พบผลลัพธ์ทั้งหมด 44 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1019/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องรุกล้ำที่ดินไม่เป็นฟ้องซ้ำ หากการรุกล้ำเป็นคนละช่วงเวลาและเกินแนวเขตเดิมที่ตกลงกันไว้
โจทก์จำเลยเคยพิพาทกันเกี่ยวกับที่พิพาทชั้นศาล และทำสัญญายอมความกันให้กำนันไปปักหลักเขตแล้วครั้งหนึ่ง คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกที่พิพาทนั้นอีก โดยข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยทำคันนารุกล้ำจากหลักแนวเขตที่กำนันปักไว้ตามสัญญายอมเข้ามาในที่ดินของโจทก์มากขึ้นกว่าเดิม เป็นคนละประเด็นกับคดีก่อน ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 269/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขุดดินกีดขวางทางเข้าออกและการพิพาทกรรมสิทธิ์ที่ดิน ศาลรับฟังพยานจำเลยและตัดสินตามแนวเขตที่พิสูจน์ได้
จำเลยมิได้ระบุพยานไว้ จึงขออ้างตนเองเป็นพยานเมื่อศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงอนุญาตให้จำเลยอ้างตนเองเป็นพยานได้ คำเบิกความเป็นพยานของจำเลยก็ย่อมรับฟังได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 818/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: ประเด็นบังคับคดีเดิมเกี่ยวกับการรังวัดที่ดินและแนวเขตที่พิพาทแล้ว
คดีก่อนโจทก์ฟ้องว่า ได้นำเจ้าพนักงานรังวัดที่ดิน 3 แปลงเพื่อขอรับโฉนด แต่จำเลยคัดค้านว่าเป็นที่สาธารณ ศาลให้ทำแผนที่วิวาทและพิพากษาว่าที่ดินตามแผนที่วิวาทเป็นของโจทก์ คดีถึงที่สุดแล้วโจทก์มาฟ้องคดีนี้ใหม่ว่าโจทก์ขอออกโฉนดที่ดินรายนี้ชนะคดี จำเลยคัดค้านว่าโจทก์นำวัดรุกล้ำที่สาธารณไม่รับรองเขตให้ เจ้าพนักงานจึงออกโฉนดให้โจทก์ไม่ได้จึงขอให้จำเลยรับรองแนวเขตอย่าให้ขัดขวางในการที่โจทก์จะออกโฉนด ดังนี้ เป็นกรณีที่น่าจะบังคับกันได้ในการบังคับคดีเรื่องก่อน จึงเป็นฟ้องซ้ำ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 818/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: คดีเดิมวินิจฉัยแนวเขตแล้ว คดีใหม่ขอให้รับรองแนวเขตเดิม ถือเป็นการฟ้องซ้ำต้องห้าม
คดีก่อนโจทก์ฟ้องว่า ได้นำเจ้าพนักงานรังวัดที่ดิน 3 แปลงเพื่อขอรับโฉนดแต่จำเลยคัดค้านว่าเป็นที่สาธารณ ศาลให้ทำแผนที่วิวาทและพิพากษาว่าที่ดินตามแผนที่วิวาทเป็นของโจทก์ คดีถึงที่สุดแล้วโจทก์มาฟ้องคดีนี้ใหม่ว่า โจทก์ขอออกโฉนดที่ดินรายที่ชนะคดีจำเลยคัดค้านว่าโจทก์นำวัดรุกล้ำที่สาธารณไม่รับรองเขตให้เจ้าพนักงานจึงออกโฉนดให้โจทก์ไม่ได้ จึงขอให้จำเลยรับรองแนวเขตอย่าให้ขัดขวางในการที่โจทก์จะออกโฉนดดังนี้ เป็นกรณีที่น่าจะบังคับกันได้ในการบังคับคดีเรื่องก่อน จึงเป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำลายต้นไม้ปลูกตามแนวเขต ไม่ถือเป็นพืชผลในการกสิกรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 359(4)
คำว่าพืช หรือ พืชผลของกสิการซึ่งบัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 359 (4) นั้น หมายถึงพืชหรือพืชผลที่ปลูกในการกสิกรรมของกสิกร ฉะนั้น ต้นนุ่นและต้นมะม่วงหิมพานต์ซึ่งผู้เสียหายผู้เป็นกสิกร ด้วยการทำนาปลูกไว้ เฉย ๆ ตามแนวเขต และจำเลยถอนทำลายเสียนั้น จะฟังว่า เป็นพืชหรือพืชผล ในการกสิกรรมของผู้เสียหายตามกฎหมายดังกล่าวยังไม่ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำกัดความ ‘พืชผลของกสิกร’ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 359(4) กรณีต้นไม้ปลูกตามแนวเขต
คำว่าพืชหรือพืชผลของกสิกรซึ่งบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 359(4) นั้น หมายถึงพืชหรือพืชผลที่ปลูกในการกสิกรรมของกสิกรฉะนั้น ต้นนุ่นและต้นมะม่วงหิมพานต์ซึ่งผู้เสียหายผู้เป็นกสิกรด้วยการทำนาปลูกไว้เฉยๆ ตามแนวเขตและจำเลยถอนทำลายเสียนั้นจะฟังว่าเป็นพืชหรือพืชผลในการกสิกรรมของผู้เสียหายตามกฎหมายดังกล่าวยังไม่ได้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1254/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาข้อเท็จจริง – เขตที่ดินพิพาท: การเปลี่ยนแปลงแนวเขตวัดที่ดินในชั้นฎีกา ถือเป็นการโต้แย้งข้อเท็จจริงที่รับกันไว้
การที่จำเลยเขียนฎีกาด้วยเจตนาเพื่อให้เห็นว่าเป็นข้อกฎหมาย แต่โดยเนื้อแท้ก็คือ กล่าวว่าศาลอุทธรณ์ไม่ถือเอาเขตตามที่จำเลยนำชี้ และเป็นการเถียงกับความจริงที่จำเลยได้แถลงรับไว้ คือ ในชั้นฎีกาจำเลยจะให้เริ่มวัดอีกทางหนึ่งเพื่อทิ้งด้านทิศเหนือไว้และหนังสือยกที่ดินให้จะได้กินถึงที่พิพาทนั้น ย่อมเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง หาใช่ข้อกฎหมายไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1162/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตัดกิ่งไม้ล้ำแนวเขต: ไม่ถึงขั้นทำให้เสียทรัพย์ในทางอาญา
จำเลยตัดกิ่งไม้ที่ล้ำเข้ามาในนาของจำเลย โดยไม่บอกผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินติดต่อให้ตัดเสียก่อนนั้น เป็นการทำผิดหน้าที่ซึ่งกฎหมายบังคับไว้ในทางแพ่ง แต่ยังไม่เพียงพอที่จะถือว่า เป็นการบังอาจทำให้ทรัพย์ของเขาอันตรายชำรุดเสียหาย อันเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ในทางอาญาเสมอไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16000/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากการขุดวางท่อประปา: ผู้รับเหมาไม่ประมาทหากโจทก์มิได้ระบุแนวสายเคเบิลชัดเจน
การที่พยานโจทก์เพียงแจ้งให้จำเลยที่ 2 ทราบหลังเกิดเหตุครั้งแรกว่ามีสายเคเบิลใยแก้วนำแสงของโจทก์ติดตั้งอยู่แต่ไม่มีความชัดเจนว่าฝังอยู่จุดใดบ้าง ประกอบกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. ผู้รับเหมาช่วงซึ่งดำเนินการวางท่อประปามาแล้วประมาณ 50 กิโลเมตร ขุดไม่โดนสายเคเบิลของโจทก์เลย เหลือระยะทางที่จะต้องวางท่อประปาอีกประมาณ 135 กิโลเมตร ซึ่งห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. ยังคงขุดเพื่อวางท่อประปาต่อไปตามแนวเขตที่ได้รับอนุญาตโดยปฏิบัติเหมือนกับ 50 กิโลเมตรแรก จึงฟังได้ว่าฝ่ายจำเลยมิได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อ แม้จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่สายเคเบิลของโจทก์ก็ไม่ถือว่าเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยที่ 2 กับจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 1 ผู้ว่าจ้างจำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์เช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3726/2553 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิร้องสอดและการบังคับคดีตามคำพิพากษา: การวัดแนวเขตทางพิพาท
ผู้ร้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมที่ดินกับจำเลยซึ่งตกเป็นภาระจำยอมและถูกบังคับคดีในคดีนี้ เมื่อการบังคับคดีมีปัญหาอันเนื่องจากโจทก์และจำเลยแปลความคำพิพากษาแตกต่างกัน จำเลยและผู้ร้องเห็นว่าการบังคับคดีไม่ถูกต้องตามคำพิพากษา ทำให้จำเลยและผู้ร้องเสียหายผู้ร้องย่อมใช้สิทธิร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 57 (1)