พบผลลัพธ์ทั้งหมด 69 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2513/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรมธรรม์ประกันภัยหมดอายุแล้วทำสัญญาใหม่ย้อนหลัง สัญญาใหม่ไม่ครอบคลุมเหตุการณ์ก่อนวันที่เริ่มมีผล
กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์สิ้นอายุเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม วันที่ 24 กรกฎาคม เกิดอุบัติเหตุ ต่อมาผู้รับประกันภัยออกกรมธรรม์ประกันใหม่ย้อนหลังไปถึงวันที่ 22 กรกฎาคมผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าต่อ: คำมั่นของผู้ให้เช่าและการสนองรับของผู้เช่า ก่อให้เกิดสัญญาเช่าใหม่
สัญญาเช่ามีข้อความว่า ผู้ให้เช่าให้คำมั่นแก่ผู้เช่าว่าเมื่อครบกำหนดระยะเวลาเช่าตามสัญญาแล้ว ผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าเช่าต่อไปอีก 3 ปี ตามเงื่อนไขประเพณีที่ได้กระทำกันในวันทำสัญญานี้ ทั้งนี้ ผู้เช่าต้องแสดงเจตนาเป็นลายลักษณ์อักษรแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันสัญญาเช่านี้ครบกำหนด ดังนี้ เป็นเรื่องที่ผู้ให้เช่าให้คำมั่นไว้ เมื่อผู้เช่ามีหนังสือแสดงความจำนงขอทำสัญญาเช่าต่อภายในกำหนดเวลาเท่ากับผู้เช่าสนองรับคำมั่นของผู้ให้เช่าแล้วและถือว่ามีสัญญาเช่าเกิดขึ้นใหม่ทันทีตามเงื่อนไขและประเพณีที่ระบุไว้ในสัญญาเช่าฉบับเดิม โดยไม่ต้องทำสัญญาเช่ากันใหม่อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าต่อ: คำมั่นของผู้ให้เช่าและการสนองรับของผู้เช่าทำให้เกิดสัญญาใหม่
สัญญาเช่ามีข้อความว่า ผู้ให้เช่าให้คำมั่นแก่ผู้เช่าว่า เมื่อครบกำหนดระยะเวลาเช่าตามสัญญาแล้ว ผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าเช่าต่อไปอีก 3 ปี ตามเงื่อนไขประเพณีที่ได้กระทำกันในวันทำสัญญานี้ ทั้งนี้ ผู้เช่าต้องแสดงเจตนาเป็นลายลักษณ์อักษรแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันสัญญาเช่านี้ครบกำหนด ดังนี้ เป็นเรื่องที่ผู้ให้เช่าให้คำมั่นไว้ เมื่อผู้เช่ามีหนังสือแสดงความจำนงขอทำสัญญาเช่าต่อภายในกำหนดเวลา เท่ากับผู้เช่าสนองรับคำมั่นของผู้ให้เช่าแล้ว และถือว่ามีสัญญาเช่าเกิดขึ้นใหม่ทันทีตามเงื่อนไขและประเพณีที่ระบุไว้ในสัญญาเช่าฉบับเดิม โดยไม่ต้องทำสัญญาเช่ากันใหม่อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1676/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าและการรับซื้อโรงเรือนของผู้เช่าเมื่อสัญญาเช่าใหม่ไม่มีกำหนดเวลา
ข้อตกลงเรื่องผู้ให้เช่าต้องรับซื้อโรงเรือนของจำเลย(ผู้เช่า)ตามสัญญาข้อ 3 ตอนท้าย แม้จะเป็นเงื่อนไขในสัญญาแต่ก็เป็นเงื่อนไขหรือข้อตกลงต่างหากจากการเช่าจึงไม่ผูกพันโจทก์ผู้รับโอนให้จำต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 569 คือ ต้องรับซื้อโรงเรือนของจำเลยก่อน จึงจะมีสิทธิบอกเลิกการเช่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าและสิ่งปลูกสร้าง: การสละสิทธิรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเดิมเมื่อทำสัญญาใหม่
โจทก์เช่าห้องแถวจำเลยเป็นเวลา 30 ปี เมื่อเช่าแล้วได้ 3 และ 4 ปีโจทก์ปลูกสร้างห้องเพิ่มเติมและยุ้งข้าวในที่ดินจำเลยโดยได้รับอนุญาตจากจำเลยและสามีจำเลยเคยอนุญาตให้โจทก์รื้อถอนไปได้เมื่อเลิกเช่า ต่อมาโจทก์จำเลยได้ทำหนังสือสัญญาเช่ากันเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2507 มีความว่า ผู้เช่ายอมตกลงให้สิ่งปลูกสร้างหรือซ่อมแซมลงในบริเวณบ้านเช่าตกเป็นของผู้ให้เช่า ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าโจทก์สละเจตนาที่จะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่มีสิทธิรื้อถอนมาแต่เดิมยอมให้สิ่งปลูกสร้างไม่ว่าจะได้ทำไว้แล้วหรือที่จะทำต่อไปตกเป็นของจำเลยทั้งสิ้น ถือว่าข้อห้ามรื้อถอนกินความถึงสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดที่ได้ทำแล้วและกำลังทำหรือจะทำขึ้นใหม่ มิใช่ใช้บังคับเฉพาะสิ่งปลูกสร้างที่ทำขึ้นในระหว่างอายุหนังสือสัญญาเช่าเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความที่ได้พิพากษาตามยอมแล้ว ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ด้วยสัญญาใหม่นอกศาล
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยยอมใช้หนี้ให้โจทก์และศาลได้พิพากษาตามยอมแล้ว ภายหลังจำเลยจะอ้างว่าได้ทำสัญญาประนีประนอมกันใหม่นอกศาลโดยโจทก์ยอมผ่อนเวลาชำระหนี้ให้จำเลย ซึ่งโจทก์ปฏิเสธ เพื่อเป็นเหตุมิให้ศาลดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาหาได้ไม่ (อ้างฎีกาที่ 417/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพันตามคำพิพากษา การอ้างสัญญาใหม่นอกศาลเพื่อหลีกเลี่ยงบังคับคดีเป็นโมฆะ
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยยอมใช้หนี้ให้โจทก์และศาลได้พิพากษาตามยอมแล้ว. ภายหลังจำเลยจะอ้างว่าได้ทำสัญญาประนีประนอมกันใหม่นอกศาล. โดยโจทก์ยอมผ่อนเวลาชำระหนี้ให้จำเลย ซึ่งโจทก์ปฏิเสธ เพื่อเป็นเหตุมิให้ศาลดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาหาได้ไม่. อ้างฎีกาที่ 417/2504).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1392/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงวัตถุแห่งสัญญาเช่าซื้อ: สัญญาใหม่ย่อมบังคับใช้ตามข้อตกลง
ถ้าฟังข้อเท็จจริงได้ว่าจำเลยเช่าซื้อเครื่องยนต์ดิสเตอร์กับเครื่องสีข้าวเบอร์ 2 จากโจทก์โดยทำหนังสือสัญญาไว้และต่อมาจำเลยเอาเครื่องยนต์กับเครื่องสีข้าวดังกล่าวมาเปลี่ยนเอาเครื่องยนต์รัสตันกับเครื่องสีข้าวครึ่งท่อนไปแทน โดยจำเลยยอมให้โจทก์บันทึกการแลกเปลี่ยนนี้ไว้ในสัญญาเดิม ดังนี้ สัญญาฉบับนี้ก็คือสัญญาเช่าซื้อเครื่องยนต์รัสตันและเครื่องสีข้าวครึ่งท่อนนั่นเอง ถ้าจำเลยผิดสัญญาโจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกเครื่องยนต์รัสตันกับเครื่องสีข้าวครึ่งท่อนคืนตามสัญญาฉบับนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 546/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าใหม่โดยปริยาย สิทธิเลิกสัญญาตามข้อตกลง และการฟ้องขับไล่
เมื่อครบอายุสัญญาเช่าแล้ว ผู้เช่าคงอยู่ในที่เช่าต่อไป ผู้ให้เช่ารู้แล้วไม่ท้วงถือว่ามีการทำสัญญาใหม่ซึ่งไม่มีกำหนดเวลา ส่วนข้อสัญญาอื่นของสัญญาใหม่นี้คงเป็นอย่างเดียวกับในสัญญาเช่าเดิม อ้างฎีกาที่ 1448/2503
เมื่อผู้ให้เช่ามีสิทธิเลิกสัญญาตามข้อความในสัญญา ผู้ให้เช่าใช้สิทธินั้นได้โดยไม่ต้องบอกเลิกตามวิธีใน ป.พ.พ.มาตรา 566.
หมายเหตุ : คำพิพากษาฎีกาที่ 136/2503 ระหว่างนายประวิทย์ ศรีธัญรัตน์ โจทก์ นายกิมจั๊ว แซ่ซือ จำเลย ก็วินิจแัยไว้อย่างเดียวกับคดีนี้ด้วย.
เมื่อผู้ให้เช่ามีสิทธิเลิกสัญญาตามข้อความในสัญญา ผู้ให้เช่าใช้สิทธินั้นได้โดยไม่ต้องบอกเลิกตามวิธีใน ป.พ.พ.มาตรา 566.
หมายเหตุ : คำพิพากษาฎีกาที่ 136/2503 ระหว่างนายประวิทย์ ศรีธัญรัตน์ โจทก์ นายกิมจั๊ว แซ่ซือ จำเลย ก็วินิจแัยไว้อย่างเดียวกับคดีนี้ด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 119/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัว เมื่อผู้เช่าตาย สิทธิสิ้นสุด การชำระค่าเช่าหลังการตายไม่ก่อให้เกิดสัญญาใหม่
สัญญาเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้เช่า เมื่อผู้เช่าตาย สิทธิการเช่าย่อมสิ้นสุด จำเลยซึ่งเป็นบุตรผู้เช่าได้อยู่ในตึกพิพาทต่อมา ก็ถือว่าอยู่ในฐานะบริวารของผู้เช่า ดังนั้น การที่จำเลยชำระค่าเช่าจึงเป็นการชำระในนามของผู้เช่า ไม่ก่อให้เกิดสัญญาเช่าระหว่างโจทก์และจำเลยอย่างใด.