พบผลลัพธ์ทั้งหมด 90 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1054-1055/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทเลินเล่อของผู้บังคับการเรือ การควบคุมเรือในแม่น้ำ การละเลยการแต่งลำเรือเพื่อความปลอดภัย
จำเลยนำเรือรบแล่นตามแม่น้ำจะผ่านสะพานพระพุทธยอดฟ้าเห็นแต่ไกลว่าสะพานยังไม่เปิด จำเลยควรจะชะลอความเร็วแล้วเดินหน้าถอยหลังจนกว่าสะพานเปิด แต่ก็ไม่ทำ กลับให้หยุดเดินเครื่องปล่อยให้เรือลอยไปตามกระแสน้ำใกล้สะพานจึงให้ทิ้งสมอจอดเรือเรือก็กลับลำเอาท้ายเรือไปปะทะเรือสะพานและรั้วของราษฎรซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเสียหาย ถ้าน้ำไหลและลมพัดอย่างปกติตามฤดูกาลเท่านั้นแล้วจำเลยจะอ้างไม่ได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัยที่จำเลยจะป้องกันได้ เพราะกระแสน้ำไหลเชี่ยวและลมก็พัดแรง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 440/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทเลินเล่อของผู้ควบคุมเรือและหน้าที่ในการติดตั้งไฟสัญญาณความปลอดภัยทางน้ำ ส่งผลต่อการแบ่งความรับผิดในความเสียหาย
ในกรณีที่จำเลยควบคุมเรือยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ชนสะพานและท่าเทียบเรือของโจทก์ การที่โจทก์ไม่จุดไฟขาวไว้ที่สะพานและท่าเทียบเรือตามที่ใบอนุญาตของกรมเจ้าท่าบังคับไว้ นับว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือฯ เพราะหากโจทก์จุดไฟขาวไว้ให้ผู้เดินเรือในเวลากลางคืนเห็นได้ ก็จะเป็นทางป้องกันมิให้เรือแล่นมาชนสะพาน และท่าเทียบเรือซึ่งล่วงล้ำร่องน้ำอยู่ 3 เมตรนั้นได้ จึงถือว่าโจทก์มีส่วนผิดอยู่ด้วย ศาลพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้เพียง 3 ใน 4 ของค่าเสียหายทั้งหมดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 442 และ 223.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดจากการลากจูงเรือโดยประมาท ชนเรือผู้อื่นในเส้นทางเดินเรือ
จำเลยลากจูงเรือโยงมาแล้วทำให้เรือโยงลำท้ายขบวนส่ายเข้าไปชนเรือโจทก์ในเส้นทางเดินเรือของโจทก์โดยไม่มีข้อแก้ตัวอย่างใด และการนั้นก็มิได้เกิดจากความประมาทเลินเล่อของฝ่ายเรือโจทก์ ฝ่ายจำเลยจึงเป็นผู้ทำละเมิด
จำเลยที่ 1 เป็นนายท้ายเรือ ได้กระทำละเมิดไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าของเรือผู้เป็นนายจ้าง จำเลยทั้งสองจึงต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการละเมิดต่อโจทก์
จำเลยที่ 1 เป็นนายท้ายเรือ ได้กระทำละเมิดไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าของเรือผู้เป็นนายจ้าง จำเลยทั้งสองจึงต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเรือและน้ำมันในคดีไม้หวงห้าม: พิจารณาการใช้เป็นอุปกรณ์ในการกระทำผิด
จำเลยมีไม้สักแปรรูปเป็นกระดานแล้วจำนวน 29 แผ่น ปริมาตราเนื้อไม้ 2.65 เมตรลูกบาศก์ อันเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ไว้ในความครอบครองเกินกว่า 0.20 เมตรลูกบาศก์ ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้จังหวัดกำแพงเพชรและจังหวัดนครสวรรค์โดยจำเลยได้นำไม้ดังกล่าวบรรทุกมาในเรือหางยาวใช้เครื่องติดท้ายของจำเลยเองล่องมาตามลำแม่น้ำปิงจากจังหวัดกำแพงเพชรมายังจังหวัดนครสวรรค์เพื่อจะนำไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนี้เรือของกลางซึ่งเป็นยานพาหนะนั้นย่อมได้ชื่อว่าจำเลยได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิด จึงเป็นของกลางที่ต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 94 ทวิ
ฟ้องโจทก์ว่า เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยไม้สักและเรือหางยาวติดเครื่องยนต์ซึ่งเป็นยานพาหนะที่จำเลยได้ใช้ในากรกระทำความผิดหรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดนั้น กับน้ำมันเบ็นซิน 1 ปีป น้ำมันเครื่อง 1 ลิตรเป็นของกลาง โดยมิได้บรรยายว่าน้ำมันของกลางนั้นได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิดเช่นของกลางอื่น ศาลย่อมไม่ริบน้ำมันของกลาง
ฟ้องโจทก์ว่า เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยไม้สักและเรือหางยาวติดเครื่องยนต์ซึ่งเป็นยานพาหนะที่จำเลยได้ใช้ในากรกระทำความผิดหรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดนั้น กับน้ำมันเบ็นซิน 1 ปีป น้ำมันเครื่อง 1 ลิตรเป็นของกลาง โดยมิได้บรรยายว่าน้ำมันของกลางนั้นได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิดเช่นของกลางอื่น ศาลย่อมไม่ริบน้ำมันของกลาง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้แปรรูปเป็นรูปเรือยังไม่ถือเป็นเครื่องใช้ตามกฎหมายป่าไม้
ไม้สักที่จับได้จากจำเลย จำเลยได้ต่อเป็นรูปร่างเรือขึ้นแล้ว ยังคงค้างอยู่แต่ส่วนบนลำเรือที่ยังไม่ได้ปูกระดาน กับไม่ได้ยาชันตามแนวประสาน และยังไม่ได้นำลงน้ำใช้สอยเลย สภาพของเรือของกลางเช่นนี้ ยังไม่มีสภาพเป็นเครื่องใช้ จึงต้องถือว่าเป็นไม้แปรรูปตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 ม. 4 (4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 961/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าเรือเพื่อชำระหนี้ถือเป็นการจำนำตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
จำเลยกู้เงินผู้ร้องไปโดยนำเรือยนต์(ขนาด 3 ตัน)มามอบให้ผู้ร้องยึดถือไว้เป็นประกันการชำระหนี้ แล้วไม่มีเรือใช้จึงขอเช่าเรือไปจากผู้ร้องต้องถือว่าจำเลยครอบครองเรือแทนผู้ร้องในฐานะเป็นผู้เช่าย่อมเป็นการจำนำตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 747
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1375/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเพณีทางการค้าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาจองระวางเรือ
จำเลยรับจองระวางเรือ เพื่อขนส่งสินค้าปอของโจทก์จากท่าเรือกรุงเทพฯ ไปเมืองเกาซุง (ไต้หวัน) โดยคิดค่าระวาง1,000 กิโลกรัมต่อ 40 เหรียญฮ่องกง แต่ในหนังสือรับจองระวาง มิได้ระบุว่าโจทก์จะต้องมัดอัดสินค้าปอของโจทก์ให้แน่นดังนี้ เมื่อมีประเพณีว่าการส่งปอทางเรือไปต่างประเทศ ผู้ส่งจะต้องมัดอัดปอด้วยเครื่องให้แน่น และโจทก์ก็ได้ทราบประเพณีนี้ดีอยู่แล้ว ประเพณีเช่นว่านี้ จึงเป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยด้วย หากโจทก์ไม่ปฏิบัติตามประเพณีดังกล่าว จำเลยก็มีสิทธิบอกเลิกสัญญารับจองระวางเรือนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 139/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนเรือต่างประเทศไม่ต้องรับผิดชอบความเสียหายจากการเดินเรือ หากไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการเดินเรือโดยตรง
จำเลยเป็นตัวแทนของบริษัทซึ่งอยู่ต่างประเทศในการจัดบรรทุกสินค้าเมื่อเรือของบริษัทนั้นเข้ามาในประเทศไทยและมีหน้าที่ต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าที่บรรทุกส่งออกไป จำเลยไม่ได้ร่วมกับบริษัทนั้นจัดเรือเดินรับส่งสินค้าและไม่ได้เป็นผู้จัดการรับผิดเกี่ยวกับการเดินเรือเข้ามาในประเทศไทยการเดินเรืออยู่ในบังคับบัญชารับผิดชอบของผู้บังคับการเรือนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับจำเลยเมื่อใบจักรของเรือนั้นหมุนฟันท้ายเรือของโจทก์แตกและจมลง จำเลยก็ไม่ต้องร่วมรับผิดด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 503/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองไม้แปรรูปเพื่อทำเรือโดยมีเจ้าของและใบกำกับไม้ ไม่ถือเป็นความผิด
รับจ้างเขาล่องเรือที่เป็นไม้แปรรูปในเขตควบคุมการแปรรูปไม้เรือนั้นมีเจ้าของแท้จริงและมีใบกำกับไม้แปรรูป ดั่งนี้ ไม่เป็นความผิดและศาลไม่จำต้องวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นผู้ครอบครองเรือนั้นหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักลอบนำเข้าทองคำโดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดเกิดขึ้นเมื่อซ่อนทองในเรือ
จำเลยลักลอบซ่อนทองคำมาในเรือโดยไม่รับอนุญาต เมื่อเรือเข้าจอดท่าเรือที่จังหวัดสมุทรปราการ ถึงแม้จำเลยจะยังมิได้นำทองขึ้นจากเรือ ความผิดก็เกิดขึ้นแล้ว
ทองคำของกลางต้องริบตาม พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่9) พ.ศ.2482 ม.17.
ทองคำของกลางต้องริบตาม พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่9) พ.ศ.2482 ม.17.