คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เงื่อนไขบังคับก่อน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 39 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 385/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้อง - สัญญาต่อเรือ - เงื่อนไขบังคับก่อน - ฎีกาไม่ชัดแจ้ง
จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องต่อศาลตามวิธีธรรมดาจำเลยขอถือเอาคำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยในประเด็นข้อนี้เป็นส่วนหนึ่งของฎีกา จำเลยไม่แสดงเหตุผลประกอบอ้างอิงในการยื่นฎีกาฎีกาจำเลยในปัญหาดังกล่าวเป็นฎีกาไม่แจ้งชัดศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิครอบครองที่ดินมือเปล่าต้องส่งมอบการครอบครอง หรือผู้รับครอบครองอยู่ก่อน การยกให้มีเงื่อนไขไม่สมบูรณ์
ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญใด ๆ การให้จึงไม่ต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่การให้ซึ่งจะต้องมีทั้งผู้ให้และผู้รับและผู้รับยอมรับเอาทรัพย์สินนั้น
ผู้ให้มีแต่สิทธิครอบครองในที่พิพาท ดังนั้น ผู้ให้จะโอนการครอบครองให้แก่ผู้รับก็แต่ด้วยการส่งมอบทรัพย์สินที่ครอบครอง เว้นแต่ผู้รับจะครอบครองทรัพย์สินนั้นอยู่ก่อนแล้วก็ทำได้โดยเพียงแสดงเจตนา
ขณะที่เจ้ามรดกทำหนังสือยกที่พิพาทให้แก่ผู้รับผู้รับไม่อยู่ได้มาลงชื่อภายหลังและไม่ปรากฏว่าเจ้ามรดกส่งมอบที่พิพาทให้ผู้รับครอบครองหรือผู้รับได้ครอบครองที่พิพาทอยู่ก่อนทั้งหนังสือยกให้นั้นเป็นการยกให้โดยมีเงื่อนไขบังคับก่อน โดยให้มีผลสมบูรณ์ก่อนเจ้ามรดกตาย 3 วัน จึงยังฟังไม่ได้ว่าเจ้ามรดกได้แสดงเจตนาสละและโอนการครอบครองที่พิพาทให้ผู้รับที่พิพาทครึ่งหนึ่งที่เป็นสินสมรสของเจ้ามรดกจึงยังเป็นมรดกของเจ้ามรดกอยู่ เมื่อโจทก์จำเลยและเจ้ามรดกเป็นอิสลามมิกชน มีภูมิลำเนาอยู่ในเขต 4 จังหวัด ดังนั้น ในการวินิจฉัยว่าโจทก์มีส่วนในมรดกเพียงใด จำต้องให้ดะโต๊ะยุติธรรมเป็นผู้ชี้ขาดข้อกฎฆมายอิสลามและลงลายมือชื่อในคำพิพากษาตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการใช้กฎหมายอิสลามในเขตจังหัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสตูล พ.ศ. 2489

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายไม้: การวางหลักทรัพย์ไม่ใช่เงื่อนไขบังคับก่อน และการผิดสัญญาจากการสั่งหยุดทำไม้
สัญญามีว่า ในกรณีที่จะให้มีผู้ค้ำประกันผู้ขายจะต้องวางหลักทรัพย์ของผู้ขาย ให้ผู้ซื้อยึดถือไว้ ฯลฯ นั้นข้อนี้ไม่ใช่เงื่อนไขถ้าผู้ขายมิได้วางประกันเมื่อไม่ปรากฏว่า เป็นกรณีที่จะต้องวางและผู้ซื้อก็คงให้ผู้ขายปฏิบัติตามสัญญา โดยมิได้วางประกันผู้ซื้อจะยกข้อนี้ขึ้นอ้างเพื่อไม่รับผิดตามสัญญาไม่ได้
สัญญามีว่า ผู้ขายต้องนำไม้มาวางไว้ริมน้ำ 1,000 ท่อนให้ผู้ซื้อตรวจรับผู้ขายนำไม้มาวางได้ 600 ท่อน ผู้ซื้อก็สั่งงด ไม่ซื้อผู้ซื้อผิดสัญญา โดยผู้ขายไม่ต้องนำไม้มาวางถึง 1,000 ท่อน
ผู้ซื้อผิดสัญญา ต้องใช้ค่าเสียหายให้ผู้ขายตามที่สัญญากำหนดไว้ให้ใช้ครึ่งหนึ่งของราคาไม้เท่าที่ผู้ขายได้นำมากองไว้ตามสัญญาแล้วแต่เงินทุนที่ผู้ซื้อลงไปเพื่อทำไม้ทั้งหมด และราคาไม้ในป่าถ้าไม่แน่นอนว่ามีอยู่เท่าใด ศาลไม่คิดค่าเสียหายให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายมีเงื่อนไขบังคับก่อน สัญญาเป็นโมฆะหากเงื่อนไขไม่สำเร็จ และการให้ข้าวเปลือกเป็นค่าเช่า
จำเลยรับเงิน 1,200 บาท เท่าราคานาที่จำเลยซื้อจากแม่ยายโจทก์โดยสัญญาจะขายนานั้นคืนให้โจทก์ แต่มีข้อสัญญาด้วยว่า ถ้าจำเลยซื้อนาได้ใหม่ในราคาพอสมควรจำเลยจะไปโอนให้ข้อสัญญานี้เป็นเงื่อนไขบังคับก่อน ไม่ใช่เงื่อนเวลา ต่อมา 3 ปี จำเลยซื้อนาได้ไร่ละ1,000 บาท โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยทำโดยไม่สุจริตดังนี้การมิได้เป็นไปตามเงื่อนไข สัญญาจึงไม่มีผลบังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1268/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิเรียกร้องที่มีเงื่อนไขบังคับก่อน และสิทธิของเจ้าหนี้อายัติสิทธิเรียกร้อง
โอนสิทธิเรียกร้องให้แก่กันโอนสิทธิ เรียกร้องนั้นจะเกิด ต่อเมื่อศาลพิพากษาให้ ชนะคดีดังนี้ สัญญา สิทธิเรียกร้อง เช่นนี้เป็นสัญญาที่มีเงื่อนไขบังคับก่อน เจ้าหนี้(ตามคำพิพากษา) ขอให้ศาลอายัติสิทธิเรียกร้องของผู้โอนไว้ก่อนเงื่อนไขสำเร็จ เจ้าหนี้ผู้อายัติกรรมสิทธิดีกว่าผู้รับโอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 711/2475

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เงื่อนไขบังคับก่อนในสัญญาประกันภัย: การส่งบัญชีสิ่งของเสียหายและขอบเขตความรับผิด
เงื่อนไขให้ลงบัญชีแสดง สิ่งของเสียหาย เป็นเงื่อนไขบังคับก่อน เอาประกันไฟสำหรับทรัพย์หลายชนิดในสัญญาฉบับเดียวกัน ผู้เอาประกันไฟส่งบัญชีให้ได้แต่ทรัพย์บางอย่างผู้+ประกันต้องรับผิดชอบต่อทรัพย์อื่น ๆ ที่ไม่มีบัญชีด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7199/2552 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามพินัยกรรม: สิทธิอยู่อาศัยและกรรมสิทธิ์ในทรัพย์มรดก เงื่อนไขบังคับก่อน และอายุความ
ตามข้อกำหนดในพินัยกรรมเขียนเอง มีข้อความระบุไว้ชัดแจ้งว่า เมื่อ ฉ. เจ้ามรดกถึงแก่ความตายแล้วบ้านและที่ดินนั้น เจ้ามรดกขอยกให้สิทธิอยู่อาศัยและสิทธิเก็บกินแก่จำเลยมีอำนาจครอบครองและเก็บกินได้จนตลอดชีวิต แต่ถ้าจำเลยถึงแก่ความตายลงเมื่อใดแล้ว ให้บ้านและที่ดินนี้ตกเป็นกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์แก่บุตรที่เกิดจาก ช. ทุกคนโดยให้บุตรของ ช. ทุกคนมีส่วนกรรมสิทธิ์ในบ้านและที่ดินนี้เท่ากัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าข้อกำหนดในพินัยกรรมดังกล่าว เจ้ามรดกมิได้ยกกรรมสิทธิ์ในบ้านและที่ดินให้แก่จำเลยโดยเหตุนี้ เมื่อ ฉ. ผู้ทำพินัยกรรมถึงแก่ความตาย สิทธิของจำเลยในฐานะผู้รับพินัยกรรมซึ่งเกิดมีขึ้นตามกฎหมายก็มีเพียงตามที่กำหนดไว้ในพินัยกรรมว่าให้จำเลยมีเพียงสิทธิอยู่อาศัยและเก็บกินในบ้านและที่ดินได้ตลอดชีวิตเท่านั้น ส่วนกรรมสิทธิ์ในบ้านและที่ดินจะต้องตกทอดได้แก่โจทก์ทั้งสามซึ่งเป็นบุตร ช. เมื่อจำเลยถึงแก่ความตายแล้วตามเงื่อนไขบังคับก่อนที่ ฉ. ผู้ทำพินัยกรรมระบุให้พินัยกรรมมีผลบังคับให้เรียกร้องกันได้ภายหลัง ทั้งนี้ตามที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 1673 ประกอบมาตรา 1674 วรรคสอง กรณีจึงต้องถือว่านับแต่ ฉ. เจ้ามรดกถึงแก่ความตายและข้อกำหนดในพินัยกรรมเฉพาะส่วนของจำเลยมีผลนั้นก็มีผลเพียงให้จำเลยมีสิทธิอยู่อาศัยและเก็บกินในบ้านและที่ดินจนตลอดชีวิตของจำเลยเท่านั้น จึงต้องถือว่าจำเลยครอบครองบ้านและที่ดินแทนโจทก์ทั้งสามผู้รับพินัยกรรมซึ่งมีเงื่อนไขบังคับก่อนและเงื่อนไขนั้นยังไม่สำเร็จเท่านั้น จำเลยจึงไม่มีสิทธิที่จะยกอายุความขึ้นต่อสู้โจทก์ทั้งสามได้ ทั้งนี้เพราะ ป.พ.พ. มาตรา 1755 รับรองสิทธิของบุคคลที่จะยกอายุความขึ้นต่อสู้ได้ก็แต่เฉพาะบุคคลซึ่งเป็นทายาทหรือบุคคลซึ่งชอบที่จะใช้สิทธิของทายาทหรือโดยผู้จัดการมรดกเท่านั้น จำเลยครอบครองบ้านและที่ดินทรัพย์มรดกแทนโจทก์ทั้งสามซึ่งเป็นทายาท จำเลยย่อมไม่มีสิทธิยกอายุความขึ้นต่อสู้โจทก์ทั้งสามได้
จำเลยไม่มีสิทธิที่จะยื่นคำขอรับมรดกบ้านและที่ดินมาเป็นของตนเนื่องจากบ้านและที่ดินเป็นทรัพย์มรดกที่เจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมระบุยกให้แก่โจทก์ทั้งสามแล้ว เพียงแต่เงื่อนไขบังคับก่อนที่กำหนดให้บ้านและที่ดินตกทอดได้แก่โจทก์ทั้งสามยังไม่สำเร็จเพราะจำเลยยังไม่ถึงแก่ความตายเท่านั้น บ้านและที่ดินจึงมิใช่ทรัพย์นอกพินัยกรรมอันจะตกทอดแก่จำเลยในฐานะทายาทโดยธรรมตามป.พ.พ.มาตรา 1620

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4995/2565

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาไม่มีผลบังคับใช้เมื่อเงื่อนไขบังคับก่อนไม่สำเร็จ แม้จำเลยผิดสัญญาในการช่วยเหลือให้ได้อนุมัติ
โจทก์ทราบเงื่อนไขในสัญญาจ้างเหมาช่วงระหว่างโจทก์กับจำเลยว่าโจทก์จะเริ่มทำงานตามสัญญาจ้างเหมาช่วงได้ต่อเมื่อโจทก์ได้รับอนุญาตให้เข้าทำงานจากเจ้าของงานหรือที่ปรึกษาโครงการซึ่งเป็นที่รับรู้และเข้าใจตรงกันว่าการได้รับอนุมัติจากเจ้าของงานเป็นสาระสำคัญในการก่อความผูกพันแก่ทั้งสองฝ่าย จึงถือได้ว่าสัญญาจ้างเหมาช่วงระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นสัญญาที่มีเงื่อนไขบังคับก่อนตาม ป.พ.พ. มาตรา 183 เมื่อที่ปรึกษาโครงการปฏิเสธไม่ให้โจทก์เป็นผู้รับเหมาช่วง ถือว่าเงื่อนไขบังคับก่อนตามสัญญาไม่สำเร็จ สัญญาจ้างเหมาช่วงจึงไม่เป็นผลตาม ป.พ.พ. มาตรา 183 วรรคหนึ่ง โจทก์หาอาจกล่าวอ้างความผูกพันตามสัญญาจ้างเหมาช่วงได้ไม่ และเมื่อสัญญาจ้างเหมาช่วงไม่มีผลใช้บังคับเพราะติดเงื่อนไขบังคับก่อน ดังนั้น ทั้งโจทก์และจำเลยต่างฝ่ายต่างก็จะเรียกร้องค่าจ้างและค่าเสียหายโดยอาศัยมูลหนี้ตามสัญญาดังกล่าวไม่ได้เช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1908/2565

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เงื่อนไขบังคับก่อนในสัญญาซื้อขายหุ้นที่ไม่สามารถดำเนินการได้ ไม่ถือเป็นเหตุพ้นวิสัย หากมีระยะเวลาที่สมเหตุสมผล
นิติกรรมที่มีเงื่อนไขบังคับก่อนและเงื่อนไขนั้นเป็นการพ้นวิสัย อันจะทำให้นิติกรรมตกเป็นโมฆะ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 189 นั้น ต้องเป็นกรณีที่เงื่อนไขแห่งนิติกรรมนั้นเป็นเงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้โดยเด็ดขาดเนื่องจากสภาพของเงื่อนไขนั้นหรือโดยผลของกฎหมาย มิใช่เพียงเงื่อนไขไม่อาจสำเร็จได้ง่ายภายในเวลาที่กำหนด ทั้งต้องเป็นการเป็นไปไม่ได้โดยทั่วไป มิใช่เฉพาะบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
การทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นอำนาจของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่จะพิจารณาตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) โดยมีกระทรวงพลังงานเป็นผู้กำหนดเป้าหมายในการรับซื้อไฟฟ้า เมื่อไม่ปรากฏว่า คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจกำหนดนโยบายภาครัฐ กำหนดให้การทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแบบ FIT ระหว่างผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นเรื่องต้องห้าม มิอาจกระทำได้โดยเด็ดขาด ย่อมไม่อาจถือได้ว่าเงื่อนไขบังคับก่อนในสัญญาซื้อขายหุ้นข้อ 3.1 (ก) เป็นการพ้นวิสัย แต่อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขย่อมต้องมีระยะเวลาใดเวลาหนึ่งที่กำหนดไว้เพื่อให้เงื่อนไขสำเร็จลง มิใช่จะมีอยู่ตลอดไปโดยไม่มีกำหนด ซึ่งตามเงื่อนไขบังคับก่อนในสัญญาซื้อขายหุ้น ข้อ 3.2 ให้โจทก์มีสิทธิกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดดังกล่าว เมื่อนับแต่วันที่ 2 เมษายน 2558 ที่โจทก์ทำสัญญาซื้อขายหุ้นจากจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ถึงวันที่ 11 สิงหาคม 2560 ที่โจทก์กำหนดให้ระยะเวลาในการปฏิบัติตามเงื่อนไขบังคับก่อนข้อ 3.1 (ก) ยุติลง เป็นเวลาประมาณ 2 ปีเศษ ซึ่งเป็นเวลาพอสมควรที่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 จะดำเนินการให้จำเลยที่ 5 เข้าทำสัญญากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตามเงื่อนไขบังคับก่อนข้อ 3.1 (ก) ได้แล้ว จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ไม่สามารถดำเนินการได้ ต้องถือว่าเงื่อนไขบังคับก่อนไม่สำเร็จ สัญญาซื้อขายหุ้นระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 จึงไม่เป็นผล จำเลยที่ 1 และที่ 2 ต้องคืนเงินค่าหุ้นที่รับไว้แก่โจทก์ เมื่อโจทก์ทวงถามแล้ว จำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่ชำระ จึงตกเป็นผู้ผิดนัด ต้องรับผิดชำระดอกเบี้ย
of 4