พบผลลัพธ์ทั้งหมด 55 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3787/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความพิกัดอัตราอากรขาเข้าสำหรับเครื่องอีวาปอเรเตอร์: ส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศไม่ใช่เครื่องจักร
โจทก์สั่งเครื่องอีวาปอเรเตอร์เข้ามาเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบของ เครื่องปรับอากาศรถยนต์โดยเฉพาะ หาได้นำมาใช้เป็นส่วนประกอบของ เครื่องทำความเย็นแต่ประการใดไม่แม้ เครื่องอีวาปอเรเตอร์มีส่วนประกอบ ของชิ้นส่วนต่างๆครบถ้วนสมบูรณ์ในตัวเองก็ไม่อาจถือได้ว่าเป็นเครื่องจักรและเครื่องอีวาปอเรเตอร์ โดยลำพังไม่สามารถทำให้เกิดความเย็นขึ้นได้ ทั้งไม่อาจใช้ประโยชน์ในการผลิตสิ่งใดสิ่งหนึ่งจึงมิใช่เป็นเครื่องจักร ที่ใช้กับเครื่องทำความเย็นตามพิกัดอัตราอากรขาเข้าประเภทที่ 84.17ก. แต่เป็นส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศอันจะต้องเสียอากรขาเข้า ในพิกัดประเภทที่84.15ข.
โจทก์จะอ้างเอาการที่โจทก์เคยสั่งสินค้าเครื่องอีวาปอเรเตอร์เข้ามา และจำเลยเรียกเก็บภาษีอากรจากโจทก์อันเป็นการไม่ถูกต้องชอบด้วยกฎหมาย มาเป็นข้อให้จำเลยยึดถือปฏิบัติหาได้ไม่
โจทก์จะอ้างเอาการที่โจทก์เคยสั่งสินค้าเครื่องอีวาปอเรเตอร์เข้ามา และจำเลยเรียกเก็บภาษีอากรจากโจทก์อันเป็นการไม่ถูกต้องชอบด้วยกฎหมาย มาเป็นข้อให้จำเลยยึดถือปฏิบัติหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในเครื่องจักรตามสัญญาทรัสต์รีซีท แม้ยังมิได้จดทะเบียนจำนอง ย่อมเป็นของผู้ร้อง
สัญญาทรัสต์รีซีทที่จำเลยที่ 1 ผู้สั่งซื้อเครื่องจักรจากต่างประเทศทำไว้กับธนาคารผู้ร้อง โดยระบุว่า จำเลยที่ 1 ยอมยกกรรมสิทธิ์ในเครื่องจักรให้ผู้ร้องเพื่อตอบแทนที่ผู้ร้องมอบเอกสารขนส่งสินค้าให้จำเลยที่ 1เพื่อจำเลยที่ 1 จะได้นำเครื่องจักรออกจำหน่ายนำเงินมาชำระหนี้ตามตั๋วแลกเงินแก่ผู้ร้อง เครื่องจักรเป็นสังหาริมทรัพย์และอยู่ในความครอบครองของผู้ร้องแล้ว จึงโอนกรรมสิทธิ์ได้ด้วยการแสดงเจตนา กรรมสิทธิ์ในเครื่องจักรย่อมเป็นของผู้ร้องโดยสมบูรณ์ แม้จะมีข้อตกลงว่าจำเลยที่ 1 จะต้องจดทะเบียนจำนองเครื่องจักรไว้กับผู้ร้องก่อน จึงจะ นำไปจำหน่ายจ่ายโอนได้ เมื่อยังไม่มีการ จดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร ตามพระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร พ.ศ.2514 กรรมสิทธิ์ ในเครื่องจักรก็ยังคงเป็นของผู้ร้อง โจทก์ไม่มีสิทธินำ เจ้าพนักงานบังคับคดียึดเครื่องจักรพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 168/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รายจ่ายลงทุนติดตั้งสถานีวิทยุและเครื่องจักร รวมถึงส่วนลดที่ไม่จ่ายให้ผู้ซื้อ ถือเป็นรายจ่ายทางภาษีได้หรือไม่
รายจ่ายค่าติดตั้งสถานีวิทยุซึ่งตั้งขึ้นแล้วเป็นทรัพย์สินของบริษัทโจทก์ และรายจ่ายให้ผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้งเครื่องจักร และเตาเผาของบริษัทโจทก์ เป็นรายจ่ายที่บริษัทโจทก์จ่ายไปแล้วได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายเกิดเป็นทุนรอน หรือทรัพย์สินของบริษัทโจทก์ถือว่าเป็นรายจ่าย อันมีลักษณะเป็นการลงทุนตามประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ตรี (5)
โจทก์มีหลักเกณฑ์จ่ายเงินส่วนลดให้แก่ผู้ซื้อปูนซิเมนต์ของโจทก์ทุกรายการตามอัตราที่กำหนดเป็นรายต้น กรมชลประทานซื้อปูนซิเมนต์จากโจทก์จำนวนหนึ่ง โจทก์จึงจ่ายเงินส่วนลดตามอัตราที่กรมชลประทานจะได้รับให้แก่สวัสดิการของกรมชลประทาน ซึ่งคณะข้าราชการในกรมชลประทานจัดตั้งขึ้น เพื่อช่วยเหลือข้าราชการในกรมนั้น มิได้จ่ายให้แก่กรมชลประทานผู้ซื้อ เพราะถ้าจ่ายแก่กรมชลประทาน เงินนั้นจะต้องตกเป็นของแผ่นดิน ดังนี้เมื่อโจทก์มิได้จ่ายให้แก่กรมชลประทานจึงมิใช่เป็นการจ่ายให้แก่ผู้ซื้อตามหลักเกณฑ์ที่โจทก์วางไว้ รายจ่ายนี้จึงเป็นรายจ่ายซึ่งมิใช้รายจ่ายเพื่อหากำไร หรือเพื่อกิจการโดยเฉพาะตามประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ตรี (13) จึงไม่อาจถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้
โจทก์มีหลักเกณฑ์จ่ายเงินส่วนลดให้แก่ผู้ซื้อปูนซิเมนต์ของโจทก์ทุกรายการตามอัตราที่กำหนดเป็นรายต้น กรมชลประทานซื้อปูนซิเมนต์จากโจทก์จำนวนหนึ่ง โจทก์จึงจ่ายเงินส่วนลดตามอัตราที่กรมชลประทานจะได้รับให้แก่สวัสดิการของกรมชลประทาน ซึ่งคณะข้าราชการในกรมชลประทานจัดตั้งขึ้น เพื่อช่วยเหลือข้าราชการในกรมนั้น มิได้จ่ายให้แก่กรมชลประทานผู้ซื้อ เพราะถ้าจ่ายแก่กรมชลประทาน เงินนั้นจะต้องตกเป็นของแผ่นดิน ดังนี้เมื่อโจทก์มิได้จ่ายให้แก่กรมชลประทานจึงมิใช่เป็นการจ่ายให้แก่ผู้ซื้อตามหลักเกณฑ์ที่โจทก์วางไว้ รายจ่ายนี้จึงเป็นรายจ่ายซึ่งมิใช้รายจ่ายเพื่อหากำไร หรือเพื่อกิจการโดยเฉพาะตามประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ตรี (13) จึงไม่อาจถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2350/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ต้องเสียภาษีและการเรียกคืนเงินกรณีสั่งซื้อเครื่องจักรเพื่อการผลิต ไม่ใช่ทดแทน
โจทก์สั่งเครื่องตักฝุ่นและแผงสวิทซ์ไฟฟ้าเข้ามาใช้ในการผลิต ไม่ใช่สั่งเข้ามาภายหลังแทนของเดิม โจทก์ไม่ต้องเสียภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาล โจทก์เรียกคืนได้ ไม่ใช่เงินที่โจทก์ชำระหนี้ไปตามอำเภอใจหรือชำระหนี้ที่ผิดกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1633/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้นภาษีเครื่องจักรผลิตซิเมนต์: การพิจารณาความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการผลิต
เครื่องจักรส่วนประกอบและอุปกรณ์ของเครื่องจักรที่โจทก์นำเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อใช้ในการผลิตซิเมนต์โจทก์อันจะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากร มาตรา 79 ตรี (11) นั้น จะต้องเป็นเครื่องจักรส่วนประกอบและอุปกรณ์ของเครื่องจักสำหรับใช้ในการผลิตซีเมนต์ เมื่อปรากฏว่ารถแทรกเตอร์และเครื่องรุนที่โจทก์นำเข้ามาในราชอาณาจักรใช้สำหรับดันหินที่ระเบิดจากยอดเขา ให้ตกลงมาข้างล่างเพื่อขนไปทำซิเมนต์ต่อไป ดังนี้ รถแทรกเตอร์และเครื่องรุนดังกล่าวจึงไม่ใช่เครื่องจักรที่ใช้ผลิตซิเมนต์และไม่มีส่วนเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กับเครื่องจักรที่ใช้ผลิตซิเมนต์ ไม่ได้รับยกเว้นภาษีตามมาตราดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1633/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้นภาษีเครื่องจักรผลิตซิเมนต์: การพิจารณาความเชื่อมโยงโดยตรงกับการผลิต
เครื่องจักรส่วนประกอบและอุปกรณ์ของเครื่องจักรที่โจทก์นำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อใช้ในการผลิตซิเมนต์ของโจทก์อันจะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากร มาตรา 79ตรี (11) นั้นจะต้องเป็นเครื่องจักรส่วนประกอบและอุปกรณ์ของเครื่องจักรสำหรับใช้ในการผลิตซิเมนต์ เมื่อปรากฏว่ารถแทรกเตอร์และเครื่องรุ่นที่โจทก์นำเข้ามาในราชอาณาจักรใช้สำหรับดันหินที่ระเบิดจากยอดเขาให้ตกลงมาข้างล่างเพื่อขนไปทำซิเมนต์ต่อไป ดังนี้ รถแทรกเตอร์และเครื่องรุ่นดังกล่าวจึงไม่ใช่เครื่องจักรที่ใช้ผลิตซิเมนต์และไม่มีส่วนเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กับเครื่องจักรที่ใช้ผลิตซิเมนต์ ไม่ได้รับยกเว้นภาษีตามมาตราดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดจากเครื่องจักรอันตราย: เหตุสุดวิสัยและการพิสูจน์ความผิด
เมื่อจำเลยรับว่าในคืนเกิดเหตุจำเลยใช้เครื่องจักรทำโต๊ะจักรแล้วไฟฟ้าเดินลัดวงจรเป็นเหตุให้ไฟไหม้โรงงานของจำเลยแล้วลุกลามไปไหม้บ้านของโจทก์ โจทก์ก็ไม่ต้องนำสืบอีกว่าเหตุที่ไฟไหม้โรงงานของจำเลยเนื่องมาจากจำเลยใช้เครื่องจักรทำโต๊ะจักรในคืนนั้น ข้อเท็จจริงได้ความว่า โรงงานของจำเลยใช้เครื่องจักรที่เดินด้วยกำลังไฟฟ้า และไฟไหม้เนื่องจากไฟฟ้าเดินลัดวงจรขณะที่ใช้เครื่องจักรพ่นสีโต๊ะจักรอยู่ ดังนี้ ไฟฟ้าซึ่งใช้เดินเครื่องจักรเป็นทรัพย์อันเกิดอันตรายได้โดยสภาพซึ่งจำเลยผู้มีไว้ในความครอบครองจะต้องรับผิดชอบเพื่อความเสียหายอันเกิดขึ้นแก่ทรัพย์อันเป็นของเกิดอันตรายได้โดยสภาพ เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการเสียหายนั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือเกิดเพราะความผิดของผู้ต้องเสียหายนั้นเอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437 เมื่อจำเลยไม่ได้นำสืบว่าการที่ไฟฟ้าลัดวงจรเกิดแต่เหตุสุดวิสัย หรือเกิดเพราะความผิดของโจทก์ผู้ต้องเสียหายแต่อย่างไร จำเลยจึงต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดต่อความเสียหายจากเครื่องจักรอันตราย: เหตุสุดวิสัยและการพิสูจน์
เมื่อจำเลยรับว่าในคืนเกิดเหตุจำเลยใช้เครื่องจักรทำโต๊ะจักร แล้วไฟฟ้าเดินลัดวงจรเป็นเหตุให้ไฟไหม้โรงงานของจำเลย แล้วลุกลามไปไหม้บ้านของโจทก์ โจทก์ก็ไม่ต้องนำสืบอีกว่าเหตุที่ไฟไหม้โรงงานของจำเลยเนื่องมาจากจำเลยใช้เครื่องจักรทำโต๊ะจักรในคืนนั้น ข้อเท็จจริงได้ความว่า โรงงานของจำเลยใช้เครื่องจักรที่เดินด้วยกำลังไฟฟ้า และไฟไหม้เนื่องจากไฟฟ้าเดินลัดวงจรขณะที่ใช้เครื่องจักรพ่นสีโต๊ะจักรอยู่ ดังนี้ ไฟฟ้าซึ่งใช้เดินเครื่องจักรเป็นทรัพย์อันเกิดอันตรายได้โดยสภาพ ซึ่งจำเลยผู้มีไว้ในความครอบครองจะต้องรับผิดชอบเพื่อความเสียหายอันเกิดขึ้นแก่ทรัพย์อันเป็นของเกิดอันตรายได้โดยสภาพ เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการเสียหายนั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือเกิดเพราะความผิดของผู้ต้องเสียหายนั้นเอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437 เมื่อจำเลยไม่ได้นำสืบว่าการที่ไฟฟ้าลัดวงจรเกิดแต่เหตุสุดวิสัย หรือเกิดเพราะความผิดของโจทก์ผู้ต้องเสียหายแต่อย่างไร จำเลยจึงต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2931/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิยาม 'โรงงาน' ตาม พ.ร.บ.โรงงานฯ พิจารณาจาก 'เครื่องจักร' และ 'การใช้พลังงาน' แม้มีคนงานน้อย
พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2512 มาตรา 5 มีคำจำกัดความคำว่าโรงงานไว้ ให้หมายถึงอาคารสถานที่หรือยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมตั้งแต่สองแรงม้า หรือกำลังเทียบเท่าตั้งแต่สองแรงม้าขึ้นไป ฯลฯ และมีคำจำกัดความคำว่าเครื่องจักรไว้ด้วยว่าหมายถึงสิ่งที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนหลายชิ้นสำหรับใช้ก่อกำเนิดพลังงานฯลฯ ดังนั้น จึงถือได้ว่า โรงผลิตปูนขาวซึ่งใช้เตาหินปูนขนาดให้ความร้อนเท่ากับเครื่องจักรขนาด 368 แรงม้า โดยใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง เป็นโรงงานที่ต้องขออนุญาตตามความหมายของพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2512 ด้วย เพราะใช้เตาซึ่งย่อมต้องประกอบด้วยชิ้นส่วนหลายชิ้น และใช้เชื้อเพลิงก่อให้เกิดพลังงานคือความร้อนขึ้นอันเป็นเครื่องจักรตามคำจำกัดความข้างต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1231/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รถบรรทุกยกเทไม่ใช่ส่วนประกอบเครื่องจักร ไม่ได้รับการยกเว้นภาษี
โจทก์นำรถยนต์บรรทุกยกเทเข้ามาในราชอาณาจักร เป็นรถบรรทุกวัตถุดิบสำหรับผลิตซิเมนต์จากแหล่งวัตถุดิบมาส่งที่โรงงานของโจทก์ โดยสภาพของรถบรรทุกยกเทดังกล่าวมิใช่เป็นชิ้นส่วนประกอบเป็นตัวเครื่องจักร หรือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบกับเครื่องจักรเพื่อให้เครื่องจักรทำงานแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงยานพาหนะที่ใช้ขนวัตถุดิบมาใช้ ในโรงงานของโจทก์เท่านั้น ทั้งยังได้ความว่ารถบรรทุกยกเทดังกล่าวนั้นเป็นรถขนาดใหญ่ มีน้ำหนักบรรทุก 25 ตัน ถ้าใช้รถบรรทุกชนิดอื่นจะทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการขนวัตถุดิบของโจทก์สูงขึ้น ซึ่งแสดงว่าโจทก์นำรถบรรทุกนี้มาใช้เพื่อประโยชน์แก่การลดต้นทุนการผลิตซิเมนต์ หาได้มีส่วนเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กับเครื่องจักรที่ผลิตซิเมนต์นั้นไม่ จึงไม่ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากร มาตรา 79 ตรี (11)