คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
แจ้งเหตุ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 60 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2322/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของเจ้าสำนักโรงแรมต่อการสูญหายของรถยนต์ของผู้พักอาศัย และการแจ้งเหตุที่ทันท่วงที
คำว่า เจ้าสำนักโรงแรม ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 674,675 หมายถึงเจ้าของกิจการโรงแรม ผู้ถือกรรมสิทธิ์เก็บผลประโยชน์รายได้จากกิจการโรงแรม หาใช่บุคคลผู้ควบคุมและจัดการโรงแรมซึ่งเป็นตัวแทนไม่ โจทก์เข้าพักในโรงแรมของจำเลยที่ 1 เมื่อรถยนต์ที่โจทก์นำเข้าไปจอดที่ลาดจอดรถของโรงแรมหายไป โจทก์ได้แจ้งต่อผู้จัดการโรงแรมทันที ที่ทราบเหตุการณ์ ย่อมถือได้ว่า โจทก์แจ้งเหตุที่รถยนต์หายแก่เจ้าสำนักโรงแรมทันทีแล้ว จำเลยที่ 1 จะอ้างให้ตนพ้นจากความรับผิดหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 456/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดีจากความบกพร่องของทนายโจทก์ และการไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลมีสิทธิยกฟ้องได้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ประทับฟ้องและกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ไว้แล้ว ทนายโจทก์ลงชื่อทราบคำสั่งดังกล่าว ถึงวันนัดโจทก์ทนายโจทก์ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นจึงยกฟ้องตาม ป.วิ.อ. มาตรา 166,181โจทก์จะขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่โดยอ้างว่าจำวันนัดคลาดเคลื่อนซึ่งเกิดจากความบกพร่องของทนายโจทก์เองมิได้และแม้ทนายโจทก์จะป่วยทนายโจทก์ก็สามารถแจ้งให้โจทก์ทราบหรือทำคำร้องขอเลื่อนคดีมอบให้ผู้อื่นมายื่นต่อศาลได้ การที่โจทก์และทนายโจทก์ไม่ได้มาศาลในวันนัดสืบพยานโดยไปแจ้งเหตุขัดข้องหรือขอเลื่อนคดี จึงไม่ใช่เหตุสมควรที่จะยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1489/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาจากการขับรถประมาทชนแล้วไม่แจ้งเหตุ การหลบหนีและความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก
การที่จำเลยขับรถยนต์โดยประมาทชนผู้ตายแล้วจำเลยนำผู้ตายไปส่งโรงพยาบาลในทันทีหลังจากเกิดเหตุ โดยมิได้แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จะถือว่าจำเลยหลบหนีไปจนเป็นเหตุให้ผู้ตายได้รับอันตรายถึงตายตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 160 วรรคสองหาได้ไม่ จำเลยคงมีความผิดตาม มาตรา 160 วรรคแรก เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1489/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์และการแจ้งเหตุต่อเจ้าหน้าที่ การกระทำที่เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย
จำเลยนำผู้ตายไปส่งโรงพยาบาลในทันทีหลังจากที่ขับรถชนผู้ตาย ถือไม่ได้ว่าจำเลยหลบหนีไปจนเป็นเหตุให้ผู้ตายได้รับอันตรายถึงตายตาม พระราชบัญญัติ จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 160วรรคสอง จำเลยคงมีความผิดตามมาตรา 160 วรรคแรก เท่านั้น.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 97/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่แจ้งเหตุพยานไม่มาศาล และผลกระทบต่อการไต่สวนพยาน การที่ศาลไม่รอฝ่ายจำเลยเกินสมควร
ศาลนัดสืบพยานจำเลยเวลา 9.00 นาฬิกา ถึงเวลานัดทนายจำเลยมาศาลแต่พยานจำเลยยังไม่มา ทนายจำเลยรอพยานอยู่นอกห้องพิจารณาโดยมิได้แจ้งเหตุขัดข้องหรือขอเลื่อนคดีต่อศาลหรือเจ้าหน้าที่ของศาล ศาลออกนั่งพิจารณาเวลา 9.33 นาฬิกา และสั่งว่า จำเลยไม่มาศาล โดยมิได้แจ้งเหตุขัดข้องหรือขอเลื่อนถือว่าไม่มีพยานมาสืบและนัดฟัง คำพิพากษา เช่นนี้แสดงว่าศาลรอจำเลยเกินกำหนดนัดไป33 นาที โดยจำเลยมิได้ดำเนินการอย่างใด จำเลยจะอ้างว่าเป็นความเข้าใจผิด ของทนายจำเลยว่าศาลจะพิจารณาคดีของตนเป็นเรื่องที่สองไม่ได้ เพราะจะทำให้กำหนดวันเวลาที่ศาลนัดไว้ไร้ ประโยชน์ จึงไม่จำเป็นต้อง ไต่สวนคำร้องขอสืบพยานของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่แสดงตัวและแจ้งเหตุหลังเกิดอุบัติเหตุ แม้ไม่ผิดเอง ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
กรณีรถสองคันแล่นสวนทางกันและเกิดชนกันได้รับความเสียหายแม้ว่าความเสียหายนั้นจะมิได้เกิดขึ้นเพราะความผิดของจำเลยก็ตาม ก็ถือได้ว่าจำเลยขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของบุคคลอื่นแล้ว จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที เมื่อจำเลยมิได้แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นการไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายบังคับไว้ จำเลยจึงต้องมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 78 วรรคแรก และมีโทษตามมาตรา 160 วรรคแรก
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2531)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่แสดงตัว-แจ้งเหตุหลังเกิดอุบัติเหตุ แม้ไม่ได้เป็นฝ่ายผิด
กรณีรถสองคันแล่นสวนทางกันและเกิดชนกันได้รับความเสียหายแม้ว่าความเสียหายนั้นจะมิได้เกิดขึ้นเพราะความผิดของจำเลยก็ตาม ก็ถือได้ว่าจำเลยขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของบุคคลอื่นแล้วจำเลยจึงมีหน้าที่ต้องแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที เมื่อจำเลยมิได้แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ก็เป็นการไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายบังคับไว้ จำเลยจึงต้องมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 มาตรา 78 วรรคแรกและมีโทษตามมาตรา 160 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่แสดงตัว-แจ้งเหตุหลังเกิดอุบัติเหตุ แม้ไม่ผิดก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายจราจร
กรณีรถสองคันแล่นสวนทางกันและเกิดชนกันได้รับความเสียหายแม้ว่าความเสียหายนั้นจะมิได้เกิดขึ้นเพราะความผิดของจำเลยก็ตาม ก็ถือได้ว่าจำเลยขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของบุคคลอื่นแล้ว จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที เมื่อจำเลยมิได้แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นการไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายบังคับไว้ จำเลยจึงต้องมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 78 วรรคแรก และมีโทษตามมาตรา 160 วรรคแรก. (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2531)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่มาศาลตามนัดและเหตุยกฟ้องคดีอาญา: ความรับผิดของโจทก์และทนาย, การแจ้งเหตุจำเป็น
โจทก์เคยขอเลื่อนคดีหลายครั้ง โดย 3 ครั้งหลังขอเลื่อนคดีติดต่อกัน ครั้งนี้โจทก์ทราบนัดโดยชอบแล้ว โจทก์และทนายโจทก์ไม่มาศาลศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ อ้างว่าทนายโจทก์ป่วย เช่นนี้ แม้การเจ็บป่วยจะถือเป็นเหตุอันสมควรในการมาศาลไม่ได้ แต่ก็ไม่หมายความว่า หากทนายโจทก์เจ็บป่วยแล้วจะถือเป็นเหตุให้ศาลต้องเลื่อนคดีให้โจทก์เองโดยปริยาย เป็นเรื่องที่โจทก์หรือทนายโจทก์จะต้องแจ้งให้ศาลทราบถึงเหตุที่ไม่อาจดำเนินคดีตามกำหนดนัดของศาล ทั้งข้อเท็จจริงก็ไม่ปรากฏว่า ตัวโจทก์ไม่สามารถมาศาลด้วย พฤติการณ์แสดงให้เห็นว่า โจทก์ไม่มาศาลเพราะไม่สนใจต่อเวลานัดของศาล หาใช่เพราะมีเหตุอันสมควรไม่ จึงไม่มีเหตุจะยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 401/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการมอบอำนาจ และการเริ่มต้นระยะเวลาอายุความคดีละเมิด เมื่อผู้รับมอบอำนาจแจ้งเหตุให้ผู้มอบอำนาจทราบ
โจทก์มีหนังสือมอบหมายให้การไฟฟ้านครหลวงดำเนินการเก็บรักษาซ่อมแซม แจ้งความ กล่าวโทษ และแจ้งราคาค่าเสียหายของทรัพย์ และรับชำระหนี้ที่ผู้ละเมิดยอมชดใช้ให้ในชั้นแจ้งความที่สถานีตำรวจเท่านั้น ส่วนการติดตามทวงถามเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ละเมิดซึ่งไม่ยอมชดใช้ โจทก์จะดำเนินการเองโดยขอให้การไฟฟ้านครหลวงแจ้งเหตุที่เกิดขึ้นให้โจทก์ทราบ ดังนี้ถือไม่ได้ว่าโจทก์มอบอำนาจให้การไฟฟ้านครหลวงเป็นตัวแทนโจทก์ในการติดตามทวงถามเรียกร้องค่าเสียหายจากจำเลยผู้ทำละเมิด เมื่อเหตุคดีนี้เกิดเมื่อวันที่22 สิงหาคม 2524 จำเลยไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหาย ครั้นวันที่ 16กุมภาพันธ์ 2525 การไฟฟ้านครหลวงแจ้งเรื่องการละเมิดและผู้ทำละเมิดให้โจทก์ทราบ ต่อมาโจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2525นับแต่วันที่การไฟฟ้านครหลวงแจ้งให้โจทก์ทราบจนถึงวันฟ้องเป็นเวลายังไม่เกิน 1 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 448 คดีของโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ.
of 6