พบผลลัพธ์ทั้งหมด 52 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 35/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประกันวินาศภัย: สิทธิผู้รับประโยชน์เกิดมีขึ้นเมื่อแสดงเจตนา แม้มีข้อตกลงเสนออนุญาโตตุลาการก่อนฟ้องก็ไม่เป็นอุปสรรค
แม้ตามกรมธรรม์ประกันภัยจะระบุไว้ว่า ในกรณีทรัพย์ที่เอาประกันภัยต้องวินาศภัย ถ้าเกิดความเห็นแตกต่างกันในจำนวนวินาศภัยหรือเสียหายให้ตั้งอนุญาโตตุลาการชี้ขาดเสียก่อน แต่เมื่อทรัพย์ที่เอาประกันภัยถูกเพลิงไหม้เสียหายหมดสิ้น ก็หาจำต้องมีการเสนอตั้งอนุญาโตตุลาการเพื่อชี้ขาดจำนวนวินาศภัยหรือเสียหายไม่
เมื่อทรัพย์ที่เอาประกันภัยถูกเพลิงไหม้และผู้รับประโยชน์มีหนังสือแจ้งให้ผู้รับประกันภัยทราบผู้รับประกันภัยกลับเพิกเฉย ไม่ยอมทำความตกลงหรือเสนอขอตั้งอนุญาโตตุลาการแต่อย่างใด ดังนี้ เท่ากับผู้รับประกันภัยปฏิเสธความรับผิดของตนโดยสิ้นเชิง ผู้รับประโยชน์ย่อมมีสิทธิฟ้องผู้รับประกันภัยได้โดยไม่จำต้องเสนอขอตั้งอนุญาโตตุลาการเสียก่อน
ในกรมธรรม์ประกันภัยซึ่งผู้เอาประกันภัยทำไว้กับจำเลยผู้รับประกันภัยระบุให้โจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ เมื่อทรัพย์ที่เอาประกันภัยถูกเพลิงไหม้เสียหายหมดสิ้น และโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้แสดงเจตนาแก่จำเลย โดยมีหนังสือบอกกล่าวให้จำเลยทราบแล้วว่าจะถือเอาประโยชน์จากสัญญาตามกรมธรรม์นั้น สิทธิของโจทก์ย่อมเกิดมีขึ้นตั้งแต่เวลาที่แสดงเจตนาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374 ผู้เอาประกันภัยและจำเลยหาอาจจะเปลี่ยนแปลงหรือระงับสิทธินั้นในภายหลังได้ไม่ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 375
เมื่อทรัพย์ที่เอาประกันภัยถูกเพลิงไหม้และผู้รับประโยชน์มีหนังสือแจ้งให้ผู้รับประกันภัยทราบผู้รับประกันภัยกลับเพิกเฉย ไม่ยอมทำความตกลงหรือเสนอขอตั้งอนุญาโตตุลาการแต่อย่างใด ดังนี้ เท่ากับผู้รับประกันภัยปฏิเสธความรับผิดของตนโดยสิ้นเชิง ผู้รับประโยชน์ย่อมมีสิทธิฟ้องผู้รับประกันภัยได้โดยไม่จำต้องเสนอขอตั้งอนุญาโตตุลาการเสียก่อน
ในกรมธรรม์ประกันภัยซึ่งผู้เอาประกันภัยทำไว้กับจำเลยผู้รับประกันภัยระบุให้โจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ เมื่อทรัพย์ที่เอาประกันภัยถูกเพลิงไหม้เสียหายหมดสิ้น และโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้แสดงเจตนาแก่จำเลย โดยมีหนังสือบอกกล่าวให้จำเลยทราบแล้วว่าจะถือเอาประโยชน์จากสัญญาตามกรมธรรม์นั้น สิทธิของโจทก์ย่อมเกิดมีขึ้นตั้งแต่เวลาที่แสดงเจตนาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374 ผู้เอาประกันภัยและจำเลยหาอาจจะเปลี่ยนแปลงหรือระงับสิทธินั้นในภายหลังได้ไม่ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 375
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 88/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงเจตนาทำสัญญาซื้อขายในฐานะเจ้าของที่ดิน แม้มิได้เป็นเจ้าของจริง ก็ผูกพันตามสัญญา
จำเลยทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินกับโจทก์ โดยจำเลยมิได้แสดงออกว่าจำเลยทำในฐานะตัวแทนผู้ใด จำเลยกลับแสดงว่าจำเลยมีฐานะเป็นเจ้าของที่ดินเสียเองที่มีอำนาจจะซื้อขายที่ดินกับโจทก์ได้ ดังนี้ แม้โจทก์ได้รู้หรือควรจะรู้ว่าที่ดินรายนี้เป็นของ ป. และ ร. มีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดิน โดยจำเลยมิได้เป็นเจ้าของที่แท้จริง จำเลยก็จะปัดความรับผิดของจำเลยให้ไปตกอยู่กับบุคคลทั้งสองไม่ได้ เพราะบุคคลทั้งสองไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องรู้เห็นอะไรด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 88/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงเจตนาทำสัญญาซื้อขายในฐานะเจ้าของที่ดิน แม้ไม่ใช่เจ้าของที่แท้จริง ก็ผูกพันตามสัญญา
จำเลยทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินกับโจทก์ โดยจำเลยมิได้แสดงออกว่าจำเลยทำในฐานะตัวแทนผู้ใดจำเลยกลับแสดงว่าจำเลยมีฐานะเป็นเจ้าของที่ดินเสียเองที่มีอำนาจจะซื้อขายที่ดินกับโจทก์ได้ดังนี้ แม้โจทก์ได้รู้หรือควรจะรู้ว่าที่ดินรายนี้เป็นของ ป. และ ร. มีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินโดยจำเลยมิได้เป็นเจ้าของที่แท้จริงจำเลยก็จะปัดความรับผิดของจำเลยให้ไปตกอยู่กับบุคคลทั้งสองไม่ได้ เพราะบุคคลทั้งสองไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องรู้เห็นอะไรด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายร่างกายบุตรเลี้ยง: การกระทืบจนไตแตกและการพูดจาแสดงเจตนา
ก่อนเกิดเหตุคดีนี้ จำเลยเคยทำร้ายเฆี่ยนตีและจับผู้ตายโยนซึ่งอาจจะเนื่องจากเกลียดชัง เพราะผู้ตายเป็นบุตรเลี้ยง ดังนั้นการที่จำเลยกระทืบผู้ตายด้วยเท้าจนถึงไตซ้ายแตก มีอุจจาระไหลออกมาเปรอะเปื้อนตามร่างกายผู้ตาย แสดงว่าจำเลยใช้เท้ากระทืบอย่างหนักและรุนแรง จนเป็นผลให้ไตซ้ายแตกนั้น เมื่อประกอบกับการที่จำเลยพูดว่าเอาให้ตายแล้วย่อมเป็นการกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1437/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าเกิน 3 ปี การบอกเลิกสัญญา และการแสดงเจตนาโดยชอบ
การรับเงินกินเปล่าเป็นส่วนหนึ่งของค่าเช่าตามสัญญาธรรมดาไม่เป็นเหตุที่จะบังคับให้โจทก์ต้องยอมให้จำเลยเช่าเกิน 3 ปี โดยไม่ต้องจดทะเบียน โจทก์บอกเลิกการเช่าได้ (อ้างฎีกาที่ 1325/2506)
โจทก์นำหนังสือบอกกล่าวเลิกการเช่าไปส่งให้จำเลย ไม่พบจำเลยจึงอ่านข้อความในหนังสือนั้นให้คนในร้านฟัง แล้วให้เซ็นรับ แต่ไม่มีคนยอมรับ จึงได้ทิ้งหนังสือไว้ที่ในร้านของจำเลย ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์ได้แสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาเช่าไปถึงจำเลยโดยชอบแล้ว
โจทก์นำหนังสือบอกกล่าวเลิกการเช่าไปส่งให้จำเลย ไม่พบจำเลยจึงอ่านข้อความในหนังสือนั้นให้คนในร้านฟัง แล้วให้เซ็นรับ แต่ไม่มีคนยอมรับ จึงได้ทิ้งหนังสือไว้ที่ในร้านของจำเลย ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์ได้แสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาเช่าไปถึงจำเลยโดยชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1805-1806/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงเจตนาเชิดตัวแทนก่อหนี้: ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบหนี้ที่ตัวแทนซื้อวัสดุก่อสร้าง
การที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ทำสัญญารับเหมาก่อสร้างสถานที่แห่งหนึ่ง แม้จะจ้างเหมาให้จำเลยที่ 2 สร้างอีกต่อหนึ่งก็ตาม แต่ระหว่างก่อสร้างได้ปักป้ายว่าตนเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง และบางครั้งก็ไปตรวจงานเองหรือมอบให้คนอื่นไปตรวจแทน การส่งมอบงานและรับเงินแต่ละงวดจำเลยที่ 1 ก็ทำเองโดยตรง เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้เชิดจำเลยที่ 2 ออกแสดงเป็นตัวแทนแล้ว จึงต้องรับผิดในหนี้ที่จำเลยที่ 2 ไปซื้อเชื่อวัสดุก่อสร้างต่อบุคคลภายนอกด้วย
สัญญาซื้อขายสังหาริมทรัพย์เป็นเงินเกินกว่าห้าร้อยบาทเมื่อผู้ซื้อได้รับของไปแล้ว ย่อมฟ้องร้องบังคับคดีกันได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ฉะนั้น การตั้งตัวแทนก็ไม่จำต้องทำเป็นหนังสือเช่นกัน
สัญญาซื้อขายสังหาริมทรัพย์เป็นเงินเกินกว่าห้าร้อยบาทเมื่อผู้ซื้อได้รับของไปแล้ว ย่อมฟ้องร้องบังคับคดีกันได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ฉะนั้น การตั้งตัวแทนก็ไม่จำต้องทำเป็นหนังสือเช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1244/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงเจตนาไม่ยึดที่ดินแทนเจ้าของเดิม และผลของการไม่ฟ้องคดีที่ดินภายใน 1 ปี
โจทก์เอาที่ดินไปเป็นประกันเงินกู้ของบุตรเขย ต่อมาได้ไปของไถ่ที่ดินคืน จำเลยผู้ให้กู้อ้างว่าเป็นที่ดินของบุตรเขยโจทก์ บุตรเขยโจทก์ได้ขายให้จำเลยแล้วเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการบอกกล่าวแก่โจทก์แล้วว่าจำเลยไม่เจตนาจะยึดถือที่ดินพิพาทแทนโจทก์ต่อไป ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าโจทก์ไม่ฟ้องเสียใน 1 ปี จำเลยย่อมได้สิทธิครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกล้างโมฆียกรรมไม่จำเป็นต้องมีแบบพิธี เพียงแสดงเจตนาถึงพอ
การบอกล้างโมฆียกรรมนั้นมิต้องทำตามแบบพิธีอย่างใดๆเพียงแสดงเจตนาบอกล้างไปยังอีกฝ่ายหนึ่งก็พอแล้ว
สามีกล่าวแก่เจ้าหนี้ของภรรยาว่าไม่รับรู้ในหนี้ที่ภรรยาไปก่อขึ้นโดยสามีไม่ทราบ เพียงเท่านี้ก็ถือได้ว่าสามีได้แสดงเจตนาบอกล้างโมฆียกรรมแล้ว
สามีกล่าวแก่เจ้าหนี้ของภรรยาว่าไม่รับรู้ในหนี้ที่ภรรยาไปก่อขึ้นโดยสามีไม่ทราบ เพียงเท่านี้ก็ถือได้ว่าสามีได้แสดงเจตนาบอกล้างโมฆียกรรมแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 503/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาแสดงออกแล้วมิอาจกลับลบล้างได้ แม้แสดงเจตนาหลอกลวง หากไม่มีนิติกรรมอื่นแฝงอยู่
การที่บุคคลแสดงเจตนาอย่างไรออกไปแล้ว ภายหลังจะมาอ้างว่าตนไม่ได้ตั้งใจจะแสดงเจตนาเช่นนั้น แต่ทำขึ้นหลอกๆ เช่นนี้มิใช่นิติกรรมอำพราง เพราะคู่กรณีมิได้อำพรางนิติกรรมอื่นใดอีกเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 503/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาแสดงเจตนาภายหลังไม่อาจอ้างลวงได้ หากไม่มีการอำพรางนิติกรรมอื่น
การที่บุคคลแสดงเจตนาอย่างไรออกไปแล้ว ภายหลังจะมาอ้างว่าตนไม่ได้ตั้งใจจะแสดงเจตนาเช่นนั้นแต่ทำขึ้นหลอกๆ เช่นนี้มิใช่นิติกรรมอำพราง เพราะคู่กรณีมิได้อำพรางนิติกรรมอื่นใดอีกเลย