พบผลลัพธ์ทั้งหมด 87 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5542/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งหยุดงานเพื่อความปลอดภัยของพระมหากษัตริย์ไม่ถือเป็นการผิดสัญญา และผู้รับเหมาต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการส่งมอบสินค้า
ที่จำเลยสั่งให้โจทก์หยุดงานชั่วคราวก็เพื่อถวายการอารักขาแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ คำสั่งจำเลยที่ให้โจทก์หยุดงานชั่วคราว จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายและโจทก์ย่อมต้องทราบดีอยู่แล้วในขณะทำสัญญาว่า องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์จะเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ และพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ เป็นประจำทุกปี ทั้งเมื่อได้รับคำสั่งให้หยุดงานชั่วคราว โจทก์มิได้ ทักท้วงหรือโต้แย้งแต่ประการใด จะถือว่าจำเลยผิดสัญญาโดยไม่จัดการ หรืออำนวยความสะดวกให้โจทก์เข้าทำงานก่อสร้างตามสัญญาเป็นการ ไม่ชำระหนี้ให้ต้องตามความประสงค์อันแท้จริงแห่งมูลหนี้หาได้ไม่ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายอัน เกิดจากคำสั่งของจำเลย ดังกล่าวนั้นได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5896/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิยึดหน่วงการส่งมอบสินค้า จนกว่าจะได้รับชำระค่าจ้างในสัญญาต่างตอบแทน
โจทก์ว่าจ้างจำเลยตัดเย็บเสื้อผ้า เมื่อจำเลยตัดเย็บเสื้อผ้าผิดแบบ โจทก์ก็ส่งเสื้อไปให้จำเลยทำการแก้ไขโดยขยายระยะเวลาให้จำเลยส่งมอบเสื้อที่แก้ไขแล้วให้แก่โจทก์ภายใน 10 วัน นับแต่วันที่ส่งไปให้แก้ไข จำเลยได้แก้ไขเสื้อเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้ส่งกลับคืนไปให้โจทก์ภายในกำหนด 10 วัน เพราะโจทก์ยังไม่ได้ชำระค่าจ้างตัดเย็บเสื้อให้แก่จำเลยดังนี้ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา เพราะจำเลยมีสิทธิไม่ยอมส่งมอบเสื้อที่แก้ไขแล้วให้แก่โจทก์ได้ จนกว่าโจทก์จะชำระสินจ้างหรือขอปฏิบัติการชำระสินจ้าง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2558/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ค่าสินค้าและการคิดดอกเบี้ยเมื่อส่งมอบสินค้าเกินกำหนดและมีการทวงถามหนี้
โจทก์ได้ส่งเหล็กเส้นให้จำเลยตามจำนวนและคุณลักษณะตามสัญญาแล้ว จำเลยมีหน้าที่ต้องชำระเงินให้โจทก์ตามสัญญา แต่จำเลยไม่ชำระ โจทก์ได้ทวงถามจำเลยแล้ว ดังนี้ โจทก์มีสิทธิได้รับดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินนับตั้งแต่วันผิดนัดจนถึงวันที่จำเลยที่ 1 วางเงินต่อศาล.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1206/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ขนส่งสิ้นสุดเมื่อส่งมอบสินค้าให้ท่าเรือปลายทาง และความรับผิดชอบของท่าเรือในการเก็บรักษา
สินค้าตาม ฟ้องมิได้ขาดหายไปในระหว่างการขนส่งที่อยู่ในความรับผิดชอบของจำเลย แต่ หายไปในระหว่างที่เก็บอยู่ในโรงพักสินค้าของ การท่าเรือแห่งประเทศไทย หลังจากที่ผู้รับตราส่งได้ชำระค่าระวางและรับใบสั่งปล่อยสินค้าจากจำเลย อันถือ ได้ ว่าจำเลยได้ จัดส่งสินค้าถึง การท่าเรือปลายทาง และ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้ รับมอบสินค้าไว้จากจำเลยครบถ้วนตาม ระเบียบและการปฏิบัติในการรับสินค้าแล้ว หน้าที่การขนส่งสินค้าของจำเลยย่อมสิ้นสุดลง จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อ โจทก์ โจทก์ฟ้องว่าสินค้าได้ ขาดหายไปในระหว่างการขนส่งที่จำเลยเป็นผู้รับขนจำเลยให้การว่าสินค้ามิได้ขาดหายไปในระหว่างขนส่งของจำเลย ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า "จำเลยเป็นผู้ทำการขนส่งสินค้าร่วมในทอดสุดท้ายจากประเทศ สิงคโปร์ มาประเทศ ไทย ซึ่ง จะต้อง รับผิดต่อ โจทก์ตาม ฟ้องเพียงใดหรือไม่"ดังนี้ การที่จำเลยนำสืบว่าสินค้าตาม ฟ้องได้ ขาดหายไปในระหว่างเก็บอยู่ในระหว่างเก็บอยู่ในโรงพักสินค้าของ การท่าเรือแห่งประเทศไทย นั้น จึงเป็นการนำสืบเพื่อให้เห็นว่าสินค้ามิได้ขาดหายในระหว่างขนส่งตาม ข้อต่อสู้ของจำเลยนั้นเองหาเป็นการนอกคำให้การและนอกประเด็นไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4170/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายผิดนัด: สิทธิเรียกร้องเบี้ยปรับและค่าเสียหายจากการส่งมอบสินค้าไม่ถูกต้อง
สัญญาซื้อขายเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซิน ข้อ 8 กำหนดเบี้ยปรับในกรณีที่ผู้ขายผิดสัญญาไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงขายให้แก่ผู้ซื้อหรือส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้อง ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้และวรรคสองระบุว่า ในกรณีที่ผู้ซื้อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อริบหลักประกันหรือเรียกร้องจากธนาคารผู้ออกหนังสือค้ำประกันแล้วแต่ผู้ซื้อจะเห็นสมควร ส่วนสัญญาข้อ 9 กำหนดเบี้ยปรับในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาต่อผู้ขาย ยังคงยอมให้ผู้ขายนำสิ่งของที่ซื้อขายตามสัญญาส่งให้แก่ผู้ซื้อต่อไป ผู้ซึ่งจึงจะมีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับจากผู้ขายเป็นรายวันได้ นับแต่วันถัดจากวันครบกำหนดตามสัญญาจนกว่าผู้ขายได้นำสิ่งของมาส่งให้แก่ผู้ซื้อจนครบถ้วน เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเนื่องจากจำเลยส่งมอบเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินทั้งหมดไม่ถูกต้องตามสัญญาซื้อขาย จึงเป็นเรื่องโจทก์ไม่ได้รับเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินที่ไม่ถูกต้องตามที่สัญญากำหนดไว้ ถือได้ว่าจำเลยไม่ได้ส่งมอบสิ่งของตามสัญญา ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จำเลยส่งมอบสิ่งของให้โจทก์ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องตามสัญญา และโจทก์ได้ยอมรับไว้โดยจะใช้สิทธิปรับเป็นรายวันตามสัญญาข้อ 9 แต่อย่างใด โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับตามสัญญาข้อ 8 วรรคสอง เท่านั้นหามีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับเป็นรายวันตามสัญญาข้อ 9 ไม่ แม้สัญญาซื้อขายจะได้กำหนดค่าเสียหายที่จำเลยต้องรับผิดชดใช้ให้แก่โจทก์ไว้ก็ตาม แต่การที่โจทก์ได้รับความเสียหายเนื่องจากจำเลยผิดสัญญา โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายที่โจทก์ได้รับอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 222 วรรคสอง โจทก์แจ้งความซื้อเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินเพื่อใช้ในราชการในการจัดซื้อจะต้องตั้งงบประมาณและต้องได้รับอนุมัติจำนวนเงินที่จะจัดซื้อจากรัฐบาล ซึ่งพ่อค้าเช่นจำเลยย่อมจะต้องทราบ เมื่อจำนวนเงินที่โจทก์ได้รับจากเงินงบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรให้สามารถซื้อเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินจากจำเลยได้ 10 เครื่อง ตามความต้องการของโจทก์ จำเลยย่อมคาดเห็นล่วงหน้าแล้วว่าถ้าจำเลยผิดสัญญาไม่อาจส่งมอบเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินให้แก่โจทก์ได้ โจทก์จะต้องได้รับความเสียหาย เมื่อโจทก์ไม่สามารถจะซื้อเครื่องกลั่นน้ำมันเบนซินที่จะใช้ทำงานได้ตามความต้องการของโจทก์ จำเลยก็ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4151/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสุดวิสัยและการส่งมอบสินค้าชำรุด/ขาดอุปกรณ์ ผู้ขายล้มละลายไม่ใช่เหตุสุดวิสัยของผู้ซื้อ
โจทก์สั่งซื้อสิ่งของที่จะขายให้แก่จำเลยไปยังบริษัทผู้ขายก่อนวันที่ บริษัทผู้ขายล้มละลาย การที่บริษัทผู้ขายไม่ส่งสิ่งของมาให้โจทก์เป็นเพราะเหตุใด โจทก์ไม่ได้นำสืบแสดงให้ปรากฏ บริษัทผู้ขายอาจมีสิ่งของตามสัญญาอยู่แล้ว สามารถส่งมอบให้แก่โจทก์ได้ก่อนที่จะล้มละลาย แต่ไม่ส่งให้เอง ทั้งโจทก์มิได้นำสืบว่าสิ่งของเหล่านั้น โจทก์ไม่สามารถที่จะจัดหาจากผู้ขายรายอื่นได้โจทก์จะอ้างว่าโจทก์ไม่สามารถส่งมอบสิ่งของที่ขายให้แก่จำเลยภายในกำหนดตามสัญญาได้เพราะเหตุสุดวิสัยเนื่องจากบริษัทผู้ขายสิ่งของดังกล่าวให้แก่โจทก์ล้มละลายหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4151/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสุดวิสัยจากการล้มละลายของผู้ขาย ไม่สามารถใช้เป็นข้ออ้างการส่งมอบสินค้าล่าช้าได้หากไม่ได้พิสูจน์การพยายามจัดหาสินค้าจากแหล่งอื่น
โจทก์ส่งมอบสิ่งของที่ขายให้แก่จำเลยล่าช้าเกินกำหนดตามสัญญา โดยอ้างเหตุสุดวิสัยเนื่องจากบริษัทผู้ขายล้มละลาย เมื่อปรากฏว่าโจทก์สั่งซื้อสิ่งของไปยังบริษัทผู้ขายก่อนวันที่บริษัทผู้ขายล้มละลาย การที่บริษัทผู้ขายไม่ส่งสิ่งของมาให้โจทก์เป็นเพราะเหตุใด โจทก์ไม่ได้นำสืบแสดงให้ปรากฏ โจทก์จะมา กล่าวอ้างว่าบริษัทผู้ขายได้ล้มละลายในภายหลังต้องรอให้บริษัทอื่นเข้ามาจัดกิจการแทนก่อน จึงไม่สามารถส่งมอบสิ่งของที่ขายให้แก่จำเลยภายในกำหนดตามสัญญาอันเป็นเหตุสุดวิสัยหาได้ไม่ เพราะบริษัทผู้ขายอาจมีสิ่งของตามสัญญาอยู่แล้ว สามารถส่งมอบให้แก่โจทก์ได้ก่อนที่จะล้มละลายแต่ไม่ส่งให้เองทั้งโจทก์มิได้นำสืบว่าสิ่งของเหล่านั้น โจทก์ไม่สามารถที่จะจัดหาจากผู้ขายรายอื่นได้ข้ออ้างของโจทก์จึงฟังไม่ขึ้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4056/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสุดวิสัยกับการส่งมอบสินค้า: กรณีผู้ผลิตไม่สามารถผลิตสินค้าตามสเปคที่ตกลงกันได้
การที่โจทก์ไม่สามารถส่งมอบเครื่องทดสอบการอัดแน่นให้จำเลยตามสัญญาเพราะบริษัทผู้ผลิตไม่ได้ผลิตเครื่องตามขนาดที่ระบุไว้ในสัญญา แต่ขณะเดียวกันยังมีบริษัทอื่นผลิตเครื่องหมายทดสอบการอัดแน่นซึ่งมีรายละเอียดตามคำเชิญชวนของจำเลยกรณีเช่นนี้จะถือว่าโจทก์ไม่สามารถส่งมอบเครื่องทดสอบการอัดแน่นให้จำเลยเพราะเหตุสุดวิสัยหาได้ไม่ เพราะกรณีเป็นความผิดพลาดของโจทก์เองที่ยื่นคำเสนอขายเครื่องดังกล่าวโจทก์จำเลยโดยมิได้ตรวจสอบให้ดีเสียก่อนว่าจะสามารถจัดหาเครื่องขนาดและชนิดตามที่ระบุไว้ในคำเสนอของโจทก์เองต่อจำเลยได้หรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 111/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกเช็คชำระหนี้สินค้าและการส่งมอบสินค้าไม่ครบถ้วน ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยสั่งจ่ายเช็คเพื่อชำระหนี้ค่าสินค้าที่ค้างชำระโจทก์ร่วมกับสินค้าใหม่ที่จำเลยสั่งซื้อจากโจทก์ร่วม เมื่อโจทก์ร่วมไม่ส่งสินค้าให้จำเลยอีก แต่นำเช็คดังกล่าวไปขึ้นเงิน แม้ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินอ้างว่าบัญชีปิดแล้ว การกระทำของจำเลยก็ยังไม่เป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 591/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการริบประกันและค่าปรับรายวันจากการผิดสัญญาซื้อขาย กรณีส่งมอบสินค้าไม่ครบถ้วนหรือคุณภาพไม่ตรงตามสัญญา
จำเลยทำสัญญาขายเครื่องอะไหล่อากาศยานแก่โจทก์รวม 6 ฉบับมีข้อตกลงว่า เมื่อครบกำหนดส่งมอบสิ่งของตามสัญญาแล้ว ถ้าผู้ขายไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงขายให้แก่ผู้ซื้อ หรือส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้องหรือไม่ครบจำนวน ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ ในกรณีที่ผู้ซื้อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อริบประกันหรือเรียกร้องจากธนาคารผู้ออกหนังสือสัญญาค้ำประกันเป็นจำนวนเงินทั้งหมดหรือบางส่วนตามแต่ผู้ซื้อเห็นสมควร และถ้าผู้ซื้อจัดซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่นเต็มจำนวนหรือเฉพาะจำนวนที่ขาดส่งแล้วแต่กรณีภายในเวลากำหนดนับแต่วันที่บอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นจากที่กำหนดไว้ในสัญญา ในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิเลิกสัญญาผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละ 0.2 ของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบนับแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันที่ผู้ขายได้ส่งมอบสิ่งของถูกต้องครบถ้วน ในระหว่างที่มีการปรับ ถ้าผู้ซื้อเห็นว่าผู้ขายไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ ผู้ซื้อจะใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาและริบประกันกับเรียกร้องให้ชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการปรับจนถึงวันบอกเลิกสัญญาด้วยก็ได้ ดังนี้ เมื่อจำเลยผิดสัญญาและมีหนังสือบอกเลิกสัญญาไปยังโจทก์แล้วการที่โจทก์ใช้สิทธิเรียกให้ชำระเงินตามสัญญาค้ำประกันจากธนาคาร เป็นการแสดงเจตนาว่า โจทก์ยอมรับการบอกเลิกสัญญาของจำเลย อันมีผลให้สัญญาสิ้นสุดลงตามเจตนาของคู่สัญญา โจทก์มีสิทธิริบประกันได้โดยไม่จำต้องบอกเลิกสัญญาไปยังจำเลยอีก
ตามสัญญาดังกล่าว ในกรณีที่จำเลยส่งมอบสิ่งของล่าช้าหรือไม่ครบถ้วน นอกจากโจทก์จะมีสิทธิริบประกันแล้ว ยังมีสิทธิปรับจำเลยในอัตราร้อยละ 0.2 ของราคา ราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบนับแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันที่จำเลยส่งมอบครบถ้วนหรือวันเลิกสัญญา แต่ถ้าจำเลยไม่ส่งมอบสิ่งของตามสัญญาเลยโจทก์ได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาและริบประกันแล้ว แสดงว่าโจทก์ไม่ประสงค์ให้ปฏิบัติตามสัญญาต่อไป จึงหามีสิทธิเรียกค่าปรับเป็นรายวันไม่ ฉะนั้น เมื่อจำเลยไม่ส่งมอบสิ่งของตามสัญญา 3 ฉบับแรกให้แก่โจทก์เลย โจทก์จึงหามีสิทธิเรียกค่าปรับเป็นรายวันไม่ ส่วนสัญญา 3 ฉบับหลังเมื่อครบกำหนดแล้วจำเลยยังส่งมอบสิ่งของไม่ครบถ้วน ต่อมาจำเลยส่งของตามสัญญาอีก แม้ว่าบางรายการจะมีคุณภาพไม่ตรงกับที่กำหนดในสัญญาหรือส่งมอบล่าช้าก็เป็นพฤติการณ์ที่ถือได้ว่าขณะนั้นโจทก์มิได้มีเจตนาจะเลิกสัญญา ดังนั้น เมื่อต่อมามีการเลิกสัญญาทั้ง 3 ฉบับ จำเลยจึงต้องเสียค่าปรับเป็นรายวันนับแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันบอกเลิกสัญญา
ตามสัญญาดังกล่าว ในกรณีที่จำเลยส่งมอบสิ่งของล่าช้าหรือไม่ครบถ้วน นอกจากโจทก์จะมีสิทธิริบประกันแล้ว ยังมีสิทธิปรับจำเลยในอัตราร้อยละ 0.2 ของราคา ราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบนับแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันที่จำเลยส่งมอบครบถ้วนหรือวันเลิกสัญญา แต่ถ้าจำเลยไม่ส่งมอบสิ่งของตามสัญญาเลยโจทก์ได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาและริบประกันแล้ว แสดงว่าโจทก์ไม่ประสงค์ให้ปฏิบัติตามสัญญาต่อไป จึงหามีสิทธิเรียกค่าปรับเป็นรายวันไม่ ฉะนั้น เมื่อจำเลยไม่ส่งมอบสิ่งของตามสัญญา 3 ฉบับแรกให้แก่โจทก์เลย โจทก์จึงหามีสิทธิเรียกค่าปรับเป็นรายวันไม่ ส่วนสัญญา 3 ฉบับหลังเมื่อครบกำหนดแล้วจำเลยยังส่งมอบสิ่งของไม่ครบถ้วน ต่อมาจำเลยส่งของตามสัญญาอีก แม้ว่าบางรายการจะมีคุณภาพไม่ตรงกับที่กำหนดในสัญญาหรือส่งมอบล่าช้าก็เป็นพฤติการณ์ที่ถือได้ว่าขณะนั้นโจทก์มิได้มีเจตนาจะเลิกสัญญา ดังนั้น เมื่อต่อมามีการเลิกสัญญาทั้ง 3 ฉบับ จำเลยจึงต้องเสียค่าปรับเป็นรายวันนับแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันบอกเลิกสัญญา