พบผลลัพธ์ทั้งหมด 55 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 925/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวกัน บุกรุกทำลายทรัพย์สิน โทษหนักสุดตามมาตรา 90
จำเลยบุกรุกเข้าไปในบ้านผู้เสียหายแล้วทำลายบานประตูและกระจกหน้าต่างผู้เสียหายในทันทีทันใดนั้น ย่อมถือว่าเป็นกรรมเดียวกัน จึงต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 925/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวกัน บุกรุกทำลายทรัพย์สิน โทษหนักสุดตาม ม.90
จำเลยบุกรุกเข้าไปในบ้านผู้เสียหายแล้วทำลายบานประตูและกระจกหน้าต่างผู้เสียหายในทันทีทันใดนั้น ย่อมถือว่าเป็นกรรมเดียวกันจึงต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1278/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โทษหนักขึ้นกึ่งหนึ่งเฉพาะผู้มีหรือใช้อาวุธในคดีปล้น
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี ที่ว่า " ผู้ใดกระทำความผิดตาม2.....ฯลฯ มาตรา 340.... โดยมีหรือใช้อาวุธปืน ฯลฯ" ต้องระวางโทษหนักขึ้นกึ่งหนึ่งนั้น เฉพาะตัวผู้มีหรือใช้อาวุธปืน ผู้ที่ร่วมกระทำการปล้นแต่ไม่ได้มีหรือใช้อาวุธปืน ไม่ต้องด้วยมาตรา 340ตรี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1142/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุกรุกและลักทรัพย์ในวาระเดียวกัน ศาลพิจารณาโทษตามบทที่หนักที่สุด
จำเลยกับพวกได้สมคบกันเข้าไปในที่เกิดเหตุโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อเข้าไปลักทรัพย์ แล้วร่วมกันลักทรัพย์ของผู้เสียหาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยกระทำผิดในวาระเดียวกันแต่ผิดกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดแผ้วถางป่าและตัดไม้หวงห้าม: ใช้บทลงโทษหนักที่สุด
กระทำผิดฐานแผ้วถางป่าและตัดฟันไม้หวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาตในระหว่างวันเวลาเดียวกันเป็นการกระทำกรรมเดียวกัน แต่เป็นความผิดกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ซึ่งบัญญัติให้ใช้กฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดลงแก่ผู้กระทำผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 209/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จกล่าวหาปล้นทรัพย์เพื่อแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษหนักกว่าความเป็นจริง มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
จำเลยเกิดปากเสียงกับนายชิงชองแล้วถูกนายชิงชองชกต่อยเอา แต่จำเลยกลับนำความไปแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่ามีนักเลง 3 คนกลุ้มรุมทำร้ายจำเลย โดยคนหนึ่งใช้ไม้ตี คนหนึ่งล๊อคคออีกคนหนึ่งล้วงเอาเงินในกระเป๋าเสื้อไป 300 บาท ซึ่งเป็นความเท็จ การกระทำของจำเลยเช่นนี้ย่อมเป็นการแกล้งจะให้นายชิงชองต้องรับโทษหนักขึ้นและเป็นการกล่าวหาว่านายชิงชองกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ซึ่งมีระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 10 ปี การกระทำของจำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 174 ประกอบด้วยมาตรา 181 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 891/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษทางอาญา: เลือกโทษหนักกว่าเมื่อมีความผิดหลายกระทง
ความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 301 วรรถ 3 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉะบับที่ 4) พ.ศ.2477 มาตรา 7 นั้น กำหนดโทษไว้หนักกว่าความผิดฐานฆ่าคนตายตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60
ฉะนั้นเมื่อศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 301 วรรค 3 แล้ว แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250,60 ด้วย ศาลฎีกาก็ไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยว่า จำเลยจะมีความผิดตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60 ด้วยหรือไม่
ฉะนั้นเมื่อศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 301 วรรค 3 แล้ว แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250,60 ด้วย ศาลฎีกาก็ไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉัยว่า จำเลยจะมีความผิดตามมาตรา 250 ประกอบด้วยมาตรา 60 ด้วยหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1869/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดบทลงโทษในความผิดหลายบท ศาลต้องใช้บทที่มีโทษหนักที่สุด แม้ความผิดอื่นจะอยู่ในอำนาจศาลแขวง
ในกรณีที่ฟ้องอ้างว่าจำเลยกระทำความผิดซึ่งเป็นการละเมิด ก.ม. หลายบทด้วยกันนั้น หากพิจารณาได้ข้อเท็จจริงตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์แล้ว ศาลก็ต้องใช้อาญาที่เป็นบทนักลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 70 ฉะนั้นเมื่อความผิดตามบท ก.ม. ที่หนักนั้นเกินอำนาจศาลแขวงแม้ความผิดบทเบา จะอยู่ในอำนาจศาลแขวง ศาลแขวงก็ต้องพิพากษายกฟ้องเสีย เพราะต้องถือว่าเป็นคดีเกินอำนาจศาลแขวง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษทางอาญาเมื่อมีความผิดหลายบท ศาลต้องใช้บทที่มีโทษหนักที่สุด แม้บทอื่นจะมีโทษขั้นต่ำสูงกว่า
ความผิดละเมิดกดหมายหลายบทนั้น สาลต้องลงโทสตามบทหนัก และถึงหากว่าตามกดหมายบทเบาทมีโทสคั่นต่ำสูงกว่าตามกดหมายบทหนัก สาลก็ไม่ต้องผู้พันธ์ไห้ต้องวางโทสตามอัตราคั่นต่ำของกดหมายบทเบา
พ.ร.บ.สุลกากร ม.120
ซึ่งบัญญัติมิไห้ถือว่ากดหมายอื่นจำกัดเปลี่ยนแปลงบทบัญญัติไน พ.ร.บ.สุลกากรนั้น ไม่กินความถึงกรนีที่การกะทำเปนผิดต้องด้วยกดหมายหลายบทซึ่งสาลจะต้องลงโทสตามกดหมายอื่นอันเปนบทกำหนดโทสหนักกว่า
พ.ร.บ.สุลกากร ม.120
ซึ่งบัญญัติมิไห้ถือว่ากดหมายอื่นจำกัดเปลี่ยนแปลงบทบัญญัติไน พ.ร.บ.สุลกากรนั้น ไม่กินความถึงกรนีที่การกะทำเปนผิดต้องด้วยกดหมายหลายบทซึ่งสาลจะต้องลงโทสตามกดหมายอื่นอันเปนบทกำหนดโทสหนักกว่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 822/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษทางอาญาสำหรับผู้กระทำผิดซ้ำ: เลือกใช้บทโทษหนักได้เพียงทางเดียว
การที่จำเลยกะทำผิดซ้ำครั้งเดียวต้องด้วยบทกดหมายที่ไห้เพิ่มโทส 2 ทาง สาลต้องเลือกเพิ่มตามกดหมายที่เปนโทสหนักจะเพิ่ม 2 ทนไม่ได้.