พบผลลัพธ์ทั้งหมด 671 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 209/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จกล่าวหาปล้นทรัพย์เพื่อแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษหนักกว่าความเป็นจริง มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
จำเลยเกิดปากเสียงกับนายชิงชองแล้วถูกนายชิงชองชกต่อยเอา แต่จำเลยกลับนำความไปแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่ามีนักเลง 3 คนกลุ้มรุมทำร้ายจำเลย โดยคนหนึ่งใช้ไม้ตี คนหนึ่งล๊อคคออีกคนหนึ่งล้วงเอาเงินในกระเป๋าเสื้อไป 300 บาท ซึ่งเป็นความเท็จ การกระทำของจำเลยเช่นนี้ย่อมเป็นการแกล้งจะให้นายชิงชองต้องรับโทษหนักขึ้นและเป็นการกล่าวหาว่านายชิงชองกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ซึ่งมีระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 10 ปี การกระทำของจำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 174 ประกอบด้วยมาตรา 181 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1669/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในความผิดอาญาของนิติบุคคล: กรรมการผู้จัดการกระทำตามวัตถุประสงค์และเกิดประโยชน์
นิติบุคคลย่อมมีเจตนาในการกระทำผิดทางอาญาได้ ถ้ากรรมการผู้จัดการนิติบุคคลนั้นได้กระทำไปตามวัตถุประสงค์ของนิติบุคคลซึ่งได้จดทะเบียนไว้และนิติบุคคลนั้นได้รับประโยชน์อันเกิดจากการกระทำนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาฐานจ้างวานเบิกความเท็จ: การพิจารณาความเคลือบคลุมของฟ้อง และความสำคัญของพยานหลักฐาน
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยสมคบกันใช้บังคับขู่เข็ญ จ้างวาน หรือยุยงส่งเสริม ให้พยานเบิกความเท็จนั้น ไม่เป็นฟ้องที่ขัดกัน ไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ และไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม ในเมื่อเป็นการบรรยายรายละเอียดการกระทำทั้งหลายที่จำเลยได้กระทำรวมกันไป
พยานเบิกความว่า จำหน้าคนร้ายไม่ได้ และศาลได้พิพากษายกฟ้องเพราะเหตุนี้ ข้อความที่พยานเบิกความนั้น จึงเป็นข้อสำคัญในคดี
ในการจ้างวานและยุยงให้พยานเบิกความเท็จต่อศาลนั้น โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยพูดกับพยานว่าเรื่องนี้ไม่ต้องกลัว เพราะได้ให้พนักงานอัยการ 500 บาท แล้ว เมื่อโจทก์นำสืบกลับสืบว่า ได้ให้ 800 บาท เช่นนี้ เป็นเรื่องพยานโจทก์เบิกความไม่ตรงในรายละเอียดเพียงเล็กน้อย ไม่ใช่ข้อสำคัญอันจะเป็นเหตุให้ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
พยานเบิกความว่า จำหน้าคนร้ายไม่ได้ และศาลได้พิพากษายกฟ้องเพราะเหตุนี้ ข้อความที่พยานเบิกความนั้น จึงเป็นข้อสำคัญในคดี
ในการจ้างวานและยุยงให้พยานเบิกความเท็จต่อศาลนั้น โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยพูดกับพยานว่าเรื่องนี้ไม่ต้องกลัว เพราะได้ให้พนักงานอัยการ 500 บาท แล้ว เมื่อโจทก์นำสืบกลับสืบว่า ได้ให้ 800 บาท เช่นนี้ เป็นเรื่องพยานโจทก์เบิกความไม่ตรงในรายละเอียดเพียงเล็กน้อย ไม่ใช่ข้อสำคัญอันจะเป็นเหตุให้ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1069/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพูดลามกเข้าข่ายความผิดประมวลกฎหมายอาญา ม.388 แม้ไม่ได้กระทำต่อร่างกาย
คำว่า"กระทำการลามกอย่างอื่น" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 นั้นไม่ได้หมายเฉพาะแต่เรื่องเกี่ยวกับร่างกายเท่านั้น ย่อมหมายถึงวาจาด้วย
จำเลยกล่าวคำว่า "เย็ดโคตรแม่มึง"ต่อหน้าธารกำนัลจึงเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 แล้ว
จำเลยกล่าวคำว่า "เย็ดโคตรแม่มึง"ต่อหน้าธารกำนัลจึงเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร้องทุกข์ในความผิดต่อส่วนตัว การให้การพยานไม่ถือเป็นการร้องทุกข์โดยปริยาย
ป.ให้การเป็นพยานในเรื่องที่จำเลยถูกหาว่า ฆ่าคนตาย คำให้การพาดพิงถึงการที่ ป. ถูกจำเลยจับไปกักขังไว้ด้วย จะถือว่าเป็นการร้องทุกข์ว่าจำเลยหน่วงเหนี่ยวกักขังให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ ในร่างกายด้วยโดยปริยาย หาได้ไม่ เมื่อไม่มีการร้องทุกข์ ของผู้เสียหาย แล้ว โจทก์ก็ฟ้องคดีนี้ซึ่งเป็นความผิดต่อส่วนตัวไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 434-435/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจสอบสวนผู้จัดการนิติบุคคล: เมื่อการกระทำมีมูลความผิดอาญา แม้เป็นกิจการบริษัท ก็สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้
เมื่อผู้จัดการของนิติบุคคลกระทำการซึ่งมีมูลเป็นความผิดทางอาญา แม้จะกระทำในกิจการของบริษัทซึ่งเป็นนิติบุคคล ผู้จัดการนั้นก็อาจถูกควบคุมในระหว่างสอบสวนได้ในเมื่อตกเป็นผู้ต้องหา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1811/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฟ้องอาญาฐานวิวาทและการกระทำความผิดอื่นที่ทำให้เสียความสงบเรียบร้อย
บรรยายฟ้องว่า จำเลยวิวาทต่อสู้ทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันในสาธารณสถาน ทำให้เสียความสงบเรียบร้อย ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้ด่าและโต้เถียงกัน ก็ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 372 ได้ ไม่ถือว่าต่างกับฟ้อง เพราะคำว่าวิวาทหมายถึงการโต้เถียง ทุ่มเถียง ทะเลาะกัน ทั้งมาตรา 372 นี้ ยังบัญญัติถึงการกระทำโดยประการอื่นใดให้เสียความสงบเรียบร้อยไว้อีกด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความหมายของคำว่า 'บังอาจ' ในความผิดฐานมีแสตมป์สุราปลอม เพียงพอต่อการฟ้องคดีอาญา
ฟ้องบรรยายว่า จำเลยได้บังอาจมีแสตมป์สุราปลอมและได้เสนอขายแสตมป์สุราปลอมดังกล่าว อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 257 นั้น คำว่าบังอาจพอเป็นที่เข้าใจว่าจำเลยมีแสตมป์สุราปลอมโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของปลอม ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเท็จโดยรู้อยู่ว่าข้อเท็จจริงเป็นเท็จ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175
มาตรา 175 แห่งประมวลกฎหมายอาญา บัญญัติเพียงว่า เอาความอันเป็นเท็จฟ้องกล่าวหาเขาในทางอาญาเท่านั้นก็เป็นความผิด มิได้บัญญัติว่า เป็นความเท็จที่จะทำให้มีความผิดทางอาญา ทั้งนี้ ก็เพื่อหวังจะป้องกันมิให้แกล้งกล่าวหากันในทางอาญา อันจะทำให้ผู้ถูกกล่าวหาถูกฟ้องได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ฉะนั้น เมื่อจำเลยแกล้งฟ้องโดยรู้อยู่แก่ใจแล้วว่า เป็นความเท็จจึงย่อมมีความผิดตามมาตรานี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฟ้องเท็จตามมาตรา 175 อาญา: การกล่าวหาโดยรู้อยู่ว่าเป็นเท็จ
มาตรา 175 แห่งประมวลกฎหมายอาญา บัญญัติเพียงว่าเอาความอันเป็นเท็จฟ้องกล่าวหาเขาในทางอาญาเท่านั้นก็เป็นความผิดมิได้บัญญัติว่า เป็นความเท็จที่จะทำให้มีความผิดทางอาญาทั้งนี้ ก็เพื่อหวังจะป้องกันมิให้แกล้งกล่าวหากันในทางอาญาอันจะทำให้ผู้ถูกกล่าวหาถูกฟ้องได้รับความเดือดร้อนเสียหายฉะนั้น เมื่อจำเลยแกล้งฟ้องโดยรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าเป็นความเท็จจึงย่อมมีความผิดตามมาตรานี้