คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจตนาเป็นเจ้าของ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 118 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1223/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต้องมีเจตนาเป็นเจ้าของ การครอบครองเพื่ออยู่อาศัยโดยไม่แสดงเจตนาเป็นเจ้าของ ไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิ์
คดีนี้ขึ้นมาสู่ศาลฎีกาได้เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาต้องถือข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2ได้วินิจฉัยจากพยานหลักฐานในสำนวน ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยพยานหลักฐานในสำนวนว่า พยานผู้ร้องยกเว้น ป. และ ศ. ไม่มีผู้ใดยืนยันว่าผู้ร้องอยู่ในที่ดินพิพาทโดยอาศัยสิทธิอะไรสำหรับ ป. และ ศ.ซึ่งเบิกความว่า ผู้ร้องซื้อที่ดินมาจาก อ. ก็ขัดกับเอกสารและเป็นพยานบอกเล่า มีน้ำหนักน้อย และการที่ผู้ร้องมิได้โต้แย้งคัดค้านเมื่อมีผู้อื่นมาขอออกโฉนดในนามของคนอื่นก็ดี หรือนำที่ดินไปจำนองต่อธนาคารก็ดี ดูจะเป็นเหตุผิดปกติวิสัย ยกเว้นแต่ผู้ร้องจะทราบดีว่าตนไม่มีสิทธิใด ๆ ในที่ดินพิพาทเท่านั้นเป็นการฟังข้อเท็จจริงแล้วว่าผู้ร้องครอบครองที่ดินพิพาทโดยมิได้มีเจตนายึดถือครอบครองอย่างเป็นเจ้าของอันเป็นข้อเท็จจริงที่ศาลฎีกาต้องถือตาม ผู้ร้องมิได้มีเจตนายึดถือครอบครองที่ดินพิพาทอย่างเป็นเจ้าของผู้ร้องย่อมไม่ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1033/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ แม้ไม่ได้จดทะเบียนการไถ่ถอน แต่มีเจตนาเป็นเจ้าของและครอบครองโดยสงบต่อเนื่องเกิน 10 ปี
แม้ ส. ได้ชำระเงินค่าไถ่ที่ดินพิพาทจากการขายฝากแล้วมิได้จดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม แต่การครอบครองที่ดินพิพาทของ ส.นับแต่บัดนั้นส.ย่อมมีเจตนายึดถือเพื่อตนเมื่อผู้ร้องได้รับการยกให้ที่ดินพิพาทจากส.โดยส.มอบการครอบครองให้ แล้วผู้ร้องได้ครอบครองที่พิพาทมาจนส.ถึงแก่กรรมและหลังจากนั้นจนถึงวันที่ผู้ร้องมาร้องต่อศาลขอแสดงกรรมสิทธิ์ ก็ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้โต้แย้งการครอบครองของผู้ร้องแต่ประการใด ถือว่าผู้ร้องครอบครองที่ดินพิพาทโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันตลอดมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ผู้ร้องย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 969/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์ แม้ผู้ขายมิใช่เจ้าของ
บิดาผู้ร้องและผู้ร้องเข้าครอบครองที่พิพาทโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ โดยเฉพาะผู้ร้องได้ครอบครองที่พิพาทติดต่อกันมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี แม้ผู้ขายที่พิพาทให้แก่บิดาผู้ร้องมิใช่เจ้าของที่พิพาทก็ตามแต่เมื่อผู้ร้องได้ครอบครองที่พิพาทด้วยความสงบ เปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันมากว่า 10 ปี โดยมิได้ครอบครองแทนผู้อื่น ผู้ร้องจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทตาม ป.พ.พ. มาตรา 1382

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 969/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ แม้ผู้ขายเดิมมิใช่เจ้าของ
ผู้ร้องเข้าครอบครองที่พิพาทโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 10 ปี แม้ผู้ขายที่พิพาทให้แก่บิดาผู้ร้องมิใช่เจ้าของที่พิพาทก็ตาม แต่เมื่อผู้ร้องมิได้ครอบครองแทนผู้อื่น ผู้ร้องจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3741/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต้องมีเจตนาเป็นเจ้าของ และระยะเวลาต่อเนื่อง 10 ปี
การที่ผู้ร้องกับพวกเข้าไปปลูกบ้านอยู่อาศัยและครอบครองที่ดินพิพาทโดยได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดินพิพาท ถือไม่ได้ว่าเป็นการครอบครองโดยมีเจตนาจะเป็นเจ้าของที่ดินพิพาท แม้ผู้ร้องทั้งสองจะอ้างว่า ได้โต้แย้งคัดค้านที่ผู้คัดค้านนำเจ้าพนักงานที่ดินมารังวัดชี้เขตเข้ามาในที่ดินพิพาทเมื่อปี 2529 อันอาจถือได้ว่าผู้ร้องทั้งสองได้บอกกล่าวให้ผู้คัดค้านทั้งสามซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินทราบว่า ผู้ร้องทั้งสองไม่เจตนาที่จะยึดถือที่ดินพิพาทแทนผู้คัดค้านทั้งสามแล้ว แต่เมื่อนับจากวันดังกล่าวถึงวันยื่นคำร้องคดีนี้ยังไม่ครบกำหนด 10 ปี ผู้ร้องทั้งสองจึงยังไม่ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1921/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์: เจตนาเป็นเจ้าของสำคัญกว่าการรู้ว่าเป็นที่ดินของผู้อื่น
โจทก์และจำเลยซื้อที่ดินมีโฉนดจากเจ้าของกรรมสิทธิ์พร้อมกันแต่ได้เข้าครอบครองที่ดินสลับแปลงกัน แม้จำเลยจะครอบครองที่ดินของโจทก์โดยความเข้าใจผิดว่าเป็นที่ดินของตนเองแต่จำเลยก็ครอบครองโดยเจตนาเป็นเจ้าของไม่จำเป็นที่จำเลยจะต้องว่าเป็นที่ดินของโจทก์แล้วแย่งการครอบครองเกินกว่า 10 ปี จึงจะได้กรรมสิทธิ์ เมื่อการเข้าครอบครองนั้นเป็นการครอบครองด้วยความสงบ เปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเกิน 10 ปี จำเลยย่อมได้กรรมสิทธิ์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1539/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขุดหน้าดิน/ดูดทรายเป็นครั้งคราว ไม่ถือเป็นการยึดครองเพื่อแสดงเจตนาเป็นเจ้าของ
ผู้ร้องเข้าไปขุดหน้าดินขายในปี 2516 - 2517 และดูดทรายขายในปี 2526 ในที่ดินพิพาทเพียง 2 ครั้งเท่านั้น ไม่ได้กระทำสืบเนื่องติดต่อกันเป็นการเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทเป็นครั้งคราว ยังไม่ได้แสดงได้โดยแจ้งชัดว่าเป็นการใช้สิทธิยึดถือครองครองเหนือที่ดินพิพาทด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ผู้ร้องไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1539/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต้องแสดงเจตนาเป็นเจ้าของอย่างต่อเนื่อง การทำประโยชน์เป็นครั้งคราวไม่เพียงพอ
การที่ผู้ร้องเข้าไปขุดหน้าดินขายในปี 2516-2517 และดูดทรายขายในปี 2526 เพียง 2 ครั้ง โดยไม่ติดต่อกัน ถือว่าเป็นการเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินเป็นครั้งคราว ยังไม่ได้แสดงโดยแจ้งชัดว่าเป็นการใช้สิทธิยึดถือครอบครองเหนือที่ดินพิพาทด้วยเจตนาเป็นเจ้าของผู้ร้องไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1539/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต้องแสดงเจตนาเป็นเจ้าของและการทำประโยชน์ต่อเนื่อง การทำประโยชน์เป็นครั้งคราวไม่เพียงพอ
ผู้ร้องเข้าไปขุดหน้าดินขายในปี 2516-2517 และดูดทรายขายในปี 2526 ในที่ดินพิพาทเพียง 2 ครั้งเท่านั้น ไม่ได้กระทำสืบเนื่องติดต่อกันเป็นการเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทเป็นครั้งคราว ยังไม่ได้แสดงได้โดยแจ้งชัดว่าเป็นการใช้สิทธิยึดถือครอบครองเหนือที่ดินพิพาทด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ผู้ร้องไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 712/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์: เจตนาเป็นเจ้าของ ความต่อเนื่อง และระยะเวลา
จำเลยครอบครองปลูกบ้านและทำประโยชน์ในที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินมีโฉนดด้วยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเรื่อยมาเป็นเวลานานหลายสิบปี ที่พิพาทจึงตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยโดยการครอบครองตามกฎหมาย แม้โจทก์จะจดทะเบียนการได้มาซึ่งที่พิพาทโดยการครอบครองตามคำสั่งศาลไปก่อนแล้ว โจทก์ก็หามีสิทธิดีกว่าอันจะเป็นเหตุให้มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยไม่ เพราะโจทก์มิใช่ผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสอง
of 12