พบผลลัพธ์ทั้งหมด 60 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3374/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิโดยไม่สุจริตในการเรียกร้องค่าเสียหายจากเช็คปลอม ผู้จัดทำเช็คปลอมไม่มีอำนาจฟ้อง
การที่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีกระแสรายวันเป็นผู้จัดหรือรู้เห็นในการจัดให้มีการทำปลอมเช็คพิพาท โดยใช้วิธีการลอกทาบแบบลายมือชื่อโจทก์ แล้วให้ผู้อื่นนำเช็คพิพาทมาเบิกเงินในบัญชีกระแสรายวันของโจทก์จากธนาคารจำเลยนั้น ถือได้ว่าโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตในการนำเช็คพิพาทปลอมมาเรียกร้องให้จำเลยรับผิดใช้เงินตามเช็คโดยอ้างว่าลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายเป็นลายมือชื่อปลอม โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3374/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องร้องเรียกเงินจากเช็คปลอม: โจทก์มีส่วนรู้เห็นการปลอมแปลงเช็ค ทำให้ไม่มีอำนาจฟ้อง
การที่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีกระแสรายวันเป็นผู้จัดหรือรู้เห็นในการจัดให้มีการทำปลอมเช็คพิพาท โดยใช้วิธีการลอกทาบแบบลายมือชื่อโจทก์ แล้วให้ผู้อื่นนำเช็คพิพาทมาเบิกเงินในบัญชีกระแสรายวันของโจทก์จากธนาคารจำเลยนั้น ถือได้ว่าโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต โดยการนำเช็คพิพาทปลอมมาเรียกร้องให้จำเลยรับผิดใช้เงินตามเช็คโดยอ้างว่าลายมือชื่อปลอม โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3374/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิโดยไม่สุจริตในการเรียกร้องค่าเสียหายจากเช็คปลอม ผู้จัดทำหรือรู้เห็นการปลอมไม่มีอำนาจฟ้อง
การที่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีกระแสรายวันเป็นผู้จัดหรือรู้เห็นในการจัดให้มีการทำปลอมเช็คพิพาท โดยใช้วิธีการลอกทาบแบบลายมือชื่อโจทก์ แล้วให้ผู้อื่นนำเช็คพิพาทมาเบิกเงินในบัญชีกระแสรายวันของโจทก์จากธนาคารจำเลยนั้น ถือได้ว่าโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ในการนำเช็คพิพาทปลอมมาเรียกร้องให้จำเลยรับผิดใช้เงินตามเช็คโดยอ้างว่าลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายเป็นลายมือชื่อปลอม โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4568/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนาคารใช้เช็คปลอม - ความรับผิดชอบในการตรวจสอบลายมือชื่อและตราประทับ
โจทก์เป็นเจ้าของเช็คซึ่งธนาคาร ร. ในต่างประเทศมีคำสั่งให้ธนาคารจำเลยใช้เงินจำนวนหนึ่งแก่ห้าง ฯ อ.เพื่อชำระหนี้ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินแต่ห้าง ฯ อ. แจ้งว่าไม่ได้รับเช็คดังกล่าว โจทก์จึงได้ส่งเช็คฉบับใหม่มาชำระให้แก่ห้าง ฯอ. อีกฉบับหนึ่ง ภายหลังโจทก์ทราบว่าจำเลยได้ใช้เงินตามเช็คฉบับแรกซึ่งมีผู้ปลอมตราประทับและลายมือชื่อผู้จัดการห้าง ฯ อ. มาเรียกเก็บเงินไปก่อนแล้วดังนี้ โจทก์ในฐานะเจ้าของเช็คพิพาทผู้มีสิทธิในเงินจำนวนที่สั่งจ่ายตามเช็คซึ่งยังไม่ตกไปถึงมือผู้รับเงินตามความประสงค์ของโจทก์ ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยได้
ธนาคารจำเลยใช้เงินตามเช็คพิพาทอันเป็นเช็คขีดคร่อมเฉพาะผ่านธนาคาร ส. ซึ่งส่งเช็คมาเรียกเก็บเงิน การที่จำเลยมิได้ตรวจสอบลายมือชื่อและตราประทับของผู้สลักหลังในเช็คพิพาทยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ใช้เงินตามเช็คไปโดยประมาทเลินเล่อ เพราะเช็คขีดคร่อมที่ส่งมาเรียกเก็บจากธนาคารส.นั้นเป็นหน้าที่ของธนาคารส. ผู้รับเช็คที่จะตรวจสอบไม่ใช่หน้าที่ของจำเลยซึ่งใช้เงินผ่านธนาคาร ส.ดังนั้นแม้ลายมือชื่อและตราประทับที่ปรากฏในเช็คพิพาทจะเป็นการสลักหลังปลอมก็ตามจำเลยก็ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์.
ธนาคารจำเลยใช้เงินตามเช็คพิพาทอันเป็นเช็คขีดคร่อมเฉพาะผ่านธนาคาร ส. ซึ่งส่งเช็คมาเรียกเก็บเงิน การที่จำเลยมิได้ตรวจสอบลายมือชื่อและตราประทับของผู้สลักหลังในเช็คพิพาทยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ใช้เงินตามเช็คไปโดยประมาทเลินเล่อ เพราะเช็คขีดคร่อมที่ส่งมาเรียกเก็บจากธนาคารส.นั้นเป็นหน้าที่ของธนาคารส. ผู้รับเช็คที่จะตรวจสอบไม่ใช่หน้าที่ของจำเลยซึ่งใช้เงินผ่านธนาคาร ส.ดังนั้นแม้ลายมือชื่อและตราประทับที่ปรากฏในเช็คพิพาทจะเป็นการสลักหลังปลอมก็ตามจำเลยก็ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยรู้เช็คปลอมนำไปแสดงต่อธนาคาร ทำให้ธนาคารหลงเชื่อจ่ายเงินเข้าบัญชีตนเองเข้าข่ายความผิดฐานใช้เอกสารปลอมและฉ้อโกง
จำเลยเป็นพนักงานของธนาคารโจทก์ร่วมไม่มีหน้าที่การเงินจำเลยนำเช็คปลอมจำนวน3ฉบับไปยื่นต่อส. และอ. ซึ่งเป็นพนักงานการเงินของโจทก์ร่วมต่างวันกันโดยแต่ละครั้งจำเลยนำใบฝากโอนเงินเข้าธนาคารต่างสาขาในบัญชีของบ. ซึ่งจำเลยแต่ผู้เดียวมีอำนาจถอนเงินจากบัญชีดังกล่าวแม้ไม่มีพยานหลักฐานบ่งชี้ว่าจำเลยเป็นผู้ปลอมหรือมีส่วนในการปลอมเช็ค3ฉบับดังกล่าวแต่ตามพฤติการณ์แสดงได้ว่าจำเลยรู้ว่าเช็คนั้นเป็นเอกสารปลอมดังนั้นการที่จำเลยนำเช็คปลอมไปแสดงต่อพนักงานการเงินของโจทก์ร่วมโดยปกปิดความจริงจนเป็นเหตุให้โจทก์ร่วมหลงเชื่อยอมสั่งจ่ายเงินตามเช็คปลอมจึงเป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอมและฉ้อโกง พนักงานอัยการโจทก์ขอให้ศาลสั่งให้จำเลยคืนหรือใช้เงินที่จำเลยฉ้อโกงไปคืนแก่ผู้เสียหายมาท้ายฟ้องและโจทก์ร่วมได้เสียค่าธรรมเนียมมาถูกต้องแล้วจำเลยจึงต้องคืนหรือใช้เงินตามฟ้องให้โจทก์ร่วม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2617/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการร่วมลักทรัพย์-ใช้เช็คปลอม-ฉ้อโกง: เจตนาให้สำเร็จผลหลอกลวงเอาเงิน
เช็คปลอมจำนวน 23 ฉบับ เป็นส่วนหนึ่งของเช็คที่จำเลยลักมาจากธนาคารโจทก์ร่วมซึ่งจำเลยเป็นพนักงานอยู่ ไม่ปรากฏว่าเช็คดังกล่าวได้สูญหายไปจากจำเลย การที่บุคคลอื่นจะนำเช็คนั้นไปกรอกวันเดือนปี จำนวนเงิน และปลอมลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายทำเป็นเช็คปลอมแล้วนำไปขึ้นเงินได้นั้นบุคคลนั้นต้องได้รับเช็คไปจากจำเลยการที่จำเลยมอบเช็คที่ลักมาให้ผู้อื่นไปกระทำการดังกล่าว เป็นขั้นตอนที่จะให้สำเร็จผลดังเจตนาของจำเลยกับพวกในการที่จะหลอกลวงเอาเงินจากโจทก์ร่วมโดยนำเช็คปลอมนั้น ๆ ไปขึ้นเงินตามเช็คปลอม 23 ฉบับนั้น จำเลยจึงเป็นตัวการร่วมกับผู้อื่นใช้ตั๋วเงินปลอมและฉ้อโกงโจทก์ร่วม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2617/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกันลักทรัพย์เช็คแล้วนำไปใช้เป็นเช็คปลอมเพื่อฉ้อโกงธนาคาร จำเลยมีความผิดฐานใช้ตั๋วเงินปลอมและฉ้อโกง
เช็คปลอมจำนวน23ฉบับเป็นส่วนหนึ่งของเช็คที่จำเลยลักมาจากธนาคารโจทก์ร่วมซึ่งจำเลยเป็นพนักงานอยู่ไม่ปรากฏว่าเช็คดังกล่าวได้สูญหายไปจากจำเลยการที่บุคคลอื่นจะนำเช็คนั้นไปกรอกวันเดือนปีจำนวนเงินและปลอมลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายทำเป็นเช็คปลอมแล้วนำไปขึ้นเงินได้นั้นบุคคลนั้นต้องได้รับเช็คไปจากจำเลยการที่จำเลยมอบเช็คที่ลักมาให้ผู้อื่นไปทำการดังกล่าวเป็นขั้นตอนที่จะให้สำเร็จผลดังเจตนาของจำเลยกับพวกในการที่จะหลอกลวงเอาเงินจากโจทก์ร่วมโดยนำเช็คปลอมนั้นๆไปขึ้นเงินจำเลยจึงเป็นตัวการร่วมกับผู้อื่นใช้ตั๋วเงินปลอมและฉ้อโกงโจทก์ร่วม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2617/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการร่วมใช้เช็คปลอม ฉ้อโกงธนาคาร
เช็คปลอมจำนวน23ฉบับเป็นส่วนหนึ่งของเช็คที่จำเลยลักมาจากธนาคารโจทก์ร่วมซึ่งจำเลยเป็นพนักงานอยู่ไม่ปรากฏว่าเช็คดังกล่าวได้สูญหายไปจากจำเลยการที่บุคคลอื่นจะนำเช็คนั้นไปกรอกวันเดือนปีจำนวนเงินและปลอมลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายทำเป็นเช็คปลอมแล้วนำไปขึ้นเงินได้นั้นบุคคลนั้นต้องได้รับเช็คไปจากจำเลยการที่จำเลยมอบเช็คที่ลักมาให้ผู้อื่นไปกระทำการดังกล่าวเป็นขั้นตอนที่จะให้สำเร็จผลดังเจตนาของจำเลยกับพวกในการที่จะหลอกลวงเอาเงินจากโจทก์ร่วมโดยนำเช็คปลอมนั้นๆไปขึ้นเงินตามเช็คปลอม23ฉบับนั้นจำเลยจึงเป็นตัวการร่วมกับผู้อื่นใช้ตั๋วเงินปลอมและฉ้อโกงโจทก์ร่วม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2998/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกระทำผิดใช้เช็คปลอมและฉ้อโกง จำเลยที่ 2 มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ พิจารณาจากพยานหลักฐาน
ผู้อื่นนำเช็คปลอมไปเบิกและรับเงินในบัญชีเงินฝากของจำเลยที่ 1 จากธนาคาร การที่จำเลยที่ 2 นำเงินเข้าฝากในบัญชีเงินฝากกระแสรายวันของจำเลยที่ 1 เป็นสิ่งปกติธรรมดาเพราะเป็นภริยาของจำเลยที่ 1 ส่วนการที่จำเลยที่ 2 ฝาก ถอนเงินในบัญชีของตนเองที่อีกธนาคารหนึ่ง แม้บางครั้งบางเวลาจำนวนเงินจะใกล้เคียงกับจำนวนเงินที่มีผู้นำเช็คปลอมไปถอนเงินจากบัญชีเงินฝากของจำเลยที่ 1 ซึ่งอาจเป็นเหตุบังเอิญได้ ยังไม่พอฟังว่าจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกระทำผิดในการใช้เอกสารปลอมและฉ้อโกงธนาคาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3206/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เช็คปลอมโดยผู้ปลอมเอง ศาลฎีกาแก้ไขโทษเนื่องจากศาลอุทธรณ์ลงโทษเกินกว่าที่โจทก์อุทธรณ์
จำเลยทำตรายางปลอมชื่อร้านของโจทก์ ประทับตรายางปลอม และลงลายมือชื่อโจทก์ปลอมที่ด้านหลังเช็คของจำเลยสองฉบับแล้วจำเลยนำเช็คดังกล่าวไปชำระหนี้แก่ผู้มีชื่อสองรายซึ่งจำเลย มีเจตนาให้มีการใช้เงินตามเช็คทั้งสองฉบับแตกต่างจากกัน จำเลยจึงมีความผิดฐานใช้ เอกสารปลอมโดยจำเลยเป็นผู้ปลอมเอกสารนั้นเอง อันจะ ต้องรับโทษในความผิดฐานใช้เอกสารปลอมสำหรับ เช็คแต่ละฉบับรวมสองกระทง แต่เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 6 เดือน ฐานปลอมเอกสาร โจทก์มิได้อุทธรณ์ขอให้ ลงโทษสำหรับความผิดเกี่ยวกับเช็คสองฉบับนี้เป็นสองกระทง การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุก จำเลยเป็น สองกระทงกระทงละ 6 เดือน จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212 ศาลฎีกาพิพากษาแก้เฉพาะกำหนดโทษ