พบผลลัพธ์ทั้งหมด 57 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาหลอกลวงสำคัญกว่าจำนวนผู้เสียหายในการพิพากษาความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน
การกระทำใดเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนหรือไม่มิได้ถือเอาจำนวนผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงแต่ถือเอาเจตนาแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชนเป็นข้อสำคัญ.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2316/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำเอกสารปลอมโดยเจตนาหลอกลวง และการพิจารณาข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการตัดสินคดีอาญา
ในการที่จะพิจารณาว่าคดีใดต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่นั้นต้องพิจารณาจากกระทงความผิดเป็นกระทงๆไปคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดรวม3กระทงให้ลงโทษจำคุกกระทงละ2ปีรวมเป็นจำคุก6ปีศาลอุทธรณ์พิพากษายืน.จำเลยจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา218. ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยมิได้ทำปลอมขึ้นซึ่งเอกสารและการกระทำของจำเลยไม่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายหรือไม่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง. การที่จำเลยทำคำสั่งจังหวัดตราดเรื่องแต่งตั้งข้าราชการลงในกระดาษไขโดยไม่มีอำนาจแล้วตัดเอากระดาษไขที่มีลายมือชื่อของผู้ว่าราชการจังหวัดตราดซึ่งได้ลงนามไว้ในคำสั่งฉบับอื่นมาติดไว้ท้ายคำสั่งที่จำเลยทำขึ้นและจำเลยโรเนียวคำสั่งนี้ออกมาเพื่อแสดงให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่าคำสั่งที่จำเลยทำขึ้นนี้เป็นคำสั่งที่แท้จริงถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1268/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระบุเจตนาหลอกลวงผู้เสียหายให้ชัดเจน
โจทก์บรรยายฟ้องความผิดฐานฉ้อโกงเป็นใจความว่า จำเลยโดยทุจริตใช้อุบายหลอกลวงผู้เสียหายด้วยข้อความอันเป็นเท็จว่าจะส่งผู้เสียหายไปทำงานที่ประเทศบาห์เรน โดยผู้เสียหายจะต้องจ่ายเงินให้จำเลยเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางซึ่งความจริงแล้ว จำเลยไม่มีความตั้งใจที่จะส่งผู้เสียหายไปทำงานที่ประเทศดังกล่าว เช่นนี้ คำฟ้องของโจทก์เป็นที่เข้าใจได้ว่าจำเลยหลอกลวงผู้เสียหายคงมีข้อความเป็นเท็จว่า จำเลยมีเจตนาที่จะส่งผู้เสียหายไปทำงานที่ประเทศบาห์เรน แต่ความจริงแล้ว จำเลยไม่ได้มีเจตนาที่จะส่งผู้เสียหายไปทำงานที่ประเทศดังกล่าว เป็นการบรรยายฟ้องที่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาหลอกลวงในการซื้อขายโคเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง แม้จะอ้างว่าชำระเงินแล้ว
จำเลยติดต่อผู้เสียหายให้หาซื้อโคให้ เมื่อจำเลยขายโคได้แล้วจะนำเงินค่านายหน้าและค่าโคมาชำระให้ ผู้เสียหายซื้อโคได้แล้วมอบให้จำเลยไปจำเลยไม่นำเงินค่านายหน้าและค่าโคมาชำระ เมื่อถูกจับกุมก็ให้การว่าได้ชำระเงินให้ผู้เสียหายจนครบถ้วนแล้ว เห็นได้ว่าจำเลยมิได้มีเจตนาจะซื้อโคอย่างแท้จริง แต่ได้วางแผนหลอกลวงผู้เสียหายกับพวกมาตั้งแต่ต้นโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่าจะซื้อแต่ความจริงจำเลยมิได้มีเจตนาจะซื้อและชำระราคาโค จึงเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3660/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงประชาชน: เน้นเจตนาหลอกลวง ไม่จำกัดจำนวนผู้เสียหาย
การแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ไม่ถือเอาจำนวนผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงมากหรือน้อยเป็นหลัก แต่ถือเจตนาแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนเป็นสำคัญ เมื่อจำเลยได้หลอกลวงผู้เสียหายและบุคคลอื่นๆในท้องที่หลายจังหวัดให้มาสมัครไปทำงานต่างประเทศกับจำเลยโดยรับรองว่ามีงานให้ทำและจะได้ไปทำงานเร็ว เป็นเหตุให้ผู้เสียหายหลงเชื่อมาสมัครงานและชำระเงินให้ แต่จำเลยไม่สามารถจัดส่งไปทำงานและไม่ยอมคืนเงินแก่ผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยเป็นการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3660/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงประชาชน: เน้นเจตนาหลอกลวง ไม่จำกัดจำนวนผู้เสียหาย
การแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343ไม่ถือเอาจำนวนผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงมากหรือน้อยเป็นหลัก แต่ถือเจตนาแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนเป็นสำคัญ เมื่อจำเลยได้หลอกลวงผู้เสียหายและบุคคลอื่นๆในท้องที่หลายจังหวัดให้มาสมัครไปทำงานต่างประเทศกับจำเลยโดยรับรองว่ามีงานให้ทำและจะได้ไปทำงานเร็ว เป็นเหตุให้ผู้เสียหายหลงเชื่อมาสมัครงานและชำระเงินให้ แต่จำเลยไม่สามารถจัดส่งไปทำงานและไม่ยอมคืนเงินแก่ผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยเป็นการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3078/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ของผู้อื่น แม้มีเจตนาทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อ ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารปลอม
การที่จำเลยนำแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์หมายเลข น.0311พังงาซึ่งเป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ทางราชการออกให้แก่รถยนต์ของ ส. นำไปใช้ติดกับรถยนต์จำเลยซึ่งเป็นรถยนต์อีกคันหนึ่ง แม้จะโดยมีเจตนาแสดงให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่ารถยนต์ของจำเลยเป็นรถยนต์ที่มีหมายเลขทะเบียน น.0311 พังงา ก็ตามเมื่อแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวเป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่แท้จริงซึ่งทางราชการออกให้แก่รถยนต์คันอื่น จำเลยย่อมไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารราชการปลอม (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1141/2523)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2898/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจดทะเบียนหย่าที่ไม่สมบูรณ์และมีเจตนาหลอกลวง ทำให้การหย่าไม่มีผลผูกพัน โจทก์จำเลยยังคงเป็นสามีภรรยา
โจทก์จำเลยจดทะเบียนหย่า แต่ยังคงอยู่ร่วมเรือนเดียวกันและร่วมกันสร้างเรือนพิพาทอยู่ด้วยกันอีก 1 หลัง ปรับปรุงที่พิพาททำเป็นนาขุดบ่อเลี้ยงปลา ปลูกต้นผลอาสินเยี่ยงสามีภรรยา ต่างฝ่ายไม่มีคู่ครองใหม่พฤติการณ์ดังนี้แสดงว่าการจดทะเบียนหย่าก็โดยเจตนาไม่ประสงค์จะให้มีผลผูกพันกัน จึงใช้บังคับกันไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118 ทั้งคู่ยังคงเป็นสามีภรรยากันตลอดมา โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินและเรือนพิพาทไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 269/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับปากแล้วไม่ทำตาม ไม่เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง หากไม่มีเจตนาหลอกลวงตั้งแต่แรก
โจทก์บรรยายฟ้องเป็นใจความว่า จำเลยนำความเท็จมากล่าวหลอกลวงแก่ประชาชนและโจทก์ โดยจำเลยจัดพิมพ์หนังสือบันทึกเหตุการณ์เขมรฆ่าโหดคนไทย 30 ศพการจำหน่ายหนังสือดังกล่าวจำเลยโฆษณาแก่ประชาชนและโจทก์ว่า จำเลยจะนำเงินรายได้ไปช่วยซื้ออาวุธให้ราษฎรชายแดนคุ้มครองหมู่บ้าน เป็นเหตุให้โจทก์หลงเชื่อตกลงซื้อหนังสือดังกล่าว 2 เล่ม เป็นเงิน40 บาท จำเลยจำหน่ายหนังสือดังกล่าวได้เงิน 200,000บาท จำเลยได้รับเงินค่าหนังสือจากโจทก์แล้วกลับนำเงินดังกล่าวไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวและผู้อื่น ไม่นำไปซื้ออาวุธเพื่อแจกจ่ายราษฎรชายแดน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ดังนี้ ข้อความที่ปรากฏในฟ้องแสดงเพียงว่าจำเลยรับจะทำอะไรแล้วไม่ทำตามรับเท่านั้นการไม่ทำตามรับดังที่โจทก์ฟ้องไม่ใช่ความผิดฐานฉ้อโกง แม้ในฟ้องจะมีคำว่าจำเลยนำความเท็จมากล่าวหลอกลวงแก่ประชาชนและโจทก์ แต่เมื่ออ่านฟ้องโดยตลอดจะพบว่าไม่มีการหลอกลวงอันเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1049/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลียนแบบสลากผ้าและเจตนาหลอกลวงประชาชน การกระทำไม่เป็นละเมิดหากเป็นการกล่าวตามความจริงเพื่อป้องกันสิทธิ
โจทก์ได้เลียนแบบลายกนกสลากปิดผ้าโสร่งของจำเลยที่ 1 โดยจงใจที่จะลวงประชาชนให้หลงเชื่อว่าสินค้าผ้าโสร่งของโจทก์เป็นของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 เสียหาย การที่จำเลยนำสลากปิดผ้าของจำเลยที่ 1 ปิดในใบปลิวซึ่งประทับตราห้างของจำเลยที่ 1 คู่กับสลากปิดผ้าของโจทก์ เขียนข้อความข้างสลากของจำเลยที่ 1 ว่า 'แท้' ข้างสลากของโจทก์ว่า 'เทียม' และทำเครื่องหมายกากบาทไว้บนสลากของโจทก์ด้วย ส่งไปให้ประชาชนและร้านค้าผ้า เพียงเพื่อให้ผู้รับใบปลิวเข้าใจได้ถูกต้องว่า สลากปิดผ้าของจำเลยที่ 1 คือสลากปิดผ้าที่มีคำว่า 'แท้' อย่างข้าง ๆ ส่วนสลากปิดผ้าที่มีคำว่า 'เทียม' อยู่ข้าง ๆ นั้นเป็นสลากของเทียมไม่ใช่ของแท้ของจำเลยที่ 1 เป็นการกล่าวเกี่ยวกับสลากปิดผ้าของจำเลยที่ 1 ไปตามความจริงเพื่อให้ผู้จะซื้อผ้าโสร่งปาเต๊ะของจำเลยที่ 1 ทราบ จะได้เข้าใจถูกต้อง มิใช่เป็นการกล่าวทับถมว่า ผ้าโสร่งปาเต๊ะของโจทก์มีคุณภาพเลวและไม่ควรซื้อแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยทั้งสองยังไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ไม่เสียหาย