขายที่ดินโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของร่วม สัญญาเป็นโมฆะ ไม่สามารถบังคับโอนได้ แต่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้
ที่ดินหลายเจ้าของ คนหนึ่งไปทำสัญญาขายที่ทั้งหมด
ผู้ซื้อจะบังคับให้โอนที่ดินให้ทั้งหมดไม่ได้ (เทียบฎีกาที่ 289/72) การคำนวณค่าเสียหาย
ผู้ซื้อจะบังคับให้โอนที่ดินให้ทั้งหมดไม่ได้ (เทียบฎีกาที่ 289/72) การคำนวณค่าเสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 355/2472
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะขายที่ดินที่มีผู้เยาว์เป็นเจ้าของร่วม: ผลผูกพันตามคำขออนุญาตขายแทน
บิดามารดาเด็กทำสัญญาจะขายที่ดินซึ่งมีชื่อเด็กเป็นเจ้าของร่วมอยู่ด้วยในนามของตนเองแต่ในหนังสือขอแยกโฉนดที่ยื่นต่อหอทะเบียนได้แถลงไว้ว่าขออนุญาตขายแทนบุตร์ แลบุตร์ได้ลงชื่อในคำขอนั้นบุตร์ต้องรับผิดในสัญญาจะขายนั้นด้วยค่าธรรมเนียม เมื่อไรศาลจะบังคับให้คู่ความเสียค่าธรรมเนียมนั้นแล้วแต่เหตุผลในคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 289/2472
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะขายที่ดินและค่าเสียหายจากความผิดสัญญา โดยผู้ร่วมรับมรดกไม่ต้องรับผิดหากไม่รู้เห็น
เจ้าของร่วมกันคนหนึ่งไปทำสัญญาจะขายแต่ไม่สามารถจะปฏิบัติตามสัญญาได้ ต้องใช้ค่าเสียหายทดแทนการกำหนดค่าเสียหายต้องถือเกณฑ์ที่คู่สัญญาจะต้องเสียหายอันเกิดจากความผิดของอีกฝ่ายหนึ่ง