คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อำนาจศาลฎีกา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 56 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1689/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลฎีกาพิจารณาความผิดอื่น แม้จำเลยไม่ฎีกา หากพยานหลักฐานไม่เพียงพอพิสูจน์ความผิด
เมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่ใช้มีดแทงผู้เสียหายแม้ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยในความผิดฐานพาอาวุธติดตัวไปในทางสาธารณะและจำเลยไม่ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกฟ้องโจทก์ในความผิดฐานพาอาวุธติดตัวไปในทางสาธารณะได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1895/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษจำคุกรวมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และอำนาจศาลฎีกาในการพิจารณาแม้จำเลยไม่ได้ฎีกา
ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ที่ 2 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 3 โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 1 ที่ 2 มิได้ฎีกา ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาได้มีพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 6) พ.ศ.2526 มาตรา 4 แก้ไขมาตรา 91 แห่งประมวลกฎหมายอาญาในเรื่องรวมโทษทุกกระทง ซึ่งตามมาตรา 91(3) ที่แก้ไขใหม่ได้บัญญัติไว้ว่า สำหรับความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 10 ปี ขึ้นไป เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วโทษจำคุกทั้งสิ้นต้องไม่เกิน 50 ปี และโดยที่ความผิดกระทงที่หนักที่สุดของจำเลยที่ 1 ที่ 2 คือความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ซึ่งมีอัตราโทษที่กฎหมายกำหนดไว้ให้ประหารชีวิต กรณีจึงต้องด้วยมาตรา91(3) เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วจะลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1ที่ 2 ได้ไม่เกิน 50 ปี ดังนั้น จึงต้องใช้กฎหมายใหม่ดังกล่าวซึ่งเป็นคุณแก่จำเลยที่ 1 ที่ 2 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 แม้จำเลยที่ 1 ที่ 2 จะมิได้ฎีกา แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาถึงจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 146/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อนุญาตเลื่อนคดีและการพิจารณาใหม่: ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาตามความเหมาะสมโดยคำนึงถึงเหตุผล
ในวันนัดสืบพยานประเด็นโจทก์ ทนายจำเลยขอเลื่อน แต่ศาลที่รับประเด็นไม่อนุญาต และดำเนินการสืบพยานไปโดยทนายจำเลยไม่ได้ซักค้าน ดังนี้ แม้จะถือว่าศาลที่รับประเด็นมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการพิจารณา แต่การที่ศาลฎีกาจะมีคำสั่งให้มีการพิจารณาใหม่ทั้งหมดหรือบางส่วนหรือไม่ นั้นก็เป็นดุลพินิจของศาลฎีกา โดยคำนึงถึงเหตุอันสมควรเป็นเรื่อง ๆ ไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สำคัญผิดในสถานการณ์คับขัน: การกระทำเพื่อป้องกันตนเองที่เกินสมควรแก่เหตุ และอำนาจศาลฎีกาในการวินิจฉัยปัญหาความสงบเรียบร้อย
โจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษตามฟ้อง เมื่อจำเลยอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยกระทำโดยสำคัญผิดว่าเป็นพวกคนร้ายมาปล้นเรือน แต่เป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ ดังนี้ แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามศาลชั้นต้น ส่วนจำเลยไม่ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เพียงแต่แก้ฎีกาโจทก์ขอให้ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ก็ตาม เมื่อศาลฎีกาฟังว่าเป็นการป้องกันพอควรแก่เหตุย่อมเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ซึ่งศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1113/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลฎีกาในการพิพากษาถึงจำเลยอื่น แม้ไม่ได้ฎีกา เมื่อเหตุยกฟ้องเป็นเหตุในลักษณะคดี
คดีที่จำเลยคนหนึ่งฎีกาคัดค้านคำพิพากษาซึ่งให้ลงโทษจำเลยหลายคนในความผิดฐานเดียวกันนั้น เมื่อศาลฎีกาเห็นควรยกฟ้องเพราะพยานหลักฐานของโจทก์ ไม่พอฟังลงโทษจำเลยคนใดได้ และเป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยอื่นที่มิได้ฎีกาให้มิต้องรับโทษได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1113/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลฎีกาพิพากษาถึงจำเลยอื่น แม้ไม่ได้ฎีกา กรณีเหตุในลักษณะคดี
คดีที่จำเลยคนหนึ่งฎีกาคัดค้านคำพิพากษาซึ่งให้ลงโทษจำเลยหลายคนในความผิดฐานเดียวกันนั้น เมื่อศาลฎีกาเห็นควรยกฟ้องเพราะพยานหลักฐานของโจทก์ไม่พอฟังลงโทษจำเลยคนใดได้ และเป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยอื่นที่มิได้ฎีกาให้มิต้องรับโทษได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 739/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีอาญาเมื่อจำเลยหลบหนี และทนายยื่นฎีกาแทน การมีอำนาจพิจารณาของศาลฎีกา
ในคดีอาญา จำเลยหลบหนีไปก่อน ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เมื่อศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ฟังแล้ว ทนายจำเลยยื่นฎีกาแทนจำเลย ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีต่อไปได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1276/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำและการบังคับตามสัญญาประนีประนอม ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยแม้จำเลยมิได้ยกข้อต่อสู้
แม้จำเลยจะมิได้ยกเรื่องฟ้องซ้ำเป็นข้อต่อสู้ไว้แต่เดิมศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยได้ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวแก่ความสงบเรียบร้อยของประชาชน
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์จากจำเลยในคดีก่อนจนศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีนั้นไปแล้วโจทก์นำคดีเรื่องนี้มาฟ้องเรียกทรัพย์รายเดียวกันคืนจากจำเลยอีก เป็นฟ้องซ้ำ (อ้างฎีกาที่ 54/2494)
โจทก์จำเลยและนายสร่างได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่าจำเลยยอมคืนทรัพย์ให้โจทก์ในเมื่อนายสร่างได้จดทะเบียนสมรสและอยู่กินกับโจทก์ และศาลได้พิพากษาคดีเสร็จเด็ดขาดไปตามนั้นแล้ว เมื่อนายสร่างไม่ยอมไปจดทะเบียนสมรส โจทก์ชอบที่จะขอให้ศาลบังคับตามคำพิพากษาเดิมนั้นเท่าที่จะพึงบังคับได้ สิทธิของโจทก์ที่จะขอให้ศาลบังคับจำเลยให้คืนทรัพย์ยังคงมีอยู่ไม่ใช่ต้องนำคดีมาฟ้องเรียกทรัพย์นั้นคืนอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 494/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อหาจากชิงทรัพย์เป็นทำร้ายร่างกาย ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาถึงจำเลยอื่นที่ไม่ฎีกา
ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยฐานสมคบกันชิงทรัพย์ จำเลยผู้เดียวฎีกา ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยสมคบกันทำร้ายร่างกายเท่านั้นดังนี้เป็นเหตุในลักษณะคดีศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาตลอดถึงจำเลยอื่นที่มิได้อุทธรณ์ให้ได้รับผลดีตามคำพิพากษาด้วยได้
ฟ้องว่าชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายบาดเจ็บพิจารณาว่าทำร้ายร่างกาย ลงโทษได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 493/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางเกินคำขอ และอำนาจศาลฎีกาในการวินิจฉัยโทษทางอาญาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
ฟ้องโจทก์ว่า จำเลยใช้เครื่องมือผิดกฎหมายกระทำผิดมิได้ระบุเจาะจงไปเป็นสิ่วของกลางในคดีและไม่มีคำขอให้ริบทรัพย์ดังนี้ศาลสั่งริบสิ่วนั้นไม่ได้ เกินคำขอ
ริบของกลางเป็นโทษทางอาญาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีฝ่ายใดคัดค้าน ศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
of 6