พบผลลัพธ์ทั้งหมด 162 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7373/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลักทรัพย์ในเคหสถานของผู้กระทำเอง ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 335(8) ตัวการร่วมจึงไม่มีความผิด
นาง ส. เพียงคนเดียวเข้าไปลักโฉนดที่ดินในบ้านผู้เสียหายซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของนาง ส. ด้วย ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 (8) ดังนั้นจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวการร่วมกระทำผิดกับนาง ส.จึงไม่มีความผิดตามมาตราดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6825/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์โดยมีเหตุอันควรเข้าเคหสถานและการเข้าถือเอาทรัพย์สินโดยไม่มีเจตนาลักทรัพย์
จำเลยได้ยินเสียง ย. ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดจำเลยจึงเข้าไปในห้องผู้เสียหายและทำการช่วยเหลือถือได้ว่าจำเลยเข้าไปโดยมีเหตุอันควรและได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้โดยปริยายแม้ ย. จะมิใช่เจ้าของห้องแต่เป็นมารดาของผู้เสียหายย่อมมีอำนาจที่จะอนุญาตให้บุคคลใดเข้าไปในห้องได้ตามสมควรการที่จำเลยพบเห็นเงินอยู่ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้าจึงถือโอกาสเอาไปเสียจำเลยจึงมีความผิดฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา335(1)วรรคแรกแต่ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา335(8)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6825/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ในเคหสถาน: การเข้าไปในห้องโดยมีเหตุอันสมควรและการรับอนุญาตโดยปริยาย
จำเลยเข้าไปในห้องพักอาศัยของผู้เสียหายเพื่อดูแลอาการเจ็บป่วยให้ย. มารดาผู้เสียหายแล้วลักเอาเงินของผู้เสียหายไปแต่จำเลยเข้าไปในห้องของผู้เสียหายก็เนื่องจากขณะที่จำเลยเดินผ่านห้องผู้เสียหายนั้นได้ยินเสียงย.ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดจำเลยจึงเข้าไปช่วยเหลือบีบนวดให้และพูดคุยเรื่องต่างๆกับย. ประมาณครึ่งชั่วโมงถือได้ว่าจำเลยเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควรและได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้โดยปริยายแม้ย. จะมิใช่เจ้าของห้องแต่เป็นมารดาของผู้เสียหายย่อมมีอำนาจที่จะอนุญาตให้บุคคลใดเข้าไปในห้องได้ตามสมควรการที่จำเลยพบเห็นเงินอยู่ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้าจึงถือโอกาสเอาไปเสียจึงไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา335(8)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2298/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาลงโทษเกินกว่าที่ฟ้อง การฟ้องเฉพาะลักทรัพย์ในเคหสถาน ศาลลงโทษฐานบุกรุกทำอันตรายสิ่งกีดกั้นด้วยไม่ได้
โจทก์บรรยายฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา335(8)การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา335(3)ด้วยจึงเป็นการพิพากษาถึงข้อที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา192วรรคสี่ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา195วรรคสองประกอบด้วยมาตรา225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 994/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุกรุกเคหสถานเพื่อข่มขืน: เจตนาสำคัญกำหนดความผิด
จำเลยได้บุกรุกเข้าไปในห้องพักอันเป็นเคหสถานของผู้เสียหายแล้วได้พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายต่อเนื่องกัน โดยมีเจตนาอันแท้จริงเพื่อข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายเป็นสำคัญ การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 994/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพยายามข่มขืนในเคหสถาน: การพิจารณาเจตนาและกรรมเดียว
เมื่อจำเลยบุกรุกเข้าไปในห้องพักอันเป็นเคหสถานของผู้เสียหายแล้วจำเลยได้พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายต่อเนื่องกันโดยมีเจตนาอันแท้จริงเพื่อข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายเป็นสำคัญการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตามบทที่มีโทษหนักที่สุด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามบุกรุกเคหสถานและลักทรัพย์: เจตนาสำคัญ แม้ไม่สำเร็จความผิดก็มี
จำเลยใช้กุญแจไขประตูห้องซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยและเก็บรักษาทรัพย์ของผู้เสียหายจนประตูเปิดออก ถือได้ว่าจำเลยได้ลงมือกระทำความผิดฐานบุกรุกเคหสถานและลักทรัพย์ของผู้เสียหายแล้ว แต่เมื่อผู้เสียหายพบเห็นและขัดขวางการกระทำของจำเลยเสียก่อนจำเลยจึงไม่สามารถกระทำความผิดดังกล่าวสำเร็จ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการพยายามกระทำความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3481/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุอันสมควรในการเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่น แม้มีอาวุธติดตัว
จำเลยเข้าไปในบ้านโจทก์เนื่องจากต้องการจะตกลงกับโจทก์เรื่องที่โจทก์ดำเนินกิจการต้มเปลือกหอยแล้วทำให้เปลือกหอยส่งกลิ่นเหม็นการเข้าไปเช่นนี้นับว่ามีเหตุอันสมควร แม้จำเลยจะมีปืนติดตัวไปด้วยก็ไม่เป็นข้อสำคัญ ไม่ทำให้การเข้าไปนั้นกลับไม่มีเหตุอันสมควร อันจะทำให้จำเลยมีความผิดฐานบุกรุก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2138/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ในเคหสถานต้องเข้าไปในเคหสถานทั้งตัว มิใช่แค่ส่วนหนึ่งของร่างกาย
การลักทรัพย์ในเคหสถานตาม ป.อ. มาตรา 335 (8) นั้นหมายถึงผู้กระทำจะต้องเข้าไปในเคหสถานทั้งตัว มิใช่เพียงแต่ร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งของผู้กระทำล่วงล้ำเข้าไปในเคหสถาน จำเลยเพียงแต่ยื่นมือผ่านบานเลื่อนไม้เข้าไปในห้องพักของผู้เสียหาย แล้วทุบกระต่ายออมสินของผู้เสียหายลักเอาเงินไป โดยจำเลยมิได้เข้าไปในห้องพักของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 335 (8)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2138/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเข้าเคหสถานเพื่อกระทำความผิด การกระทำโดยการยื่นมือเข้าไปไม่ถือเป็นการเข้าเคหสถานตามกฎหมาย
ถ้อยคำที่ว่า "ที่ตนได้เข้าไป" แห่งประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 นั้น หมายถึงว่า ผู้กระทำจะต้องเข้าไปในเคหสถานทั้งตัวมิใช่เพียงแต่ร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งของผู้กระทำล่วงล้ำเข้าไปในเคหสถาน เมื่อปรากฏว่าจำเลยเพียงแต่ยื่นมือผ่านบานเลื่อนไม้เข้าไปในห้องพักของผู้เสียหาย แล้วทุบกระต่ายออมสินของผู้เสียหายลักเอาเงินไป โดยจำเลยมิได้เข้าไปในห้องพักของผู้เสียหายจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(8)