คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ไม่รับฟ้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 68 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3129/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแย้งขอเพิกถอนการประมูลที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับคำฟ้องเดิม ศาลไม่รับฟ้องแย้ง
คำฟ้องของโจทก์อ้างว่าจำเลยอาศัยและปลูกอาคารอยู่ในที่ดินของโจทก์โจทก์ไม่ต้องการให้จำเลยอยู่อาศัยอีกต่อไปและให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างพร้อมขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์ จำเลยยื่นคำให้การและฟ้องแย้งว่าจำเลยครอบครองที่ดินพิพาทมาโดยเปิดเผยไม่น้อยกว่า30ปีก่อนที่กรมธนารักษ์จะมีอำนาจหน้าที่ดูแลจำเลยจึงไม่ได้บุกรุกประกาศที่จังหวัดตากให้มีการประมูลปลูกสร้างอาคารในที่ดินพิพาทนั้นจังหวัดตากมีเจตนาไม่สุจริตเพราะขัดกับมติที่ประชุมของคณะกรรมการที่ราชพัสดุที่ไม่ให้ขับไล่ผู้บุกรุกและการกำหนดเงื่อนไขและเวลาของผู้เข้าประมูลเป็นการตัดสิทธิจำเลยไม่ให้เป็นผู้เข้าประมูลการประมูลดังกล่าวเป็นการไม่ชอบขอให้ยกเลิกเพิกถอนการประมูลการก่อสร้างใหม่คำฟ้องแย้งที่จำเลยขอให้เพิกถอนการประมูลการก่อสร้างของจังหวัดตากจึงเป็นเรื่องอื่นซึ่งไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6260/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งไม่รับฟ้องถึงที่สุด ทำให้โจทก์ไม่สามารถฎีกาได้ตามมาตรา 220
ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องของโจทก์แล้วมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งเดิมที่รับฟ้องเป็นไม่รับฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผลเท่ากับศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์จึงฎีกาไม่ได้ทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพราะต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2371/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแย้งนอกเหนือประเด็นฟ้องเดิม ศาลไม่รับฟ้องแย้งเพราะเป็นคนละเรื่องกัน
โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยชำระหนี้ค่าน้ำมันเครื่องที่จำเลยซื้อไปและค้างชำระบางส่วน แต่ฟ้องแย้งของจำเลยในส่วนที่ว่า โจทก์ได้ตกลงกับจำเลยว่าโจทก์จะออกน้ำมันเครื่องชนิดใหม่ให้จำเลยเป็นผู้เปิดตลาดและทำการโฆษณาขายให้แก่ลูกค้าของจำเลย แต่โจทก์ไม่ผลิตสินค้าดังกล่าวทำให้จำเลยได้รับความเสียหาย เป็นคนละเรื่องไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมชอบที่จำเลยจะฟ้องเป็นคดีต่างหากตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1090/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งต้องเป็นเรื่องเดียวกันกับฟ้องเดิม และเกี่ยวข้องกับคู่ความ มิฉะนั้นศาลไม่รับ
โจทก์ฟ้องว่าซื้อบ้านพร้อมที่ดินพิพาทของ ป. จำเลยเช่าบ้านพิพาทจากภริยาป. ครบกำหนดตามสัญญาเช่าแล้ว โจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยอยู่อีกต่อไปขอให้บังคับจำเลยออกจากบ้านพิพาทและชำระค่าเช่าที่ค้างกับค่าเสียหาย การที่จำเลยฟ้องแย้งว่า ป.ให้คำมั่นว่าจะขายบ้านและที่ดินพิพาทให้จำเลย ขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนระหว่างโจทก์กับ ป. และให้ ป. จดทะเบียนโอนขายให้จำเลยนั้นฟ้องแย้งดังกล่าวเป็นคนละเรื่องคนละประเด็นและไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม ทั้งเป็นการขอให้บังคับบุคคลอื่นที่ไม่ได้เข้ามาเป็นคู่ความด้วย จึงไม่ชอบที่จะรับฟ้องแย้งของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2247/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งต้องมีเหตุโต้แย้งสิทธิ หากไม่มีเหตุโจทก์ผิดสัญญา ศาลไม่รับฟ้อง
ฟ้องแย้งถือเป็นคำฟ้องอย่างหนึ่ง จึงต้องอยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 กล่าวคือ จะต้องมีข้อโต้แย้งสิทธิของจำเลยเกิดขึ้น หากคำฟ้องแย้งไม่ได้บรรยายถึงเหตุที่โจทก์ปฏิบัติผิดสัญญา ย่อมไม่มีข้อโต้แย้งสิทธิอันจะเป็นเหตุให้จำเลยมีสิทธิฟ้องแย้งโจทก์ได้ โจทก์ฟ้องจำเลยตามสัญญาให้สิทธิอาศัย แต่จำเลยฟ้องแย้งตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินระหว่างจำเลยกับ ต. ฟ้องแย้งของจำเลยจึงไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4050/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความซื้อขาย - คำสั่งไม่รับฟ้องมีผลเช่นยกฟ้อง - ขยายอายุความ 6 เดือน
การที่ศาลแพ่งมีคำสั่งไม่รับฟ้องโจทก์เพราะคดีไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแพ่ง เนื่องจากจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่นอกเขตศาลแพ่งและมูลคดีมิได้เกิดในเขตศาลแพ่ง คำสั่งของศาลแพ่งดังกล่าวย่อมมีความหมายเป็นอย่างเดียวกันกับคำว่าศาลยกคดีเสียเพราะเหตุคดีไม่อยู่ในอำนาจศาลตาม ป.พ.พ. มาตรา 176(เดิม)หาใช่ต้องเป็นกรณีที่ศาลรับฟ้องไว้แล้ว ภายหลังต่อมาจึงพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุคดีไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาไม่ เมื่อศาลแพ่งมีคำสั่งไม่รับฟ้องโจทก์ก่อนครบกำหนดอายุความสองวัน จึงต้องขยายอายุความออกไปถึงหกเดือนภายหลังคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3903/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งต้องเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม ศาลไม่รับฟ้องแย้งที่ประเด็นต่างกัน
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องแถวพิพาทของโจทก์ จำเลยฟ้องแย้งว่า โจทก์ปลอมเอกสารเกี่ยวกับห้องแถวพิพาท จำเลยแจ้งความดำเนินคดีแก่โจทก์ โจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยโดยตกลงชดใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยเป็นเงิน 20,200 บาท เมื่อถึงกำหนดโจทก์เพิกเฉย จึงขอให้ศาลบังคับให้ ดังนี้ ข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามคำฟ้องของโจทก์และฟ้องแย้งของจำเลยเป็นคนละเรื่องกัน ฟ้องแย้งของจำเลยจึงเป็นเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมของโจทก์ ชอบที่จะไม่รับฟ้องแย้งของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1332/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแย้งเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองหลังมีคำพิพากษาคดีเดิมแล้ว ศาลฎีกาไม่รับฟ้องแย้ง
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทมาจากเจ้าของเดิม จำเลยอาศัยสิทธิของเจ้าของเดิมปลูกบ้านในที่ดินพิพาทบางส่วน โจทก์แจ้งให้จำเลยรื้อถอนออกไปแล้วจำเลยเพิกเฉย ขอให้ขับไล่จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยครอบครองที่ดินพิพาทต่อจากบิดามารดา ด้วยความสงบเปิดเผย และด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันมาเกินสิบปีย่อมได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทโดยการครอบครอง ขอให้ยกฟ้องและพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย ดังนี้ ฟ้องแย้งของจำเลยเป็นการโต้เถียงเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท จึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับฟ้องเดิมโดยตรง มิใช่เป็นเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม จำเลยย่อมมีสิทธิฟ้องแย้งได้ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฟ้องแย้งแล้วดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปจำเลยอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฟ้องแย้ง แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษากลับให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องแย้งไว้พิจารณาก็ตาม แต่ศาลอุทธรณ์มิได้ทำคำสั่งให้ศาลชั้นต้นงดการพิจารณาไว้ในระหว่างที่จำเลยอุทธรณ์คำสั่งเมื่อคดีเดิมศาลชั้นต้นได้พิจารณาพิพากษาเสร็จจนถึงศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาให้โจทก์ชนะคดีไปแล้ว และคดีอยู่ระหว่างที่จำเลยฎีกาแม้ศาลฎีกาจะเห็นว่าฟ้องแย้งเป็นเรื่องเกี่ยวกับฟ้องเดิมโดยตรงแต่ก็ไม่มีเหตุที่จะให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องแย้ง และรื้อฟื้นพิจารณาพิพากษาประเด็นข้อนี้ใหม่ เพราะถ้าจำเลยเห็นว่า จำเลยได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองก็ชอบที่จำเลยจะดำเนินคดีเรียกร้องได้ เนื่องจากคำพิพากษาคดีเดิมไม่ตัดสิทธิจำเลยที่จะเรียกร้องได้ตามสิทธิของตน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2595/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้อน & อำนาจศาลอุทธรณ์เพิกถอนคำสั่งไม่รับฟ้อง: โจทก์ไม่เป็นโจทก์ในคดีก่อน ไม่เป็นฟ้องซ้อน
คำว่าโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173(1)ซึ่งจะเป็นฟ้องซ้อนนั้น โจทก์ในคดีแรกต้องเป็นโจทก์ในคดีหลังด้วยเมื่อโจทก์ในคดีนี้ของศาลแพ่งไม่ได้เป็นโจทก์ในคดีก่อนของศาลจังหวัดชลบุรี ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้อน คดีนี้เดิมศาลแพ่งมีคำสั่งรับฟ้องของโจทก์ ต่อมาได้ชี้ขาดปัญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นแล้วมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งที่ได้รับฟ้อง เป็นไม่รับฟ้อง ต่อมาศาลอุทธรณ์ยกคำสั่งศาลแพ่งที่เพิกถอนคำสั่งไม่รับฟ้องให้ศาลชั้นต้นรับฟ้อง ดังนี้แม้ศาลอุทธรณ์จะเห็นพ้องกับศาลแพ่งที่สั่งไม่รับฟ้องเพราะฟ้องโจทก์ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 4(1) ก็ตาม แต่เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าศาลแพ่งได้รับฟ้องของโจทก์นัดชี้สองสถานกำหนดให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลเพิ่ม โจทก์เสียค่าขึ้นศาลครบแล้ว เป็นการรับฟ้องโจทก์ไว้โดยอาศัยบทบัญญัติพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 14(4) แล้วก็หาชอบที่จะใช้ดุลพินิจเพิกถอนคำสั่งของตนไม่ ศาลอุทธรณ์จึงชอบที่จะเพิกถอนคำสั่งศาลแพ่งที่ไม่รับฟ้องโจทก์เสียได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2103/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแย้งต้องเกี่ยวกับฟ้องเดิม ศาลไม่รับฟ้องแย้งที่เกี่ยวกับค่าเสียหายในอนาคตและค่าทนาย
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสามประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 31 จำเลยจะฟ้องแย้งมาในคำให้การก็ได้ แต่ถ้าฟ้องแย้งนั้นเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมแล้ว ให้ศาลสั่งให้จำเลยฟ้องเป็นคดีต่างหาก หมายความว่าฟ้องแย้งจะต้องเกี่ยวกับฟ้องเดิม ศาลจึงจะรับฟ้องแย้งไว้พิจารณาได้ โจทก์ในฐานะนายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสามเนื่องจากจำเลยทั้งสามปฏิบัติงานโดยประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้จำเลยทั้งสามชดใช้ค่าเสียหายจำเลยทั้งสามยื่นคำให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายและไม่มีความผิดตามที่โจทก์กล่าวหา และฟ้องแย้งว่า โจทก์ตั้งกรรมการสอบสวนและลงโทษทางวินัยด้วยการตัดเงินเดือน ภาคทัณฑ์ และทำทัณฑ์บนแก่จำเลยทั้งสามตามลำดับเป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ไม่ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน ทำให้ขาดรายได้ โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสามในคดีนี้ทำให้จำเลยต้องเสียเงินว่าจ้างทนายความมาต่อสู้คดี แม้ฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสามกล่าวอ้างว่าการสอบสวนและลงโทษทางวินัยต่อจำเลยทั้งสามเป็นการไม่ถูกต้องเพราะจำเลยทั้งสามไม่ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหาอันเป็นเรื่องเดียวกันกับที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสามในคดีนี้ แต่เมื่อจำเลยทั้งสามอุทธรณ์ขอให้รับฟ้องแย้งส่วนที่เป็นค่าเสียหายที่เป็นตัวเงิน อันได้แก่ค่าขาดรายได้จากการไม่ได้เลื่อนขั้นเงินเดือนและค่าจ้างทนายความ ซึ่งปัญหาที่ว่าเมื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2 ถูกลงโทษทางวินัยแล้วจะไม่ได้เลื่อนขั้นเงินเดือนในปีงบประมาณ 2534 จริงหรือไม่ เป็นจำนวนเท่าใด เป็นข้อเท็จจริงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและยังต้องพิจารณาตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับเรื่องนั้นโดยเฉพาะ จึงเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องของโจทก์ ส่วนฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสามที่ฟ้องเรียกเงินค่าว่าจ้างทนายความมาว่าความในคดีนี้ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะพิจารณาว่าจำเลยทั้งสามได้กระทำโดยประมาทเลินเล่อต้องชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ตามฟ้องหรือไม่ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังที่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามจึงไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมเช่นเดียวกัน.
of 7