คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เพิกถอนสัญญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 63 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2706/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดินพิพาทโดยจำเลยมิได้ฟ้องผู้โอนเพื่อเพิกถอนสัญญา โจทก์ยังคงมีกรรมสิทธิ์ตามสัญญาซื้อขาย
จำเลยขออาศัยอยู่ในที่พิพาทจากเจ้าของเดิม น.ซื้อที่พิพาทมาแล้วได้ทำสัญญาจะขายให้จำเลย ต่อมา น.ทำสัญญาขายที่ดินพิพาทและจดทะเบียนโอนให้โจทก์ โจทก์จึงฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท เช่นนี้ เมื่อจำเลยมิได้ฟ้อง น.ผู้โอนที่พิพาทให้โจทก์ และมิได้ฟ้องแย้งขอให้เพิกถอนการโอนที่พิพาท จึงไม่มีประเด็นที่จะวินิจฉัยให้เพิกถอนการซื้อขายที่พิพาทระหว่าง น.และโจทก์ โจทก์จึงยังคงมีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทตามสัญญาซื้อขายอยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีมีทุนทรัพย์: การฟ้องเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและสัญญาแบ่งปันมรดกเพื่อเรียกร้องทรัพย์มรดกคืน
กรณีที่โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและสัญญาแบ่งปันมรดก เป็นการฟ้องเรียกร้องให้ได้ทรัพย์พิพาทคืนมาเป็นทรัพย์มรดกเพื่อประโยชน์แก่โจทก์ผู้เป็นทายาท จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ (อ้างฎีกาที่ 2180/2517)
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฟ้องของโจทก์โดยไม่ได้หมายเรียกจำเลยมาแก้คดี ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นและให้ศาลชั้นต้นรับฟ้อง จำเลยฎีกาได้ (อ้างฎีกาที่ 474/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีมีทุนทรัพย์หรือไม่: การฟ้องเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและแบ่งมรดกเพื่อเรียกทรัพย์คืน
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและสัญญาแบ่งมรดก เป็นการฟ้องเรียกร้องให้ได้ทรัพย์พิพาทคืนมาเป็นทรัพย์มรดกเพื่อประโยชน์แก่โจทก์ผู้เป็นทายาทเป็นคดีมีทุนทรัพย์
แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งไม่รับฟ้องของโจทก์จึงไม่ได้หมายเรียกจำเลยให้มาแก้คดี แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นและให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องไว้พิจารณาจำเลยฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2414/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนรับรองบุตรและการเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความที่ขัดต่อกฎหมาย
บิดาของเด็กเท่านั้นที่จะจดทะเบียนเด็กเป็นบุตรได้ตามนัยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1527 เมื่อจดทะเบียนเด็กเป็นบุตรแล้วก็จะถอนมิได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1531 และเมื่อมีการจดทะเบียนดังกล่าวแล้วจะฟ้องขอให้ถอนการจดทะเบียนได้ก็ด้วยเหตุที่ว่าผู้ขอให้จดทะเบียนมิใช่บิดาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1528 เท่านั้น
จำเลยยอมให้เงินโจทก์ 20,000 บาท เป็นค่าตอบแทนให้แก่โจทก์ในการที่โจทก์ยินยอมจะไปเพิกถอนการจดทะเบียนรับรองบุตร ซึ่งไม่มีข้อเท็จจริงที่ยุติว่าจำเลยมิใช่บิดาแท้จริงของเด็กนั้น สัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมของศาลจึงขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1528 ซึ่งเป็นบทกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2611/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ การเพิกถอนสัญญาเนื่องจากสำคัญผิด
ในคดีก่อน จำเลยฟ้องโจทก์ทั้งสองในฐานะผู้ค้ำประกันให้ชำระหนี้เงินกู้คู่ความทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยโจทก์ทั้งสองยอมชำระหนี้ให้แก่จำเลยตามฟ้องและศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ต่อมาโจทก์ทั้งสองมาฟ้องจำเลยขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำไว้ในคดีก่อน และพิพากษาว่า คำพิพากษาในคดีนั้นไม่ผูกพันโจทก์ทั้งสองโดยอ้างว่าทำไปเพราะสำคัญผิดว่าลูกหนี้ยังไม่ได้ชำระเงินกู้ให้จำเลยซึ่งความจริงลูกหนี้ชำระให้เสร็จสิ้นแล้ว ดังนี้หาได้ไม่เพราะคำพิพากษาของศาลในคดีก่อนนั้นย่อมผูกพันคู่ความในกระบวนพิจารณาของศาลที่พิพากษานับตั้งแต่วันที่ได้พิพากษาจนถึงวันที่คำพิพากษาได้ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขกลับหรืองดเสียถ้าหากมีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145
เรื่องอำนาจฟ้องเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้ไม่มีฝ่ายใดอ้างขึ้นมา เมื่อศาลฎีกาเห็นสมควรก็ยกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 206/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้โดยเสน่ห์และเพิกถอนสัญญา เนื่องจากการเนรคุณและขาดการเลี้ยงดู
โจทก์จดทะเบียนยกที่ดินให้แก่จำเลยโดยตกลงกันว่าโจทก์ยังครอบครองทำกินตลอดไป และโจทก์ยังครอบครองอยู่ โจทก์ไปห้ามจำเลยมิให้ขายที่ดิน ขายแล้วโจทก์จะเอาอะไรกิน จำเลยว่ามีสิทธิขายได้ และด่าโจทก์ว่า "อีกดอกทอง อีแก่ อีกหัวหงอก กูจะขาย มึงอยากได้ให้ไปฟ้องเอา" ถือว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง
โจทก์ห้ามมิให้จำเลยขายที่ดินเพราะโจทก์ไม่มีที่ทำกิน จำเลยก็ยืนยันจะขายจนเกิดเหตุรุนแรงขึ้น พอถือได้ว่าเป็นการบอกปัดไม่ยอมให้สิ่งจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่ผู้ให้ในเวลาที่ผู้ให้ยากไร้ และผู้รับยังสามารถให้ได้ โจทก์ขอเพิกถอนการให้ได้โดยไม่ต้องรอให้จำเลยขายที่ดินไปเสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: ประเด็นซื้อขายที่ดินไม่สุจริต และการเรียกร้องค่าเช่าที่ดินจากสัญญาที่ศาลเพิกถอน
คดีก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินพิพาท อ้างว่าภริยาโจทก์โอนขายให้จำเลยไปโดยไม่ได้รับความยินยอม คดีถึงที่สุดโดยศาลวินิจฉัยในประเด็นว่า จำเลยซื้อที่พิพาทโดยไม่สุจริต พิพากษาว่าสัญญาซื้อขายที่ดินรายพิพาทระหว่างภริยาโจทก์กับจำเลยเป็นโมฆะ ให้เพิกถอนเสีย ดังนี้ ถ้าโจทก์นำคดีมาฟ้องจำเลยอีกว่านับตั้งแต่วันที่จำเลยได้รับโอนที่ดินรายพิพาทและห้องแถวไปจากภริยาโจทก์ จำเลยได้เก็บค่าเช่าที่ดินและห้องแถวไปจำนวนหนึ่ง ขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระเงินจำนวนนั้นแก่โจทก์ ย่อมเป็นฟ้องซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 507/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนสัญญาประกันและการหมดภาระผูกพันของผู้ประกันเมื่อศาลบังคับเบี้ยปรับแล้ว
เมื่อศาลเพิกถอนสัญญาประกันแล้ว ก็บังคับเอาแต่เบี้ยปรับฐานผิดสัญญาประกันเท่านั้น แต่การที่จะเอาตัวจำเลยกลับคืนมาเป็นเรื่องของศาลที่จะใช้อำนาจของศาลเองตามกฎหมายโดยมิได้อาศัยผู้ประกันตามสัญญาประกัน ผู้ประกันเป็นอันหลุดพ้นจากข้อผูกพันที่จะต้องส่งตัวจำเลยตามสัญญาประกันเดิม
เมื่อไม่ได้ทำสัญญาประกันใหม่หรือตกลงกันให้ถือสัญญาประกันเดิมตลอดจนหมายจับก็ไม่ได้สั่งถอน จึงถือได้ว่าไม่มีอะไรแสดงให้ผู้ประกันรู้ตัวว่ายังมีข้อผูกพันที่จะต้องส่งตัวจำเลย ผู้ประกันจึงหลุดพ้นจากข้อผูกพันตามสัญญาประกันเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 507/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันภัยสิ้นสุดเมื่อศาลเพิกถอน ผู้ประกันไม่ต้องรับผิดชอบหนี้เดิม
เมื่อศาลเพิกถอนสัญญาประกันแล้ว ก็บังคับเอาแต่เบี้ยปรับฐานผิดสัญญาประกันเท่านั้น แต่การที่จะเอาตัวจำเลยกลับคืนมาเป็นเรื่องของศาลที่จะใช้อำนาจของศาลเองตามกฎหมายโดยมิได้อาศัยผู้ประกันตามสัญญาประกันผู้ประกันเป็นอันหลุดพ้นจากข้อผูกพันที่จะต้องส่งตัวจำเลยตามสัญญาประกันเดิม
เมื่อไม่ได้ทำสัญญาประกันใหม่หรือตกลงกันให้ถือสัญญาประกันเดิมตลอดจนหมายจับก็ไม่ได้สั่งถอน จึงถือได้ว่าไม่มีอะไรแสดงให้ผู้ประกันรู้ตัวว่ายังมีข้อผูกพันที่จะต้องส่งตัวจำเลยผู้ประกันจึงหลุดพ้นจากข้อผูกพันตามสัญญาประกันเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของร่วมขายที่ดินแปลงรวมโดยไม่ยินยอม สิทธิเรียกร้องเพิกถอนสัญญาเฉพาะส่วน
เจ้าของร่วมเอาที่ทั้งแปลงไปทำสัญญาซื้อขายให้กับบุคคลภายนอกโดยเจ้าของร่วมอีกผู้หนึ่งไม่รู้เห็นยินยอมด้วย เจ้าของร่วมผู้ไม่ยินยอมนั้นมีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของตนได้ แต่จะเพิกถอนสัญญาซื้อขายทั้งหมดหาได้ไม่.
of 7