พบผลลัพธ์ทั้งหมด 59 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2703/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงื่อนไขสัญญาให้ที่ดินที่ไม่ผูกพันโจทก์ และอายุความทั่วไป 10 ปี
เมื่อเงื่อนไขข้อหนึ่งในสัญญายกที่ดินให้โจทก์ ไม่มีผลผูกพันโจทก์ โดยถือว่ามิได้มีข้อสัญญาข้อนี้ต่อกันโจทก์ย่อมมีสิทธิขอให้เพิกถอนออกเสียจากสัญญานั้นได้
สัญญาให้ที่ดินระหว่างจำเลยที่ 1 กับโจทก์เป็นการยกให้โดยไม่มีมูลค่าตอบแทนใดๆ ย่อมไม่เข้าลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทน
จำเลยตัดฟ้องว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม โดยมิได้อ้างเหตุผลประกอบว่าทำไมจึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม ในข้อไหนอย่างไร เป็นข้อตัดฟ้องที่ไม่ชอบ
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนเงื่อนไขในสัญญายกที่ดินให้โจทก์ไม่เกี่ยวกับการบอกล้างโมฆียะกรรมแต่อย่างไร จึงต้องใช้อายุความทั่วไป มีกำหนด 10 ปี
สัญญาให้ที่ดินซึ่งคู่สัญญาทำขึ้นต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดินไม่ใช่เอกสารมหาชนดังเช่นโฉนดที่ดิน แต่เป็นเอกสารสัญญาอย่างหนึ่ง ซึ่งคู่ความมีสิทธิที่จะนำสืบหักล้างถึงความไม่สมบูรณ์ หรือความไม่ถูกต้องแห่งเอกสารนั้นได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคท้าย
สัญญาให้ที่ดินระหว่างจำเลยที่ 1 กับโจทก์เป็นการยกให้โดยไม่มีมูลค่าตอบแทนใดๆ ย่อมไม่เข้าลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทน
จำเลยตัดฟ้องว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม โดยมิได้อ้างเหตุผลประกอบว่าทำไมจึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม ในข้อไหนอย่างไร เป็นข้อตัดฟ้องที่ไม่ชอบ
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนเงื่อนไขในสัญญายกที่ดินให้โจทก์ไม่เกี่ยวกับการบอกล้างโมฆียะกรรมแต่อย่างไร จึงต้องใช้อายุความทั่วไป มีกำหนด 10 ปี
สัญญาให้ที่ดินซึ่งคู่สัญญาทำขึ้นต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดินไม่ใช่เอกสารมหาชนดังเช่นโฉนดที่ดิน แต่เป็นเอกสารสัญญาอย่างหนึ่ง ซึ่งคู่ความมีสิทธิที่จะนำสืบหักล้างถึงความไม่สมบูรณ์ หรือความไม่ถูกต้องแห่งเอกสารนั้นได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคท้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าและข้อตกลงเรื่องทรัพย์สิน: เงื่อนไขสัญญาหรือคำมั่นสัญญา
จำเลยทำสัญญาเช่าตึกพิพาทจากโจทก์ และมีข้อความในสัญญาเช่าด้วยว่าจำเลยยอมให้สิ่งของต่างๆ ที่นำมาไว้ในตึกพิพาทตกเป็นสมบัติของโจทก์นั้น ถือได้ว่าเป็นเงื่อนไขประการหนึ่งแห่งสัญญาเช่า เป็นการตอบแทนในการที่โจทก์ให้จำเลยเช่าตึกพิพาท มิใช่เป็นคำมั่นว่าจะให้จึงผูกพันจำเลยตามสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าและผลของการยอมให้สิ่งของตกเป็นของผู้ให้เช่า: เงื่อนไขสัญญาหรือคำมั่นสัญญา
จำเลยทำสัญญาเช่าตึกพิพาทจากโจทก์ และมีข้อความในสัญญาเช่าด้วยว่าจำเลยยอมให้สิ่งของต่างๆ ที่นำมาไว้ในตึกพิพาทตกเป็นสมบัติของโจทก์นั้น ถือได้ว่าเป็นเงื่อนไขประการหนึ่งแห่งสัญญาเช่า เป็นการตอบแทนในการที่โจทก์ให้จำเลยเช่าตึกพิพาท มิใช่เป็นคำมั่นว่าจะให้จึงผูกพันจำเลยตามสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 825/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีเงื่อนไขเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา และเป็นสัญญาต่างตอบแทน หากฝ่ายหนึ่งไม่ชำระหนี้ อีกฝ่ายไม่ต้องปฏิบัติตาม
โจทก์จำเลยทำสัญญาแบ่งที่ดินมรดกโดยจำเลยยอมแบ่งให้ โจทก์เพื่อไม่ต้องเป็นความกัน ดังนี้ เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความไม่ใช่สัญญายกให้โดยเสน่หา
ข้อความในสัญญามีว่าโจทก์จะต้องแบ่งครึ่งหนึ่งของที่ดินที่ได้รับให้แก่บุตรโจทก์ด้วยแล้วลงลายมือชื่อโจทก์ จำเลย พยานและผู้เขียน แต่โจทก์จำเลยยังตกลงกันอีกด้วยว่า บุตรของโจทก์จะต้องเสียเงิน 2,000 บาทให้แก่จำเลย จำเลยจึงจะโอนที่ดินให้และบอกให้ผู้เขียนสัญญาเขียนข้อตกลงนี้ลงในสัญญาในขณะนั้นเองผู้เขียนจึงเขียนข้อตกลงนี้ไว้ใต้ลายมือชื่อที่ได้ลงกันไว้นั้น แล้วผู้เขียนลงลายมือชื่อกำกับข้อความตอนท้ายนี้ไว้คนเดียว ดังนี้ ก็ต้องถือว่าข้อความตอนท้ายนี้เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาประนีประนอมยอมความและสัญญานี้มีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนด้วย ตราบใดที่ฝ่ายโจทก์ยังไม่ได้ปฏิบัติการชำระหนี้ โดยให้เงินแก่จำเลย 2,000 บาท โจทก์ก็จะฟ้องบังคับให้จำเลยโอนที่ดินให้โจทก์ยังไม่ได้
ข้อความในสัญญามีว่าโจทก์จะต้องแบ่งครึ่งหนึ่งของที่ดินที่ได้รับให้แก่บุตรโจทก์ด้วยแล้วลงลายมือชื่อโจทก์ จำเลย พยานและผู้เขียน แต่โจทก์จำเลยยังตกลงกันอีกด้วยว่า บุตรของโจทก์จะต้องเสียเงิน 2,000 บาทให้แก่จำเลย จำเลยจึงจะโอนที่ดินให้และบอกให้ผู้เขียนสัญญาเขียนข้อตกลงนี้ลงในสัญญาในขณะนั้นเองผู้เขียนจึงเขียนข้อตกลงนี้ไว้ใต้ลายมือชื่อที่ได้ลงกันไว้นั้น แล้วผู้เขียนลงลายมือชื่อกำกับข้อความตอนท้ายนี้ไว้คนเดียว ดังนี้ ก็ต้องถือว่าข้อความตอนท้ายนี้เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาประนีประนอมยอมความและสัญญานี้มีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนด้วย ตราบใดที่ฝ่ายโจทก์ยังไม่ได้ปฏิบัติการชำระหนี้ โดยให้เงินแก่จำเลย 2,000 บาท โจทก์ก็จะฟ้องบังคับให้จำเลยโอนที่ดินให้โจทก์ยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 538/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายระหว่างคนต่างด้าวกับคนไทย: สิทธิในการถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นเงื่อนไขสำคัญของสัญญา
สัญญาจะซื้อขายที่ดินระหว่างคนไทยกับคนต่างด้าวนั้น หาเป็นโมฆะหรือโมฆียะไม่ เพราะกฎหมายหาได้ห้ามขาดไม่ให้คนต่างด้าวถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเสียทีเดียวไม่ คนต่างด้าวซึ่งเป็นคนซื้ออาจดำเนินการให้ได้รับโอนที่ดินตามสัญญาจะซื้อขายนั้นได้ เช่น ทำการขออนุญาตถือกรรมสิทธิ์ แต่คดีนี้ทางพิจารณาไม่ปรากฏว่าโจทก์ (คนต่างด้าว) ได้ปฏิบัติการให้เป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนด และได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ได้มาซึ่งที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดินแต่ประการใด กรณีย่อมไม่อาจคาดหมายได้ว่าโจทก์อยู่ในฐานะจะสามารถซื้อที่ดินจากจำเลยได้ อยู่ ๆ โจทก์ก็มาฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนที่ดินให้ โดยโจทก์ยังไม่มีสิทธิที่จะถือกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ เช่นนี้ หากศาลบังคับให้ ก็เป็นทางให้โจทก์ได้ที่ดินอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ฉะนั้น การที่จำเลยยังไม่โอนที่พิพาทให้โจทก์ ย่อมจะถือว่าจำเลยผิดสัญญาได้ไม่ และโจทก์จะเรียกเบี้ยปรับจากจำเลยก็ไม่ได้เช่นกัน
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2511)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2511)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1139/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: เงื่อนไขการเตือนให้แก้ไขทางก่อนสิ้นสิทธิใช้ทาง
สัญญาประนีประนอมยอมความมีข้อความว่า เมื่อปรากฏว่าเส้นทางไม่เรียบร้อยเป็นหลุมเป็นบ่อ จำเลยได้เตือนให้โจทก์ทำให้เรียบร้อยแล้ว โจทก์ไม่ทำให้เรียบร้อย เมื่อจำเลยมาแถลงต่อศาลและศาลได้ไปดูสภาพของทางไม่เรียบร้อยดังกล่าวแล้ว ดังนี้ ข้อความที่ว่าจำเลยเตือนให้โจทก์ทำให้เรียบร้อยนั้น เป็นข้อสัญญาประการหนึ่งที่จะทำให้โจทก์สิ้นสิทธิในการใช้ทางพิพาท กล่าวคือ แม้จะได้ความว่าทางไม่เรียบร้อยเพราะโจทก์ผิดสัญญาหากจำเลยยังไม่เตือนโจทก์ทำให้เรียบร้อยแล้ว โจทก์ก็ยังไม่สิ้นสิทธิที่จะใช้ทางพิพาท
คำว่า ค่าฤชาธรรมเนียม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งนั้นรวมถึงค่าทนายด้วย
คำว่า ค่าฤชาธรรมเนียม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งนั้นรวมถึงค่าทนายด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1186/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงื่อนไขสัญญาประนีประนอมยอมความ: การย้ายแผงลอยต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์การค้าที่เทศบาลจัดให้
ตามสัญญาประนีประนอมยอมความกล่าวว่า "เมื่อทางการเทศบาลนครกรุงเทพได้จัดที่ตั้งแผงลอยขึ้นที่คลองโอ่งอ่างและจัดให้ผู้ค้าแผงลอยเข้าตั้งได้แล้ว จำเลยที่ 1,2,3 ยอมย้ายแผงลอยจากหน้าร้านโจทก์ไปภายใน 1 เดือน" เช่นนี้ มีความหมายว่า จำเลยที่ 1,2,3 จะย้ายต่อเมื่อเทศบาลจัดสถานที่ตั้งแผงลอยขึ้นที่คลองโอ่งอ่าง เพื่อให้จำเลยทั้งสามมีสิทธิเข้าไปทำการค้า ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าแผงที่สร้างแล้วอนุญาตให้ค้าได้เฉพาะการค้าผ้า ไม่อนุญาตสำหรับการค้าผลไม้ ดอกไม้ และขนม อย่างที่จำเลยค้า จำเลยที่ 1,2,3 ยังไม่มีสิทธิเข้าไปทำการค้าในแผงนั้น กรณีจึงยังไม่เป็นไปตามเงื่อนไขตามสัญญายอม โจทก์ไม่มีอำนาจขอให้บังคับจำเลยที่ 1,2,3 ออกไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1186/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงื่อนไขสัญญาประนีประนอมยอมความ: การจัดสถานที่ค้าต้องสอดคล้องกับประเภทสินค้าที่จำเลยค้า
ตามสัญญาประนีประนอมยอมความกล่าวว่า "เมื่อทางการเทศบาลนครกรุงเทพได้จัดที่ตั้งแผงลอยขึ้นที่คลองโอ่งอ่างและจัดให้ผู้ค้าแผงลอยเข้าตั้งได้แล้ว จำเลยที่ 1,2,3 ยอมย้ายแผงลอยจากหน้าร้านโจทก์ไปภายใน 1 เดือน" เช่นนี้ มีความหมายว่า จำเลยที่ 1,2,3 จะย้ายต่อเมื่อเทศบาลจัดสถานที่ตั้งแผงลอยขึ้นที่คลองโอ่งอ่าง เพื่อให้จำเลยทั้งสามมีสิทธิเข้าไปทำการค้า ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าแผงที่สร้างแล้วอนุญาตให้ค้าได้เฉพาะการค้าผ้า ไม่อนุญาตสำหรับการค้าผลไม้ ดอกไม้ และขนม อย่างที่จำเลยค้าจำเลยที่ 1,2,3 ยังไม่มีสิทธิเข้าไปทำการค้าในแผงนั้น กรณีจึงยังไม่เป็นไปตามเงื่อนไขตามสัญญายอมโจทก์ไม่มีอำนาจขอให้บังคับจำเลยที่ 1,2,3 ออกไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2014/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เสรีภาพในการทำสัญญาและการระวังประโยชน์ตนเอง คู่สัญญามีสิทธิกำหนดเงื่อนไขได้ตามความสมัครใจ
การทำสัญญานั้น จะตกลงให้ได้เปรียบเสียเปรียบแก่กันอย่างไร แล้วแต่ความสมัครใจของคู่สัญญาซึ่งจะต้องระวังรักษาประโยชน์ของตน
สัญญาที่โจทก์มีหน้าที่ส่งเสริมและจัดหาคู่ชกให้จำเลยโดยโจทก์ยังไม่คิดค่าตอบแทนจนกระทั่งจำเลยมีชื่อเสียงแล้ว จำเลยยอมให้โจทก์รับเงินรางวัลโดยหักค่าป่วยการร้อยละห้า และจะไปหาคู่ชกโดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ไม่ได้ ทั้งจะย้ายสังกัดคณะมวยก็ไม่ได้นั้น หาขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยหรือคิลธรรมอันดีของประชาชนไม่
สัญญาที่โจทก์มีหน้าที่ส่งเสริมและจัดหาคู่ชกให้จำเลยโดยโจทก์ยังไม่คิดค่าตอบแทนจนกระทั่งจำเลยมีชื่อเสียงแล้ว จำเลยยอมให้โจทก์รับเงินรางวัลโดยหักค่าป่วยการร้อยละห้า และจะไปหาคู่ชกโดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ไม่ได้ ทั้งจะย้ายสังกัดคณะมวยก็ไม่ได้นั้น หาขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยหรือคิลธรรมอันดีของประชาชนไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงเงื่อนไขการซื้อขายที่ดิน: การรับฟังพยานนอกเอกสารและขอบเขตสัญญา
สัญญาซื้อขายมีข้อความว่า ถ้าไม่ถูกตัดถนนต้องนำเงินมาชำระจำนวนหนึ่ง ถ้าถูกตัดถนนไม่ต้องใช้เงินจำนวนนี้ โจทก์จะนำพยานบุคคลมาสืบว่ายังมีข้อตกลงในเรื่องการตัดถนนในระยะเวลา 1 ปีด้วย นำสืบไม่ได้ ต้องห้าม.