พบผลลัพธ์ทั้งหมด 43 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 512/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีของห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่จดทะเบียน และการหักกลบลบหนี้เมื่อเลิกห้าง
(1) ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งและมอบอำาจจากผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิได้จดทะเบียให้เป็นผู้ชำระบัญชีและนำคดีขึ้นสู่ศาลนั้น ย่อมมีอำนาจฟ้องผู้ที่เป็นหุ้นส่วนได้เช่นเดียวกับผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของรวมให้ฟ้องลูกหนี้ซึ่งต้องรับผิดต่อกรรมสิทธิ์รวมแต่ละคนซึ่งมีหนี้โดยเฉพาะตัวได้
(2) เมื่อห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนเลิกกัน ผู้ถือหุ้นแต่ละคนมีสิทธิที่จะได้รับส่วนแบ่งและจะให้มีการแสดงเจตนาหักกลบลบหนี้กันตามหลักในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 341, 342 โจทก์ก็ยังไม่ได้ทำบัญชีงบดุลอย่างใด และโจทก์ยังแสดงไม่ได้ว่า จำเลยเป็นลูกหนี้ของห้างหุ้นส่วนสามัญนี้ โจทก์ยังไม่มีสิทธินำคดีมาฟ้อง
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 37/2505)
(2) เมื่อห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนเลิกกัน ผู้ถือหุ้นแต่ละคนมีสิทธิที่จะได้รับส่วนแบ่งและจะให้มีการแสดงเจตนาหักกลบลบหนี้กันตามหลักในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 341, 342 โจทก์ก็ยังไม่ได้ทำบัญชีงบดุลอย่างใด และโจทก์ยังแสดงไม่ได้ว่า จำเลยเป็นลูกหนี้ของห้างหุ้นส่วนสามัญนี้ โจทก์ยังไม่มีสิทธินำคดีมาฟ้อง
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 37/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 512/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของ ผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญ และการหักกลบลบหนี้หลังเลิกห้าง
(1) ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งและมอบอำนาจจากผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิได้จดทะเบียนให้เป็นผู้ชำระบัญชีและนำคดีขึ้นสู่ศาลนั้น ย่อมมีอำนาจฟ้องผู้ที่เป็นหุ้นส่วนได้เช่นเดียวกับผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของรวมให้ฟ้องลูกหนี้ซึ่งต้องรับผิดต่อกรรมสิทธิ์รวมแต่ละคนซึ่งมีหนี้โดยเฉพาะตัวได้
(2) เมื่อห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนเลิกกัน ผู้ถือหุ้นแต่ละคนมีสิทธิที่จะได้รับส่วนแบ่ง และจะให้มีการแสดงเจตนาหักกลบลบหนี้กันตามหลักในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 341,342. โจทก์ก็ยังไม่ได้ทำบัญชีงบดุลอย่างใดและโจทก์ยังแสดงไม่ได้ว่าจำเลยเป็นลูกหนี้ของห้างหุ้นส่วนสามัญนี้ โจทก์ยังไม่มีสิทธินำคดีมาฟ้อง
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 37/2505)
(2) เมื่อห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนเลิกกัน ผู้ถือหุ้นแต่ละคนมีสิทธิที่จะได้รับส่วนแบ่ง และจะให้มีการแสดงเจตนาหักกลบลบหนี้กันตามหลักในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 341,342. โจทก์ก็ยังไม่ได้ทำบัญชีงบดุลอย่างใดและโจทก์ยังแสดงไม่ได้ว่าจำเลยเป็นลูกหนี้ของห้างหุ้นส่วนสามัญนี้ โจทก์ยังไม่มีสิทธินำคดีมาฟ้อง
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 37/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1829/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีหุ้นส่วนเลิกห้าง - คดีมโนสาเร่ - การสืบพยานบุคคล
ฟ้องขอให้ศาลสั่งเลิกหุ้นส่วนและให้จำเลยชำระบัญชีหุ้นส่วนหรือตั้งผู้ชำระบัญชีไม่ได้ฟ้องเรียกทรัพย์สินอะไรจาก จำเลย และไม่ได้ตั้งราคาทุนทรัพย์เรียกร้องมาในฟ้องเสียค่าขึ้นศาล 15 บาท อย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ ดังนี้เป็นคดีขอให้ปลดเปลื้องทุกข์ ไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้เป็นคดีมโนสาเร่
การเข้าหุ้นส่วนซื้อข้าวสารมาทำการค้าขายกันนั้นไม่มีกฎหมายบังคับไว้ว่า ต้องมีพยานเอกสารมาแสดงฉะนั้นจึงพยานบุคคลมาสืบประกอบข้ออ้างของตนได้ ไม่ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 94
การเข้าหุ้นส่วนซื้อข้าวสารมาทำการค้าขายกันนั้นไม่มีกฎหมายบังคับไว้ว่า ต้องมีพยานเอกสารมาแสดงฉะนั้นจึงพยานบุคคลมาสืบประกอบข้ออ้างของตนได้ ไม่ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 302/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระบัญชีหุ้นส่วนหลังเลิกห้าง - สิทธิการฟ้องร้อง
เมื่อหุ้นส่วนเลิกกันแล้ว ผู้เป็นหุ้นส่วนไม่ตกลงกันในเรื่องชำระบัญชีผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งย่อมฟ้องขอให้ศาลตั้งผู้อื่นเป็นผู้ชำระบัญชีได้
แม้หุ้นส่วนเลิกกันมานานแล้ว ก็ไม่เป็นเหตุขัดขวางที่จะร้องขอให้มีการชำระบัญชี
การฟ้องขอชำระบัญชีหุ้นส่วน แม้จะเพื่อฟ้องคดีอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นหนี้ที่ปรากฏจากการชำระบัญชี ก็ไม่ถือว่าเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต
แม้หุ้นส่วนเลิกกันมานานแล้ว ก็ไม่เป็นเหตุขัดขวางที่จะร้องขอให้มีการชำระบัญชี
การฟ้องขอชำระบัญชีหุ้นส่วน แม้จะเพื่อฟ้องคดีอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นหนี้ที่ปรากฏจากการชำระบัญชี ก็ไม่ถือว่าเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1299/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนหุ้นและผลกระทบต่อความเป็นหุ้นส่วน: การรับซื้อหุ้นโดยหุ้นส่วนที่เหลือไม่ถือเป็นการเลิกห้างหุ้นส่วน
หุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญคนหนึ่งขอถอนหุ้นไป หุ้นส่วนที่ยังคงเหลืออยู่รับซื้อหุ้นไว้และคงดำเนินกิจการต่อไปตามปกติดังนี้ ไม่ถือว่าห้องหุ้นส่วนรายนี้เลิกกันแล้ว ปพพม 1055 มิใช่เป็นบทกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนคู่สัญญาจะตกลงแก้ไขเป็นอย่างอื่นก็ย่อมทำได้ ประมวล วิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 288
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งกำไรหุ้นส่วนเลิกห้าง ต้องมีการชำระบัญชีหรือตกลงจัดการทรัพย์สินก่อน จึงจะฟ้องร้องได้
การฟ้องขอแบ่งทุนกำไรของหุ้นส่วนสามัญ ที่เลิก+กันแล้วนั้น จะต้องมีการชำระบัญชีหรือตกลงจัดการทรัพย์สินกันโดยวิธี+ก่อน จึงจะฟ้องขอ+ได้ การคิดบัญชีไม่เรียกว่าเป็นการชำระบัญชี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 642/2472
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หุ้นส่วนนำทรัพย์ห้างไปขาย เงินได้เป็นของห้างฯ ต้องรอชำระบัญชีหลังเลิกห้าง
ผู้เปนหุ้นส่วนเอาทรัพย์ของห้างไปขาย เงินที่ได้มาต้องเปนของห้างหุ้นส่วน วิธีพิจารณาแพ่ง ผู้เปนหุ้นส่วนจะฟ้องขอแบ่งทุนกำไร ต้องขอให้เลิกหุ้นส่วนเสียก่อน พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ โจทก์เปนคนในบังคับเดนมารค คู่ความจะฎีกาได้แต่ปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5263/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สภาพนิติบุคคลของห้างหุ้นส่วนที่เลิกแล้วและการฟ้องล้มละลาย แม้ถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนแล้ว
ในวันที่โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยที่ 1 สถานะของจำเลยที่ 1 ตามหนังสือรับรองคือ ได้จดทะเบียนเลิกห้าง ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้วเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2545 และขณะนี้ยังไม่ได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี ดังนั้น ในวันที่โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้จำเลยที่ 1 จึงมีสภาพนิติบุคคล โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 และศาลล้มละลายกลางก็มีอำนาจที่จะพิจารณาคดีสำหรับจำเลยที่ 1 ได้ แม้ต่อมานายทะเบียนได้ขีดชื่อจำเลยที่ 1 ออกจากทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนร้าง ตามความใน ป.พ.พ. มาตรา 1273/3 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2555 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลล้มละลายกลางก็ตาม แต่เมื่อฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ชอบด้วยกฎหมาย การที่นายทะเบียนได้ขีดชื่อจำเลยที่ 1 ออกจากทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนร้าง ก็ไม่มีผลกระทบแก่การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายที่มุ่งประสงค์ที่จะให้มีการจัดการทรัพย์สินของจำเลยที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวตามกฎหมายล้มละลายเพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้ทั้งหลายได้แม้จำเลยจะสิ้นสภาพนิติบุคคลตาม ป.พ.พ. ก็ตาม การดำเนินกระบวนพิจารณาและมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 1 เด็ดขาดของศาลล้มละลายกลางจึงชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14968/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน: การลงทุนด้วยแรงงาน การแบ่งผลกำไร และการเลิกห้าง
โจทก์เป็นผู้จัดล็อกพื้นที่ในตลาดเพื่อให้ผู้ค้าเช่าแผงขายสินค้าและจัดทำบัญชีเพื่อประโยชน์ในการประกอบกิจการค้านั้น ดังนี้ ย่อมเท่ากับว่าโจทก์ได้ร่วมลงทุนหรือลงหุ้นเป็นแรงงานแล้ว เข้าลักษณะเป็นสัญญาห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนตาม ป.พ.พ. มาตรา 1012 และ 1025 ที่บัญญัติว่า สัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วนคือ สัญญาซึ่งบุคคลสองคนขึ้นไปตกลงเข้ากันเพื่อกระทำกิจการร่วมกัน ด้วยประสงค์จะแบ่งปันกำไรอันจะพึงได้แต่กิจการที่ทำนั้น ซึ่งสิ่งที่นำมาลงหุ้นนั้นจะเป็นเงิน หรือทรัพย์สินสิ่งอื่น หรือแรงงานก็ได้ ตามมาตรา 1026 วรรคสอง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์เป็นหุ้นส่วนกับจำเลยในการประกอบกิจการค้าตลาดนัด แต่จำเลยไม่แบ่งผลกำไรให้โจทก์ ทั้งมีพฤติการณ์กีดกันไม่ให้โจทก์เข้าเกี่ยวข้องในกิจการที่เข้าหุ้นกัน โจทก์จึงบอกเลิกสัญญาหุ้นส่วนและคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ได้ระบุขอให้ศาลพิพากษาให้เลิกหุ้นส่วนสามัญและให้มีการชำระบัญชี ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ห้างเลิกกัน โดยระบุวันที่เลิกอันเป็นการรับฟังข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานที่ได้ความว่าห้างดังกล่าวเลิกกันเมื่อใด จึงยังอยู่ในขอบเขตแห่งคำขอ เพียงแต่ระบุวันที่ห้างเลิกให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์ในการชำระบัญชีเท่านั้น ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอแต่อย่างใด
โจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์เป็นหุ้นส่วนกับจำเลยในการประกอบกิจการค้าตลาดนัด แต่จำเลยไม่แบ่งผลกำไรให้โจทก์ ทั้งมีพฤติการณ์กีดกันไม่ให้โจทก์เข้าเกี่ยวข้องในกิจการที่เข้าหุ้นกัน โจทก์จึงบอกเลิกสัญญาหุ้นส่วนและคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ได้ระบุขอให้ศาลพิพากษาให้เลิกหุ้นส่วนสามัญและให้มีการชำระบัญชี ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ห้างเลิกกัน โดยระบุวันที่เลิกอันเป็นการรับฟังข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานที่ได้ความว่าห้างดังกล่าวเลิกกันเมื่อใด จึงยังอยู่ในขอบเขตแห่งคำขอ เพียงแต่ระบุวันที่ห้างเลิกให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์ในการชำระบัญชีเท่านั้น ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10525/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดเมื่อหุ้นส่วนถึงแก่ความตาย และการตั้งผู้ชำระบัญชี
ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1055 (5) ประกอบมาตรา 1080 ห้างหุ้นส่วนจำกัดย่อมเลิกกันเมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งถึงแก่ความตาย เมื่อ อ. หุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. ถึงแก่ความตายลงย่อมเป็นเหตุให้ห้างดังกล่าวเลิกกัน อันเป็นไปตามผลของกฎหมาย โดยมิจำต้องพิจารณาว่ามีข้อขัดแย้งกันระหว่างทายาทผู้เป็นหุ้นส่วนที่ถึงแก่ความตายกับหุ้นส่วนที่เหลือหรือไม่ และแม้มาตรา 1060 จะบัญญัติว่าในกรณีห้างหุ้นส่วนจำกัดเลิกกันเพราะเหตุตามมาตรา 1055 (4) หรือ (5) ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนที่ยังอยู่รับซื้อหุ้นของผู้ที่ออกจากหุ้นส่วนไป สัญญาหุ้นส่วนนั้นก็ยังคงใช้ได้ต่อไปในระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนที่ยังคงอยู่ด้วยกัน แต่ก็ได้ความว่าหุ้นของ อ. ยังไม่มีการดำเนินการโอนไปยังทายาทหรือหุ้นส่วนอื่นแต่อย่างใด เหตุที่ทายาทยังไม่อาจรับโอนหุ้นของ อ. และห้างไม่อาจดำเนินกิจการต่อไปได้เพราะค้างชำระค่าภาษีนั้นก็มิใช่เหตุอันจะยกขึ้นอ้างเพื่อให้ห้างยังคงอยู่ต่อไป
ในกรณีที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดเลิกกันย่อมต้องมีการชำระบัญชีเพื่อประโยชน์ของผู้เป็นหุ้นส่วน ตลอดจนเจ้าหนี้ รวมทั้งบรรดาผู้ติดต่อค้าขายกับห้างหุ้นส่วนภายหลังจากห้างหุ้นส่วนจำกัดพ้นสภาพนิติบุคคลตามกฎหมาย โดยผู้ชำระบัญชีจะเป็นผู้ชำระสะสางการงานของห้างหุ้นส่วน จัดการใช้หนี้ และแจกจำหน่ายสินทรัพย์ของห้างหุ้นส่วนนั้น โดยมาตรา 1249 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ให้ถือว่าห้างหุ้นส่วนนั้นยังคงตั้งอยู่ตราบเท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชี และเมื่อห้างหุ้นส่วนเลิกกันเพราะเหตุอื่นนอกจากล้มละลาย หุ้นส่วนผู้จัดการห้างย่อมเข้าเป็นผู้ชำระบัญชี เว้นไว้แต่สัญญาของห้างจะมีกำหนดไว้เป็นสถานอื่น แต่ถ้าไม่มีผู้ชำระบัญชีดังว่ามานี้ เมื่อพนักงานอัยการหรือบุคคลอื่นผู้มีส่วนได้เสียในการนี้ร้องขอ ศาลย่อมตั้งผู้ชำระบัญชีให้ได้ ตามมาตรา 1251 ซึ่งในกรณีของห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. นี้ เมื่อเลิกกันเพราะ อ. หุ้นส่วนผู้จัดการถึงแก่ความตายและไม่ปรากฏว่ามีสัญญาหรือข้อบังคับของห้างกำหนดให้บุคคลใดเป็นผู้ชำระบัญชี ทั้งไม่มีผู้ใดเข้าเป็นผู้ชำระบัญชีของห้าง พนักงานอัยการ หรือผู้มีส่วนได้เสียย่อมร้องขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีได้ ซึ่งผู้มีส่วนได้เสียตามบทบัญญัติดังกล่าว นอกจากจะเป็นผู้เป็นหุ้นส่วนที่เหลือ ทายาท หรือผู้จัดการมรดกของผู้เป็นหุ้นส่วนที่ถึงแก่ความตายแล้ว ย่อมหมายรวมถึงบรรดาเจ้าหนี้ของห้างด้วยเพราะการชำระบัญชีย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ของเจ้าหนี้ หรือบรรดาผู้ติดต่อค้าขายกับห้างเป็นสำคัญ หากไม่มีการตั้งผู้ชำระบัญชีเพื่อสะสางทรัพย์สินหนี้สินของห้าง ผู้เป็นเจ้าหนี้หรือติดต่อค้าขายกับห้างอาจได้รับความเสียหายได้ เมื่อได้ความจากคำเบิกความผู้ร้องว่า ก่อน อ. ถึงแก่ความตาย ผู้ร้องได้เป็นโจทก์ฟ้องเรียกให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. ชำระหนี้ตามสัญญาจ้างทำของต่อศาลจังหวัดอุทัยธานี อันเป็นการตั้งสิทธิเรียกร้องเพื่อบังคับชำระหนี้เอาจากทรัพย์สินของห้าง เช่นนี้ผู้ร้องจึงมีอำนาจยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีห้างได้
ในกรณีที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดเลิกกันย่อมต้องมีการชำระบัญชีเพื่อประโยชน์ของผู้เป็นหุ้นส่วน ตลอดจนเจ้าหนี้ รวมทั้งบรรดาผู้ติดต่อค้าขายกับห้างหุ้นส่วนภายหลังจากห้างหุ้นส่วนจำกัดพ้นสภาพนิติบุคคลตามกฎหมาย โดยผู้ชำระบัญชีจะเป็นผู้ชำระสะสางการงานของห้างหุ้นส่วน จัดการใช้หนี้ และแจกจำหน่ายสินทรัพย์ของห้างหุ้นส่วนนั้น โดยมาตรา 1249 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ให้ถือว่าห้างหุ้นส่วนนั้นยังคงตั้งอยู่ตราบเท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชี และเมื่อห้างหุ้นส่วนเลิกกันเพราะเหตุอื่นนอกจากล้มละลาย หุ้นส่วนผู้จัดการห้างย่อมเข้าเป็นผู้ชำระบัญชี เว้นไว้แต่สัญญาของห้างจะมีกำหนดไว้เป็นสถานอื่น แต่ถ้าไม่มีผู้ชำระบัญชีดังว่ามานี้ เมื่อพนักงานอัยการหรือบุคคลอื่นผู้มีส่วนได้เสียในการนี้ร้องขอ ศาลย่อมตั้งผู้ชำระบัญชีให้ได้ ตามมาตรา 1251 ซึ่งในกรณีของห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. นี้ เมื่อเลิกกันเพราะ อ. หุ้นส่วนผู้จัดการถึงแก่ความตายและไม่ปรากฏว่ามีสัญญาหรือข้อบังคับของห้างกำหนดให้บุคคลใดเป็นผู้ชำระบัญชี ทั้งไม่มีผู้ใดเข้าเป็นผู้ชำระบัญชีของห้าง พนักงานอัยการ หรือผู้มีส่วนได้เสียย่อมร้องขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีได้ ซึ่งผู้มีส่วนได้เสียตามบทบัญญัติดังกล่าว นอกจากจะเป็นผู้เป็นหุ้นส่วนที่เหลือ ทายาท หรือผู้จัดการมรดกของผู้เป็นหุ้นส่วนที่ถึงแก่ความตายแล้ว ย่อมหมายรวมถึงบรรดาเจ้าหนี้ของห้างด้วยเพราะการชำระบัญชีย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ของเจ้าหนี้ หรือบรรดาผู้ติดต่อค้าขายกับห้างเป็นสำคัญ หากไม่มีการตั้งผู้ชำระบัญชีเพื่อสะสางทรัพย์สินหนี้สินของห้าง ผู้เป็นเจ้าหนี้หรือติดต่อค้าขายกับห้างอาจได้รับความเสียหายได้ เมื่อได้ความจากคำเบิกความผู้ร้องว่า ก่อน อ. ถึงแก่ความตาย ผู้ร้องได้เป็นโจทก์ฟ้องเรียกให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. ชำระหนี้ตามสัญญาจ้างทำของต่อศาลจังหวัดอุทัยธานี อันเป็นการตั้งสิทธิเรียกร้องเพื่อบังคับชำระหนี้เอาจากทรัพย์สินของห้าง เช่นนี้ผู้ร้องจึงมีอำนาจยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีห้างได้