คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เบียดบังเงิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 48 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1803/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพนักงานเบียดบังเงินและสนับสนุนการทุจริตเบิกจ่ายเงิน ร.ส.พ.
ร.ส.พ.สาขาจังหวัดขอนแก่นดำเนินงานอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของผู้จัดการ ร.ส.พ.สาขาจังหวัดอุดรธานี จำเลยที่ 1 เป็นพนักงานของ ร.ส.พ.ประจำอยู่ที่สาขาจังหวัดขอนแก่นจำเลยที่2 เป็นเจ้าของรถร่วมที่นำรถยนต์เข้าร่วมกิจการขนส่งสินค้ากับ ร.ส.พ. จำเลยที่ 1 มีหน้าที่รักษาเงินของ ร.ส.พ.สาขาขอนแก่น ได้เบียดบังเอาเงินของ ร.ส.พ.ซึ่งอยู่ในหน้าที่รักษาของจำเลยที่ 1 เอง ด้วยวิธีทำหลักฐานเท็จเบิกจ่ายเงินไป โดยให้จำเลยที่ 2 ทำหลักฐานเท็จยื่นต่อจำเลยที่ 1 ขอเบิกเงินค่าขนส่งสินค้า อันเป็นการสนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 ดังนี้ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานฯมาตรา 4 ส่วน จำเลยที่ 2 มีความผิดตามบทมาตราดังกล่าวประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และจำเลยที่ 1 เป็นพนักงานยังได้ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตในการขอเบิกจ่ายเงินประเภทที่จะต้องขอเบิกจ่ายต่อ ร.ส.พ.สาขาอุดรธานี ด้วยการทำหลักฐานเท็จเสนอขออนุมัติจ่าย จนผู้จัดการ ร.ส.พ.สาขาอุดรธานีหลงเชื่ออนุมัติให้จ่ายเงินแก่จำเลยที่ 2 ที่สถานี ร.ส.พ.สาขาอุดรธานี การกระทำของจำเลยที่ 1 ในส่วนนี้เป็นความผิดตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว และจำเลยที่ 2 เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดส่วนนี้ การกระทำผิดของจำเลยหาต้องด้วยมาตรา 8 ด้วยไม่ และเมื่อเป็นความผิดตามบทมาตราดังกล่าวแล้ว ก็ไม่ต้องปรับบทด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2103-2104/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาแผ่นดิน, การสอบสวน, เจ้าพนักงาน, การเบียดบังเงินของรัฐ, และความผิดฐานทุจริต
คดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์บรรยายฟ้องมาว่าได้สอบสวนแล้วย่อมสันนิษฐานได้ว่าเป็นการสอบสวนที่ชอบด้วยกฎหมาย ถ้าจำเลยไม่คัดค้านโดยเสนอเป็นข้อต่อสู้ไว้ ถือว่าไม่มีข้อโต้เถียงกัน หากตามสำนวนไม่มีข้อเท็จจริงที่แสดงว่าการสอบสวนนั้นไม่ชอบ จำเลยเพิ่งมาคัดค้านขึ้นในชั้นอุทธรณ์ฎีกาแล้ว ย่อมไม่มีเหตุที่จะวินิจฉัยให้
เงินอากรค่าใบอนุญาตฆ่าสัตว์ โค กระบือ ซึ่งเป็นรายได้ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด เมื่อราษฎรนำมาชำระ และจำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่รับมอบไว้แล้ว หากจำเลยเบียดบังเอาเป็นของตนก็เป็นการเบียดบังเอาเงินของรัฐไม่ใช่เบียดบังเอาเงินของราษฎรรัฐบาลเป็นผู้เสียหายโดยตรง พนักงานอัยการจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้แม้ราษฎรผู้ชำระเงินจะมิได้ร้องทุกข์
ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้นายอำเภอในจังหวัดทุกอำเภอเป็นเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับรายได้ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดและให้เจ้าหน้าที่สรรพากรอำเภอทุกคนเป็นผู้ช่วยนายอำเภอของตนเมื่อจำเลยซึ่งเป็นเสมียนแผนกสรรพากรทราบคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดและรับมอบหมายเรื่องนี้มาแล้ว ถือได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ปฏิบัติราชการในเรื่องนี้แล้ว เพราะฐานะของเจ้าพนักงานเกิดจากการรับหน้าที่ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1731-1732/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เอกสารปลอมเพื่อยักยอกทรัพย์และเบียดบังเงิน: ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
จำเลยได้รับมอบหมายจากโจทก์ร่วมเพื่อไปซื้อที่ดินให้โจทก์ร่วมแล้วจำเลยได้นำเอาบันทึกข้อตกลงเรื่องกรรมสิทธิ์รวมเป็นสำเนาตามแบบพิมพ์ ท.ด.70 ซึ่งจำเลยรู้ว่าเป็นเอกสารที่ผู้อื่นทำปลอมขึ้นไปแสดงต่อโจทก์ร่วมเพื่อให้เชื่อว่ามีต้นฉบับเช่นนั้น และเพื่อลวงให้โจทก์ร่วมเชื่อว่าโจทก์ร่วมมีกรรมสิทธิ์รวมอยู่กับเจ้าของที่ดินตามบันทึกข้อตกลงนั้น เช่นนี้การกระทำของจำเลยเป็นการใช้เอกสารปลอม
สำเนาบันทึกข้อตกลงเรื่องกรรมสิทธิ์รวมซึ่งพิมพ์ลงในแบบพิมพ์ ท.ด.70 มีข้อความแสดงว่า โจทก์ร่วมมีกรรมสิทธิ์รวมอยู่เป็นจำนวนเท่าใด โดยไม่มีอะไรแสดงให้เห็นว่า เอกสารฉบับนี้เป็นเอกสารที่เจ้าพนักงานได้ทำขึ้นหรือรับรองในหน้าที่ ดังนี้ ย่อมไม่เป็นเอกสารราชการ แต่เป็นเอกสารสิทธิ์ตามนัยมาตรา 1 (9) แห่งประมวลกฎหมายอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1731-1732/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เอกสารปลอมเพื่อยักยอกทรัพย์และเบียดบังเอาเงินไปเป็นของตนเอง
จำเลยได้รับมอบหมายจากโจทก์ร่วมเพื่อไปซื้อที่ดินให้โจทก์ร่วมแล้วจำเลยได้นำเอาบันทึกข้อตกลงเรื่องกรรมสิทธิ์รวม เป็นสำเนาตามแบบพิมพ์ ท.ด.70 ซึ่งจำเลยรู้ว่าเป็นเอกสารที่ผู้อื่นทำปลอมขึ้นไปแสดงต่อโจทก์ร่วมเพื่อให้เชื่อว่ามีต้นฉบับเช่นนั้น และเพื่อลวงให้โจทก์ร่วมเชื่อว่าโจทก์ร่วมมีกรรมสิทธิ์รวมอยู่กับเจ้าของที่ดินตามบันทึกข้อตกลงนั้นเช่นนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการใช้เอกสารปลอม
สำเนาบันทึกข้อตกลงเรื่องกรรมสิทธิ์รวมซึ่งพิมพ์ลงในแบบพิมพ์ ท.ด.70 มีข้อความแสดงว่า โจทก์ร่วมมีกรรมสิทธิ์รวมอยู่เป็นจำนวนเท่าใด โดยไม่มีอะไรแสดงให้เห็นว่า เอกสารฉบับนี้เป็นเอกสารที่เจ้าพนักงานได้ทำขึ้นหรือรับรองในหน้าที่ ดังนี้ ย่อมไม่เป็นเอกสารราชการ แต่เป็นเอกสารสิทธิ์ตามนัยมาตรา 1(9) แห่งประมวลกฎหมายอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1866/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบียดบังเงินที่รับมอบหมายซื้อของ ยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352
การที่จำเลยรับมอบเงินจากผู้เสียหายเพื่อซื้อข้าวเปลือกและปอฟอกให้ผู้เสียหายเช่นนี้. แม้จะไม่มีกำหนดเวลาว่าจำเลยจะต้องซื้อเมื่อใด. ก็ไม่มีลักษณะเป็นการฝากทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 657 และ 672. เพราะไม่ใช่เป็นการมอบเงินให้เก็บรักษาไว้ในอารักขาของจำเลยแล้วจำเลยจะคืนให้. จริงอยู่จำเลยอาจนำธนบัตรฉบับอื่นหรือเหรียญกษาปณ์อันอื่นไปซื้อได้ แต่นั่นเป็นเพราะธนบัตรและเหรียญกษาปณ์เป็นเงินตราที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายด้วยกันตามพระราชบัญญัติเงินตราฯ. จะนำธนบัตรฉบับไหนไปซื้อ ก็สมประโยชน์ของผู้เสียหาย. และย่อมไม่ใช่การกระทำโดยทุจริต.ด้วยเหตุนี้เงินจำนวน 15,000 บาท ที่ผู้เสียหายมอบให้จำเลยครอบครอง จึงยังเป็นของผู้เสียหายอยู่จนกว่าจำเลยจะได้ซื้อข้าวเปลือกและปอฟอกให้ผู้เสียหายแล้ว. อีกประการหนึ่งการที่จำเลยไม่นำเงินของผู้เสียหายที่ตนครอบครองอยู่ไปซื้อข้าวเปลือกและปอฟอกตามที่ได้รับมอบหมาย. บางกรณีอาจเป็นเพียงผิดสัญญาในทางแพ่งได้ก็จริง แต่ทั้งนี้ต้องไม่ใช่เป็นการเบียดบังเอาเงินนั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต. หากเป็นการเบียดบังเอาเงินนั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริตแล้ว ย่อมเป็นความผิดฐานยักยอก. โดยเฉพาะคดีนี้ข้อเท็จจริงฟังได้ดังกล่าวข้างต้นว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังยักยอกเงินจำนวนนี้ไว้เป็นประโยชน์ของจำเลยเอง. จำเลยจึงต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 35/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานเบียดบังเงิน: หน้าที่รับเงินต้องระบุชัดในฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่เกี่ยวกับการเงินและพัสดุทั่วไป การเบิกเงินทุกประเภท โดยมีหน้าที่ตรวจฎีกา หลักฐานใบสำคัญจ่าย ทำทะเบียนบัญชีงบเดือน รักษาเอกสารการรับจ่ายเงิน จำเลยปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เบียดบังเอาเงินที่รับไว้ไปเป็นประโยชน์ของตนเสีย เมื่อโจทก์ไม่ระบุว่าจำเลยมีหน้าที่รับเงินด้วย ต้องถือว่าการที่จำเลยรับเงินเป็นการนอกเหนือหน้าที่ จะลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานเบียดบังเงิน แม้ไม่มีหน้าที่รับเงินโดยตรง ก็ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่เกี่ยวกับการเงินและพัสดุทั่วไป การเบิกเงินทุกประเภท โดยมีหน้าที่ตรวจฎีกา หลักฐานใบสำคัญเบิกจ่าย ทำทะเบียนบัญชีงบเดือน รักษาเอกสารการรับจ่ายเงิน จำเลยปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เบียดบังเอาเงินที่รับไว้ไปเป็นประโยชน์ของตนเสีย เมื่อโจทก์ไม่ระบุว่าจำเลยมีหน้าที่รับเงินด้วย ต้องถือว่าการที่จำเลยรับเงินเป็นการนอกเหนือหน้าที่ จะลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 74/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตเป็นปัญหาข้อเท็จจริงในคดีเบียดบังเงิน
ปัญหาที่ว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตกระทำผิดหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง.
(อ้างฎีกาที่ 457/2489)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 496/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานรถไฟทุจริต แก้ไขตั๋วรถไฟที่ใช้แล้ว นำมาขายซ้ำ เบียดบังเงินค่าโดยสาร
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตำแหน่งพนักงานห้ามล้อ ได้นำตั๋วค่าธรรมเนียมรถเร็วที่จำเลยขายแล้วซึ่งถูกขูดลบถอนแก้เครื่องหมายแสดงว่าใช้ไม่ได้แล้ว เพื่อให้ใช้ได้อีกมาขายให้แก่ผู้โดยสารรถไฟ การกระทำของจำเลยเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริตและเบียดบังเงินค่าธรรมเนียมที่จำเลยจำหน่ายตามหน้าที่เป็นของจำเลย จึงเป็นความผิดตามมาตรา 147 และ 151 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 45/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 496/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานรถไฟทุจริตขายตั๋วที่ใช้แล้ว แก้ไขข้อมูล และเบียดบังเงิน
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตำแหน่งพนักงานห้ามล้อได้นำตั๋วค่าธรรมเนียมรถเร็วที่จำเลยขายแล้วซึ่งถูกขูดลบถอนแก้เครื่องหมายแสดงว่าใช้ไม่ได้แล้วเพื่อให้ใช้ได้อีกมาขายให้แก่ผู้โดยสารรถไฟ การกระทำของจำเลยเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริตและเบียดบังเงินค่าธรรมเนียมที่จำเลยจำหน่ายตามหน้าที่เป็นของจำเลย จึงเป็นความผิดตามมาตรา 147 และ 151 แห่งประมวลกฎหมายอาญา (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 45/2505)
of 5