คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ไม่ถูกต้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 61 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1732/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คณะกรรมการลูกจ้าง: การเลือกตั้งที่ไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ กฎหมายแรงงาน
จำเลยให้การต่อสู้ว่า โจทก์กับพวกมิได้เป็นคณะกรรมการลูกจ้างที่ถูกต้องตามกฎหมายเพราะ ผู้สมัครและผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ปฏิบัติงานอยู่ในจังหวัดอื่นนอกจังหวัดขอนแก่นด้วย มิได้เป็นการเลือกตั้งโดยลูกจ้างทั้งหมดของจำเลยในจังหวัดขอนแก่นจำนวนกรรมการที่ได้รับเลือกตั้ง มีมากกว่าที่กฎหมายกำหนด และหน่วยงานที่โจทก์กับพวกจัดให้มีการเลือกตั้งเป็นเพียงกองกองหนึ่งของจำเลยเท่านั้นการเลือกตั้ง จึงไม่ชอบโจทก์จึงไม่มีสิทธิขอให้จำเลยจัดให้มีการประชุมดังนี้ การที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าโจทก์กับพวกขอให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการลูกจ้าง ในเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งจำเลยก็ยินยอมแต่วันเลือกตั้งโจทก์กระทำผิดข้อตกลง โดยมีพนักงานจากจังหวัดอื่นร่วมทำการเลือกตั้งและพนักงานในจังหวัดขอนแก่นอีกจำนวนหนึ่งไม่รู้เห็นด้วยนับว่าเป็นการไม่ชอบเป็นเหตุผลเพียงพอที่ฝ่ายจำเลยจะปฏิเสธไม่จัดให้มีการประชุมหารือ ระหว่างพวกโจทก์กับจำเลยนั้นเป็นการที่มิได้วินิจฉัยตามประเด็นที่จำเลยยกขึ้นต่อสู้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2705/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินดีกว่าสิทธิที่ได้จากการโอนโดยเอกสารไม่ถูกต้อง แม้จะจดทะเบียน
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ซื้อที่ดิน น.ส.3 จาก ส.มาจัดสรรขาย ที่พิพาทเป็นที่ดินแปลงหนึ่งซึ่งจำเลยที่ 1 ขายให้แก่ผู้มีชื่อและโอนขายต่อมาจนกระทั่งถึงโจทก์ โดยโจทก์ซื้อไว้เมื่อ พ.ศ.2510 แล้วครอบครองอย่างเป็นเจ้าของตลอดมา ดังนี้ โจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครองในที่พิพาท การที่จำเลยที่ 2 นำใบมอบอำนาจของ ส. ไปขอรังวัดออกโฉนดและจดทะเบียนขายที่พิพาทให้จำเลยที่ 3 อีกในระหว่าง พ.ศ.2515-2516 จึงไม่อาจกระทำได้เพราะ ส. ไม่มีสิทธิอย่างใดในที่พิพาทแล้วการที่จำเลยที่ 2 ไปขอออกโฉนดสำหรับที่พิพาทแล้วจดทะเบียนโอนขายให้จำเลยที่ 3 โดยอาศัยใบมอบอำนาจของ ส. จึงไม่ก่อให้เกิดสิทธิในที่พิพาทดีกว่าโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 179/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำร้องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ทำให้จำเลยถูกตีความว่ายอมรับยอดหนี้
ศาลมีคำสั่งให้โจทก์จำเลยตรวจสอบเอกสาร และกำหนดเวลาให้จำเลยคัดค้านความไม่ถูกต้องของเอกสารและยอดเงินเป็นหนี้ที่โจทก์ฟ้องหากจำเลยไม่แถลงให้ถือว่าถูกต้องเมื่อปรากฏว่าการยื่นคำร้องขอขยายเวลาตรวจสอบเอกสารของจำเลยมิได้มอบฉันทะให้ผู้ใดมายื่นแทนเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 64 ศาลได้มีคำสั่งอนุญาตตามคำร้องนั้นโดยหลงผิดว่าได้มีการยื่นคำร้องโดยชอบแล้ว จึงมีอำนาจเพิกถอนคำสั่งนั้นเสียได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 เมื่อศาลได้เพิกถอนคำสั่งและยกคำร้องของจำเลยเสียแล้ว ก็เสมือนจำเลยไม่แถลงการณ์ถึงความไม่ถูกต้องของบัญชีโจทก์ตามคำสั่งศาลกรณีต้องถือว่าจำเลยได้ยอมรับยอดหนี้ตามฟ้องของโจทก์เป็นการถูกต้องแล้ว
เจ้าพนักงานศาลไม่มีหน้าที่ทักท้วงหรือแนะนำคู่ความในกระบวนความแต่อย่างใด เป็นหน้าที่ของคู่ความจะต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายที่บังคับไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 263/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำคู่ความไม่ถูกต้อง ศาลฎีกามีอำนาจสั่งให้แก้ไขก่อนรับฟ้อง
เอกสารที่โจทก์ยื่นต่อศาล โจทก์ได้ใช้แบบพิมพ์ (31) อุทธรณ์ (32) ท้ายอุทธรณ์แล้วมาแก้เป็นฎีกา ในเนื้อหาได้บรรยายเป็นรูปอุทธรณ์คำสั่ง แล้วลงท้ายกลายเป็นขอให้ศาลฎีกาพิพากษา ซึ่งเป็นเรื่องเปะปะปนกันยุ่งไปหมด โดยไม่ทราบแน่ว่าโจทก์ประสงค์จะยื่นเป็นฎีกาเป็นอุทธรณ์หรือเป็นคำร้อง จะว่าเป็นฎีกา แต่แล้วศาลชั้นต้นก็มิได้สั่งรับหรือไม่รับฎีกา เพียงแต่สั่งรวมสำนวนส่งศาลฎีกาเท่านั้น ดังนี้ อาศัยความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจสั่งให้คืนคำคู่ความของโจทก์ไปจัดทำเสียใหม่ให้ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นฎีกาไม่ถูกต้องตามกฎหมายเนื่องจากไม่วางค่าธรรมเนียมภายในกำหนด ทำให้ศาลไม่รับฎีกา
จำเลยยื่นฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาต และให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องวางและชำระต่อศาลมาวางภายใน 15 วัน จำเลยฎีกาคำสั่ง ศาลฎีกาสั่งให้ยกคำร้อง จำเลยจึงได้นำค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกามาชำระ เมื่อจำเลยไม่วางเงินค่าธรรมเนียมภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ ย่อมถือว่าจำเลยมิได้ยื่นฎีกาให้ถูกต้องตามกฎหมายภายในกำหนดเวลา จึงไม่เป็นฎีกาที่จะรับไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่รับอุทธรณ์ และการยื่นอุทธรณ์ที่ไม่ถูกต้องตามขั้นตอนและระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกคำขอว่าความอย่างคนอนาถาของโจทก์นั้นเป็นแต่คำสั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ โจทก์ยังอุทธรณ์ไม่ได้ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.232 แล้วโจทก์จะต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภายใน 10 วัน นับแต่วันที่ศาลสั่งไม่รับอุทธรณ์ ม.234 อุทธรณ์คำสั่งฉบับแรกของโจทก์แม้จะยื่นภายในอายุความแต่โจทก์หาเสียค่าธรรมเนียมมาไม่ ย่อมถือว่าเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบ ส่วนอุทธรณ์คำสั่งฉบับที่ 2 ซึ่งโจทก์เสียค่าธรรมเนียมมาแล้วแม้จะถือเป็นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ ์แต่ก็ยื่นเกิน 10 วันนับแต่วันที่ศาลสั่งไม่รับอุทธรณ์แล้ว คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์จึงเป็นที่สุด โจทก์อุทธรณ์ต่อไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย: การไม่วางค่าธรรมเนียมและค่าทนายในกำหนดเวลา ทำให้ศาลไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์
โจทก์อุทธรณ์อย่างคนอนาถาและขอทุเลาการบังคับคดี ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์อุทธรณ์อย่างคนอนาถให้โจทก์ปฏิบัติตาม ม.229 นำค่าธรรมเนียมมาวางศาลแต่โจทก์คงนำค่าธรรมเนียมฉะเพาะฟ้องอุทธรณ์มาชำระศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ ต่อมาเมื่อศาลอุทธรณ์สั่งไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีแล้วโจทก์จึงนำค่าธรรมเนียมค่าทนายที่จะต้องใช้ให้แก่คู่ควมอีกฝ่ายหนึ่งมาวางศาล ซึ่งพ้นกำหนดที่ศาลชั้นต้นสั่งให้วางแล้ว ค่าทนายเป็นค่าธรรมเนียมอย่างหนึ่ง เมื่ออุทธรณ์โจทก์ไม่ถูกต้องตาม ม.224 ศาลย่อมรับวินิจฉัยให้ไม่ได้ ต้องยกเสียตาม ม.242 (1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ไม่ถูกต้องตามกฎหมายเมื่อไม่วางค่าธรรมเนียมและค่าทนายตามกำหนด ทำให้ศาลไม่ต้องรับวินิจฉัย
โจทก์อุทธรณ์อย่างคนอนาถาและขอทุเลาการบังคับคดี ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์อุทธรณ์อย่างคนอนาถาให้โจทก์ปฎิบัติตามมาตรา229 นำค่าธรรมเนียมมาวางศาล แต่โจทก์คงนำค่าธรรมเนียมเฉพาะฟ้องอุทธรณ์มาชำระศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ต่อมาเมื่อศาลอุทธรณ์สั่งไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีแล้วโจทก์จึงนำค่าธรรมเนียมค่าทนายที่จะต้องใช้ให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งมาวางศาลซึ่งพ้นกำหนดที่ศาลชั้นต้นสั่งให้วางแล้ว ค่าทนายเป็นค่าธรรมเนียมอย่างหนึ่งเมื่ออุทธรณ์โจทก์ไม่ถูกต้องตามมาตรา 229 ศาลย่อมรับวินิจฉัยให้ไม่ได้ ต้องยกเสียตามมาตรา242(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องคดีอาญาต้องระบุความผิดที่เกิดขึ้นก่อนวันฟ้อง การฟ้องระบุความผิดหลังวันฟ้องเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้อง
ฟ้องที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดภายหลังวันฟ้องนั้นเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้อง ไม่ชอบที่ศาลจะรับประทับฟ้องไว้
ข้อที่ฟ้องของโจทก์ชอบด้วย ก.ม.หรือไม่นั้น แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นต่อสู้ศาลก็ยกขึ้นเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 558/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเวนคืนเพื่อกิจการค้าไม่ใช่สาธารณูปโภค การเวนคืนจึงไม่ถูกต้อง กรรมสิทธิ์ในที่ดินไม่ตกเป็นของเจ้าหน้าที่
เวนคืนที่ดินของเอกชนเพื่อขยายกิจการของโรงงานเนื้อสัตว์นั้นถือว่ากิจการของโรงงานเนื้อสัตว์เป็นการค้า ไม่ใช่สาธารณูปโภคการเวนคืนที่ดินเพื่อการนี้ จึงหาใช่เพื่อสาธารณูปโภคฉะนั้นการเวนคืน จึงเป็นการไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2477 มาตรา5 ฉะนั้นกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่เวนคืน จึงไม่ตกมาเป็นของเจ้าหน้าที่ตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์พ.ศ.2477 มาตรา 10
และในกรณีเช่นนี้ แม้จะฟ้องคดี พ้นกำหนด 1 ปีนับแต่วันพ้นกำหนด 5 ปี ของวันประกาศใช้พระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ ตามมาตรา 32 แห่ง พระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2477 มาตรา 32 ก็ดีก็จะเอามาปรับแก่กรณีเช่นนี้ ไม่ได้เพราะอายุความตามมาตราเหล่านี้จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อการเวนคืนได้กระทำโดยถูกต้อง
of 7