คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เรือน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 71 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 426/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายฝากเรือนในที่เช่า สิทธิเช่าไม่ตกไปกับการขายฝาก
การขายฝากเรือนในที่เช่า แม้เรือนจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ก็ตาม เมื่อไม่มีข้อตกลงไว้เป็นอย่างอื่น สิทธิในการเช่าก็หาตกติดมากับการขายฝากเรือนด้วยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 372/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อจะขายเรือนแม้ไม่มีหนังสือทำสัญญาและจดทะเบียน หากมีการชำระหนี้บางส่วนแล้ว ย่อมบังคับให้จดทะเบียนได้
การซื้อขายเรือนแม้จะไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนก็ดีแต่ตามพฤติการณ์ที่ตกลงให้ชำระราคากันในภายหลังต่อมาถือได้ว่าเป็นสัญญาซื้อและขาย เมื่อได้ชำระหนี้บางส่วนแล้วเช่นนี้ก็ย่อมฟ้องร้องบังคับให้จดทะเบียนสิทธิได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 372/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อจะขายเรือนแม้ไม่มีหนังสือ เมื่อชำระหนี้ครบถ้วน มีผลบังคับให้จดทะเบียนได้
การซื้อขายเรือนแม้จะไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนก็ดีแต่ตามพฤติการณ์ที่ตกลงให้ชำระราคากันในภายหลังต่อมาถือได้ว่าเป็นสัญญาจะซื้อจะขาย เมื่อได้ชำระหนี้บางส่วนและต่อมาก็ได้ชำระเสร็จสิ้นแล้วเช่นนี้ก็ย่อมฟ้องร้องบังคับให้จดทะเบียนสิทธิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 114/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์เรือนที่รื้อถอนได้หลังซื้อขาย แต่ไม่จดทะเบียนสิทธิเหนือพื้นดิน ย่อมตกเป็นของเจ้าของที่ดินที่ซื้อโดยสุจริตและจดทะเบียน
การซื้อขายเรือนโดยทำสัญญาซื้อขายกันที่กรมการอำเภอโดยมีข้อตกลงว่าโจทก์จะได้รื้อเอาไปภายในกำหนด 3 วันนั้นเป็นการขายสังหาริมทรัพย์
โจทก์ทำสัญญาซื้อขายเรือนกับเจ้าของเดิม ณ ที่ว่าการอำเภอโดยตกลงกันว่าจะรื้อเรือนไปภายใน 3 วัน แต่แล้วโจทก์กลับไม่รื้อเรือนไปตามข้อตกลงและกลับยอมให้เจ้าของเดิมเช่าเรือนพิพาทต่อไปอีกเป็นเวลานานถึง 10 ปี ถ้าโจทก์จะมีสิทธิเหนือพื้นดินของเจ้าของเดิมก็ต้องจดทะเบียนสิทธิต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ป.พ.พ. ม.1299 จึงจะใช้ยันจำเลยผู้ซื้อซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้ แต่คดีนี้ปรากฏว่าไม่มีนิติกรรมจดทะเบียนสิทธิเหนือพื้นดินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เมื่อจำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้ซื้อที่พิพาทโดยสุจริตและโดยเสียค่าตอบแทนทั้งได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นหลักฐานอีกด้วยเรือนซึ่งเป็นส่วนความย่อมติดไปกับที่ดิน จำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์ในเรือนนี้ด้วย.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2499).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าที่ดินปลูกเรือนแล้วแบ่งเช่าช่วง แม้ผู้เช่าอาศัยอยู่ด้วย ก็ไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าที่ดินมาปลูกเรือนแล้วเอาเรือนแบ่งให้ผู้อื่นเช่าแม้ผู้เช่าจะอาศัยอยู่ในเรือนนั้นด้วย ก็ไม่เรียกว่าผู้เช่าเช่าที่ดินเพื่ออยู่อาศัยไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 804/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้เช่าต่อความเสียหายของเรือนที่เกิดจากการกระทำของบุคคลอื่นระหว่างเช่า
จำเลยเช่าเรือนของโจทก์ไป เรือนเกิดบุบสลายเสียหายขึ้นเพราะการกระทำของบุคคลอื่นใดในระหว่างที่จำเลยยังเช่าโจทก์อยู่ อันเป็นความผิดของจำเลยๆ ต้องรับผิดชอบต่อโจทก์ผู้ให้เช่าตามมาตรา 562 ป.พ.พ.ม
เมื่อสญญา+

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 804/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้เช่าต่อความเสียหายของเรือนอันเกิดจากการกระทำของบุคคลอื่นระหว่างเช่า และค่าเช่าค้างชำระ
จำเลยเช่าเรือนของโจทก์ไปเรือนเกิดบุบสลายเสียหายขึ้นเพราะการกระทำของบุคคลอื่นใดในระหว่างที่จำเลยยังเช่าโจทก์อยู่อันเป็นความผิดของจำเลยจำเลยต้องรับผิดชอบต่อโจทก์ผู้ให้เช่าตามมาตรา 562 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
เมื่อสัญญาเช่าระงับลงแล้ว ผู้เช่าส่งมอบเรือนคืนไม่ได้เพราะพฤติการณ์ที่ผู้เช่าต้องรับผิดชอบผู้เช่าต้องใช้ค่าทดแทนในการนี้ตามจำนวนค่าเช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 788/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการครอบครองบนที่ดินเช่า: การขับไล่จำเลยที่ 1 และสิทธิการอยู่อาศัยของผู้เช่าเรือน
จำเลยที่ 1 เช่าที่ดินของโจทก์ซึ่งมีเรือนปลูกอยู่ แต่ปรากฎว่าเรือนที่ปลูกไม่ใช่ของจำเลยที่ 1 เป็นของผู้มีชื่อ และจำ เลยที่ 2 - 3 เป็นผู้เช่าเรือนพิพาทอยู่จากเจ้าของเรือน ครั้นหมดสัญญาเช่าที่ดินแล้ว โจทก์บอกเลิกการเช่ากับจำเลย ที่ 1 ให้จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 - 3 ออกจากที่ และรื้อเรือนพิพาทไป ดังนี้ ศาลย่อมพิพากษาขับไล่ตัวจำเลยที่ 1 ออก จากที่พิพาทไปได้ แต่จะรื้อเรือนพิพาทออกไปด้วยย่อมไม่ได้ เพราะเป็นเรือนของผู้อื่น ซึ่งโจทก์มิได้ฟ้องผู้นั้นด้วย จึงยังไม่มีใครชี้ว่าเจ้าของเรือนพิพาทมีอนาจที่จะคงปลูกเรือนพิพาทอยู่ในที่ของโจทก์หรือไม่ และจะบังคับให้จำเลย ที่ 2 - 3 ซึ่งเป็นผู้เช่าเรือนพิพาทจากเจ้าของเรือนให้ออกไปจากเรือน ก็ไม่ได้ด้วย./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 788/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินเช่าและเรือนที่ปลูก: การบังคับรื้อเรือนของผู้อื่น
จำเลยที่ 1 เช่าที่ดินของโจทก์ซึ่งมีเรือนปลูกอยู่ แต่ปรากฏว่าเรือนที่ปลูกไม่ใช่ของจำเลยที่ 1 เป็นของผู้มีชื่อ และจำเลยที่ 2-3 เป็นผู้เช่าเรือนพิพาทอยู่จากเจ้าของเรือน ครั้นหมดสัญญาเช่าที่ดินแล้ว โจทก์บอกเลิกการเช่ากับจำเลยที่ 1 ให้จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2-3 ออกจากที่ และรื้อเรือนพิพาทไป ดังนี้ศาลย่อมพิพากษาขับไล่ตัวจำเลยที่ 1 ออกจากที่พิพาทไปได้แต่จะให้รื้อเรือนพิพาทออกไปด้วยย่อมไม่ได้เพราะเป็นเรือนของผู้อื่นซึ่งโจทก์มิได้ฟ้องผู้นั้นด้วย จึงยังไม่มีใครชี้ว่าเจ้าของเรือนพิพาทมีอำนาจที่จะคงปลูกเรือนพิพาทอยู่ในที่ของโจทก์หรือไม่ และจะบังคับให้จำเลยที่ 2-3 ซึ่งเป็นผู้เช่าเรือนพิพาทจากเจ้าของเรือนให้ออกไปจากเรือน ก็ไม่ได้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 421/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สิน (แพเป็นเรือน) และสิทธิในทรัพย์สินที่เปลี่ยนแปลง
เจ้าของแพได้อนุญาตให้พี่ชายรื้อถอนแพเอาไปปลูกเป็นเรือนอยู่ในที่ดินของพี่ชายเสียนานมาแล้ว ต่อมาเจ้าของแพถึงแก่กรรม ทายาทจึงฟ้องเรียกแพจากผู้ครอบครองเรือนนั้น ดังนี้ ศาลจะบังคับให้ส่งแพไม่ได้
เพราะไม่มีแพอยู่เสียแล้ว แต่การที่เอาแพของเขาไปปลูกเป็นเรือนของตนเสียเช่นนี้ ผู้ปลูกย่อมเป็นเจ้าของเรือนนั้น แต่ต้องใช้ค่าสัมภาระให้แก่เขาดังที่บัญญัติไว้ใน ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1315 ฉะนั้น ศาลย่อมบังคับให้ใช้ราคาแพนั้นแก่ทายาทได้ ./
of 8