พบผลลัพธ์ทั้งหมด 44 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงโทษอาญาในชั้นอุทธรณ์และการฎีกาในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความผิดสมคบทำร้ายร่างกาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 256 จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี เพิ่มโทษ 1 ใน 3 เป็นโทษจำคุก 2 ปี 8 เดือน จำเลยที่ 2 จำคุก 2 ปี 6 เดือน ลดฐานเป็นเด็ก 1 ใน 3 คงจำคุก 1 ปี 8 เดือน.
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ 1 ผิดตามมาตรา 254 จำคุก 15 วัน ปรับ 120 บาท เพิ่มโทษ 1 ใน 3 เป็นจำคุก 20 วัน ปรับ 160 บาท โทษจำให้ยกเสีย ส่วนจำเลยที่ 2 ผิดตามมาตรา 256 จำคุก 2 ปี ลดฐานเป็นเด็กกึ่งหนึ่งคงจำ คุก 1 ปี และให้รอการลงอาญาไว้ ดังนี้ คดีเฉพาะจำเลยที่ 1 ศาลอุทธรณ์แก้ทั้งบทและทั้งกำหนดโทษ ถือว่า เป็นการ แก้ไขมาก โจทก์ย่อมฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้และคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 แม้ศาลอุทธรณ์เพียงแต่แก้ไขกำหนดโทษ เท่านั้น แต่ก็ให้รอการลงอาญาแก่จำเลยไว้ จึงเป็นการแก้ไขมาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้เช่นเดียวกัน./
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ 1 ผิดตามมาตรา 254 จำคุก 15 วัน ปรับ 120 บาท เพิ่มโทษ 1 ใน 3 เป็นจำคุก 20 วัน ปรับ 160 บาท โทษจำให้ยกเสีย ส่วนจำเลยที่ 2 ผิดตามมาตรา 256 จำคุก 2 ปี ลดฐานเป็นเด็กกึ่งหนึ่งคงจำ คุก 1 ปี และให้รอการลงอาญาไว้ ดังนี้ คดีเฉพาะจำเลยที่ 1 ศาลอุทธรณ์แก้ทั้งบทและทั้งกำหนดโทษ ถือว่า เป็นการ แก้ไขมาก โจทก์ย่อมฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้และคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 แม้ศาลอุทธรณ์เพียงแต่แก้ไขกำหนดโทษ เท่านั้น แต่ก็ให้รอการลงอาญาแก่จำเลยไว้ จึงเป็นการแก้ไขมาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้เช่นเดียวกัน./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 733/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับโทษคดีอาญาต่อเนื่อง: หลักการนับโทษและการยกเว้น
การที่จำเลยได้ทำผิดจนต้องคำพิพากษาให้ลงโทษ 2 คดีนั้น จำเลยจะต้องรับโทษทั้ง 2 คดีติดต่อกัน เว้นแต่จะมีเหตุสมควรที่ศาลจะสั่งให้นับโทษเป็นอย่างอื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1992/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดราคาประกันตัวที่เหมาะสมกับโทษอาญาและสภาพเศรษฐกิจในขณะนั้น
คดีที่มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีและปรับไม่เกิน 500 บาท ซึ่งศาลชั้นต้นสั่งปรับนายประกันเมื่อเดือนพฤษภาคม 2492 เป็นเงิน 3,000 บาทนั้น เป็นการเหมาะสมด้วยรูปคดีและค่าของเงินตราในเวลานั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1699-1704/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาโทษอาญาต้องอาศัยพยานหลักฐานชัดเจน คำรับสารภาพและคำให้การฝ่ายเดียวไม่เพียงพอ
คดีอาญามีปัญหาฉะเพาะข้อกฎหมายซึ่งศาลฎีกาจำต้องฟังข้อเท็จจริง ตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมา เมื่อปรากฎว่าศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริง โดยไม่มีคำพะยานในสำนวนสนับสนุน ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกข้อเท็จจริงขึ้นพิจารณาได้
ถ้ามีอัตราโทษจำคุกถึง 10 ปี ลำพังแต่คำรับสารภาพไม่ใช่คำพะยานหลักฐาน.
ถ้ามีอัตราโทษจำคุกถึง 10 ปี ลำพังแต่คำรับสารภาพไม่ใช่คำพะยานหลักฐาน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 133/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดโทษทางอาญา: พิจารณาโทษจำคุกเป็นเกณฑ์หลักเมื่อมีโทษทั้งจำคุกและปรับ
โจทฟ้องขอไห้ลงโทสจำเลยตาม พ.ร.บ. 2 ฉบับ ไนการที่จะวินิฉัยว่าควนลงอาญาที่หนักตามกดหมายฉบับไดนั้นต้องถือตามโทสจำคุกเพราะเปนโทสที่ร้ายแรงกว่าโทสปรับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้อุทธรณ์โทษอาญา - การเพิ่มโทษในชั้นอุทธรณ์ และข้อจำกัดในการฎีกา
ศาลเดิมจำคุก 2 เดือน ศาลอุทธรณ์แก้ฉะเพาะกำหนดโทษให้จำคุก 1 ปี 6 เดือนเป็นแก้น้อย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 59/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงโทษอาญาจาก ม.294 เป็น ม.295 และการยกฎีกาเนื่องจากข้อจำกัดตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม ม.294 จำคุก 1 ปี 4 เดือน ศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษตาม ม.295 จำคุก 2 ปี 8 เดือน ดังนี้เป็นแก้น้อย ฎีกาในข้อเท็จจริงมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1291/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลยพินิจศาลในการกำหนดโทษกักกันและพิจารณาพฤติกรรมจำเลย
โทษกักกันเป็นโทษ+ปกรณ์ซึ่งอยู่ในดุลยพินิจฟ้องศาลที่จะเพิ่มจะลดตาม+เหตุผลอันสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โทษกักกัน: โทษอาญาเฉพาะ ไม่ใช่การเพิ่มโทษ และโจทก์มีสิทธิฟ้องได้โดยตรง
โทษกักกันเป็นโทษอาญา+านหนึ่งและเป็นโทษ+ความผิดโดยเอกเทศโจทก์จะฟ้องจำเลยเป็นสำนวนปลีกขึ้นมาโดยลำพังขอให้ลงโทษกักกันสถานเดียวก็ได้ การจะลงโทษกักกันแก่จำเลยหรือไม่อยู่ในดุลยพินิจของศาล ศาลอาจไม่ลงโทษกักกันแก่จำเลยซึ่งเคยกระทำผิด (อันเป็นเหตุร้าย) 2 ครั้งมาแล้วก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15000/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาโทษอาญา: ศาลต้องพิจารณาจากคำฟ้องเดิมและแก้ฟ้องประกอบกัน การแก้ไขคำพิพากษาเมื่อพิมพ์ผิดพลาด
การที่โจทก์ยื่นคำฟ้องฉบับใหม่แทนคำฟ้องฉบับเดิมก็เพื่อความสะดวกในการพิจารณาพิพากษาของศาลชั้นต้นเท่านั้น ศาลชั้นต้นต้องพิจารณาคำฟ้องฉบับเดิมและคำร้องขอแก้ฟ้องประกอบคำฟ้องฉบับใหม่ด้วย จะถือคำฟ้องฉบับใหม่ฉบับเดียวแทนคำฟ้องฉบับเดิมไม่ได้ เมื่อโจทก์ไม่ได้ขอแก้ไขฟ้องส่วนที่เกี่ยวกับการขอนับโทษต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 277/2556 ทั้งในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นก็ระบุว่าจำเลยที่ 1 เป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 265/2556 การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 277/2556 จึงขัดแย้งกัน เชื่อว่าศาลชั้นต้นพิจารณาจากคำฟ้องฉบับใหม่ที่โจทก์พิมพ์ผิดพลาด ไม่ได้พิจารณาจากคำฟ้องฉบับเดิม ถือว่าเป็นการเขียนหรือพิมพ์ผิดพลาดตาม ป.วิ.อ. มาตรา 190