พบผลลัพธ์ทั้งหมด 45 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 997/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการให้เพราะเหตุเนรคุณ พิจารณาฐานะยากไร้ตามอายุและพฤติการณ์
ในคดีเพิกถอนการให้เพราะเหตุเนรคุณ แม้จะปรากฏว่า ผู้ให้จะมีบ้านและที่ดินอยู่ จะเรียกว่าไม่ยากไร้ก็ไม่ได้ จะต้องพิจารณาตามฐานานุรูปและพฤติการณ์อื่นประกอบ ผู้ให้มีอายุ 74 ปีแล้ว อาจทำงานเลี้ยงตัวไม่ได้ ซึ่งอาจตกอยู่ในฐานะเป็นผู้ยากไร้ก็ได้ (ซึ่งศาลจะฟังจากพยานหลักฐานต่อไป)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 997/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการให้เพราะเหตุเนรคุณ พิจารณาฐานะยากไร้ตามความจริงและพฤติการณ์
ในคดีเพิกถอนการให้เพราะเหตุเนรคุณ แม้จะปรากฏว่า ผู้ให้จะมีบ้านและที่ดินอยู่ จะเรียกว่าไม่ยากไร้ก็ไม่ได้จะต้องพิจารณาตามฐานานุรูปและพฤติการณ์อื่นประกอบ ผู้ให้มีอายุ 74 ปีแล้ว อาจทำงานเลี้ยงตัวไม่ได้ ซึ่งอาจตกอยู่ในฐานะเป็นผู้ยากไร้ก็ได้ซึ่งศาลจะฟังจากพยานหลักฐานต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1538/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเพิกถอนการให้เนื่องจากเนรคุณและการหมิ่นประมาท ศาลฎีกาตัดสินว่าคำกล่าวอ้างไม่ถึงขั้นร้ายแรง
แม้จะฟังว่าจำเลยได้กล่าวลับหลังโจทก์ว่า "ไม่ใช่พ่อแม่หรือโคตร์พ่อโคตร์แม่อะไรนี่" ก็ยังไม่เรียกว่าเป็นการดูถูกดูหมิ่นอย่างร้ายแรงประการใดเพียงแต่กล่าวคำไม่สุภาพว่าโจทก์มิใช่เป็นบุพพการีเท่านั้น จะเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุเนรคุณยังไม่ได้
ใบแต่งทนายเมื่อได้ยื่นต่อศาล ๆ ยอมให้ดำเนินกระบวนพิจารณาตลอดมา ดังนี้ ย่อมเป็นการแสดงว่าอนุญาตอยู่ในตัวแล้วทนายจำเลยจึงมีอำนาจดำเนินคดีในฐานะทนายจำเลย.
ใบแต่งทนายเมื่อได้ยื่นต่อศาล ๆ ยอมให้ดำเนินกระบวนพิจารณาตลอดมา ดังนี้ ย่อมเป็นการแสดงว่าอนุญาตอยู่ในตัวแล้วทนายจำเลยจึงมีอำนาจดำเนินคดีในฐานะทนายจำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1538/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเพิกถอนการให้ทรัพย์เนื่องจากเนรคุณและการหมิ่นประมาท ศาลยกฟ้องเนื่องจากพฤติการณ์ไม่ร้ายแรง
แม้จะฟังว่าจำเลยได้กล่าวลับหลังโจทก์ว่า "ไม่ใช่พ่อแม่หรือโคตรพ่อโคตรแม่อะไรนี่" ก็ยังไม่เรียกว่าเป็นการดูถูกดูหมิ่นอย่างร้ายแรงประการใด เพียงแต่กล่าวคำไม่สุภาพว่าโจทก์มิใช่เป็นบุพการีเท่านั้น จะเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุเนรคุณยังไม่ได้
ใบแต่งทนายเมื่อได้ยื่นต่อศาล ศาลยอมให้ดำเนินกระบวนพิจารณาตลอดมา ดังนี้ ย่อมเป็นการแสดงว่าอนุญาตอยู่ในตัวแล้ว ทนายจำเลยจึงมีอำนาจดำเนินคดีในฐานะทนายจำเลย
ใบแต่งทนายเมื่อได้ยื่นต่อศาล ศาลยอมให้ดำเนินกระบวนพิจารณาตลอดมา ดังนี้ ย่อมเป็นการแสดงว่าอนุญาตอยู่ในตัวแล้ว ทนายจำเลยจึงมีอำนาจดำเนินคดีในฐานะทนายจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินโดยมีเจตนาแลกเปลี่ยนเงิน ไม่ถือเป็นการให้โดยเสน่หาจึงไม่อยู่ในข้อยกเว้นการเพิกถอนการให้
มารดาจะยกนาแปลงหนึ่งให้แก่บุตรแต่มารดาต้องการเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อจะเอาไปซื้อที่นาที่จังหวัดอื่นบุตร จึงหาเงินตามจำนวนนั้นให้มารดาไปแต่ให้มารดาทำเป็นหนังสือกู้เงินจำนวนนั้นให้บุตร ยึดถือไว้ มารดาจึงทำโอนยกที่นานั้นแก่บุตรที่หอทะเบียน นับแต่มารดารับเงินจากบุตรดังกล่าวไปแล้วเป็นเวลานาน 9 ปีมารดาก็ไ่ได้ให้ดอกเบี้ยแก่บุตรเลย ดังนี้ไม่เป็นการกู้จริงจังวินิจฉัยว่า มารดาไม่ได้ยกที่นานั้นให้แก่บุตรโดยเสน่หาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 521 ฉะนั้นมารดาจะฟ้องขอให้เพิกถอนและเรียกคืนฐานบุตรเนรคุณไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 166/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการให้ทรัพย์สินเนื่องจากบุตรเนรคุณ ไม่อุปการะมารดา
บุตรว่า มารดาเป็นคนไม่มีศีลธรรมยกที่ดินให้แล้วกลับไม่ให้ซ้ำยังขับไล่ไม่ให้มารดาอยู่ร่วมบ้าน ไม่ปรากฏว่ามารดามีทรัพย์สมบัติอะไรเหลืออยู่มารดาต้องไปอาศัยบุตรคนอื่นซึ่งยากจนกว่าบุตรคนแรกส่วนบุตรคนแรกนั้นยังสามารถอุปการะให้สิ่งของแก่มารดาได้ แต่ก็ปฏิเสธเสีย ไม่ยอมให้อุปการะแก่มารดาดังนี้คดีต้องด้วย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531 มารดามีสิทธิเรียกทรัพย์ที่ให้คืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 947/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการให้เนื่องจากประพฤติเนรคุณ และการไถ่ถอนจำนองก่อนการให้เพื่อความสมบูรณ์ของนิติกรรม
มารดายกที่ดินให้แก่บุตรปรากฎว่าที่ดินที่ยกให้นั้น ติดจำนองมาก่อนการจำนองมาแล้ว จึงทำยกให้แก่บุตร และเมื่อทำยกให้แล้ว ในวันเดียวกันนั้นบุตรก็จำนองที่ดินนั้นไว้แก่ผู้มีชื่ออีก ดังนี้ ถือได้ว่า ขณะเมื่อยกให้กัน หนี้จำนองอันติดอยู่กับที่ดินไม่มีแล้วเพราะได้ไถ่ถอนแล้ว ฉะนั้นเมื่อภายหลังบุตรประพฤติเนรคุณมารดาย่อมถอนคืนการให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1117/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการให้เนื่องจากประพฤติเนรคุณ: การด่าทอและขับไล่ผู้ให้
โจทก์ฟ้องจำเลยขอเพิกถอนการให้ เพราะจำเลยประพฤติเนรคุณโดยได้ด่าว่าโจทก์ด้วยถ้อยคำหยาบคายต่าง ๆ และขับไล่โจทก์ จนต้องไปอยู่ที่อื่น ได้รับความเดือดร้อนอดหยาก แม้คำด่าที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องจะเป็นการกล่าวคำหมิ่นประมาทซึ่งหน้าก็ตาม ศาลก็ควรฟังพยานหลักฐานแห่งพฤตติการณ์ต่อไป เพราะการกระทำของจำเลยดั่งที่โจทก์อ้างเป็นข้อเท็จจริงในคำฟ้องนั้น อาจถือได้ว่าเป็นการประพฤติเนรคุณตามความในมาตรา 531
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1117/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการให้ทรัพย์สินเนื่องจากประพฤติเนรคุณจากการด่าทอและขับไล่
โจทก์ฟ้องจำเลยขอเพิกถอนการให้ เพราะจำเลยประพฤติเนรคุณโดยได้ด่าว่าโจทก์ด้วยถ้อยคำหยาบคายต่างๆ และขับไล่โจทก์จนต้องไปอยู่ที่อื่นได้รับความเดือดร้อนอดอยาก แม้คำด่าที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องจะเป็นการกล่าวคำหมิ่นประมาทซึ่งหน้าก็ตาม ศาลก็ควรฟังพยานหลักฐานแห่งพฤติการณ์ต่อไปเพราะการกระทำของจำเลยดั่งที่โจทก์อ้างเป็นข้อเท็จจริงในคำฟ้องนั้น อาจถือได้ว่าเป็นการประพฤติเนรคุณตามความในมาตรา 531
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการให้เนื่องจากผู้รับประพฤติเนรคุณ: การชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานในลักษณะแพ่ง
คดีเรียกถอนคืนการให้ เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณนั้น การชั่งน้ำหนักพะยานหลักฐานแห่งคดี จึงควรเป็นไปโดยลักษณะความแพ่ง กล่าวคือเทียงเคียงน้ำหนักคำพะยานทั้งสองฝ่ายประกอบกับพฤตติการณ์แห่งคดีว่าควรจะเชื่อฝ่ายใด ศาลไม่จำต้องพิเคราะห์คำพะพยาน หลักฐานอย่างคดีอาญาอันว่าด้วย การที่จำเลยจะต้องรับโทษ
พฤตติการณ์ที่ถือได้ว่า ผู้รับประพฤติเนรคุณ โดยผู้รับได้หมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง ตามมาตรา 531(2).
พฤตติการณ์ที่ถือได้ว่า ผู้รับประพฤติเนรคุณ โดยผู้รับได้หมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง ตามมาตรา 531(2).