พบผลลัพธ์ทั้งหมด 553 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1073/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าห้องเพื่อประกอบการค้า vs. ที่อยู่อาศัย: การคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
จำเลยเช่าห้องพิพาท โดยมีข้อสัญญาว่าเพื่อใช้อยู่อาศัยและประกอบการค้า ห้องพิพาทอยู่ในทำเลการค้าจากห้องพิพาทไปข้างละ 5 เส้นล้วนเป็นห้องที่มีการค้าและอยู่อาศัยด้วย ไม่มีห้องอยู่อาศัยเฉยๆ จำเลยมีอาชีพค้าผ้าเสียภาษีร้านค้า มีป้ายโฆษณาว่าจำหน่ายสินค้าหน้าร้าน จำเลยจึงหาได้เช่าเพื่อเจตนาใช้เป็นที่อยู่อาศัยไม่ ไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 961/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีโรงเรือนต้องมีเหตุผลรองรับ เมื่อจำเลยรับค่าเช่าจริงแล้ว จำเลยต้องพิสูจน์ว่าค่าเช่าไม่สมควร
โจทก์ฟ้องอ้างว่า อาคารของโจทก์อยู่ในเขตเทศบาลถูกควบคุม ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ได้ค่าเช่าจริงในปี 1 เป็นจำนวนเงินจำนวนหนึ่ง แต่จำเลยซึ่งเป็นเทศบาลประเมินเกินกว่าค่าเช่าจริง จึงเรียกเก็บภาษีจากโจทก์ไป เกิน โจทก็ได้ร้องขอให้พิจารณาประเมินใหม่แล้ว ก็ยังชี้ขาดให้โจทก์เสียภาษีเกินอยู่นั่นเอง โจทก์จึงฟ้องขอให้ศาล บังคับให้จำเลยคืนส่วนที่เกินให้.
จำเลยรับว่า โจทก์เก็บค่าเช่าได้ตามบัญชีท้ายฟ้องจริง แต่อ้างว่าจำเลยและพนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยได้ปฏิบัติ ถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย และกำหนดค่ารายปีโรงเรือนและที่ดินของโจทก์ เหมาะสมถูกต้องแล้ว ดังนี้ ข้อที่ ต้องพิจารณาจึงมีว่าค่าเช่าโรงเรือนของโจทก์นี้มีเหตุอันบ่งให้เห็นว่ามิใช่จำนวนอันสมควรที่จะเช่าได้ในปีหนึ่ง ๆ จริง หรือไม่ เมื่อจำเลยรับว่าโจทก์เก็บค่าเช่าได้ตามบัญชีท้ายฟ้องจริง การที่จำเลยจะประเมินภาษีใหม่ ก็ต้องมีเหตุ ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ เหตุดังกล่าวเป็นหน้าที่จำเลยต้องนำสืบ แต่จำเลยไม่นำสืบแสดงว่าค่าเช่าที่โจทก์ได้รับ มิใช่ จำนวนตามสมควรแต่ประการใด จำเลยจึงต้องแพ้คดี./
จำเลยรับว่า โจทก์เก็บค่าเช่าได้ตามบัญชีท้ายฟ้องจริง แต่อ้างว่าจำเลยและพนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยได้ปฏิบัติ ถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย และกำหนดค่ารายปีโรงเรือนและที่ดินของโจทก์ เหมาะสมถูกต้องแล้ว ดังนี้ ข้อที่ ต้องพิจารณาจึงมีว่าค่าเช่าโรงเรือนของโจทก์นี้มีเหตุอันบ่งให้เห็นว่ามิใช่จำนวนอันสมควรที่จะเช่าได้ในปีหนึ่ง ๆ จริง หรือไม่ เมื่อจำเลยรับว่าโจทก์เก็บค่าเช่าได้ตามบัญชีท้ายฟ้องจริง การที่จำเลยจะประเมินภาษีใหม่ ก็ต้องมีเหตุ ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ เหตุดังกล่าวเป็นหน้าที่จำเลยต้องนำสืบ แต่จำเลยไม่นำสืบแสดงว่าค่าเช่าที่โจทก์ได้รับ มิใช่ จำนวนตามสมควรแต่ประการใด จำเลยจึงต้องแพ้คดี./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 961/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดิน ต้องมีเหตุผลสมควรและมีหลักฐานสนับสนุน หากจำเลยรับค่าเช่าตามบัญชีแล้ว จำเลยต้องพิสูจน์เหตุผลในการประเมินใหม่
โจทก์ฟ้องอ้างว่า อาคารของโจทก์อยู่ในเขตเทศบาลถูกควบคุม ตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ได้ค่าเช่าจริงในปี 1 เป็นจำนวนเงินจำนวนหนึ่ง แต่จำเลยซึ่งเป็นเทศบาลประเมินเกินกว่าค่าเช่าจริง จึงเรียกเก็บภาษีจากโจทก์ไปเกิน โจทก์ได้ร้องขอให้พิจารณาประเมินใหม่แล้ว ก็ยังชี้ขาดให้โจทก์เสียภาษีเกินอยู่นั่นเอง โจทก์จึงฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยคืนส่วนที่เกินให้
จำเลยรับว่า โจทก์เก็บค่าเช่าได้ตามบัญชีท้ายฟ้องจริง แต่อ้างว่าจำเลยและพนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยได้ปฏิบัติถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย และกำหนดค่ารายปีโรงเรือนและที่ดินของโจทก์ เหมาะสมถูกต้องแล้ว ดังนี้ ข้อที่ต้องพิจารณาจึงมีว่าค่าเช่าโรงเรือนของโจทก์นี้มีเหตุอันบ่งให้เห็นว่ามิใช่จำนวนอันสมควรที่จะให้เช่าได้ในปีหนึ่งๆ จริงหรือไม่ เมื่อจำเลยรับว่าโจทก์เก็บค่าเช่าได้ตามบัญชีท้ายฟ้องจริง การที่จำเลยจะประเมินภาษีใหม่ ก็ต้องมีเหตุตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ เหตุดังกล่าวเป็นหน้าที่จำเลยต้องนำสืบ แต่จำเลยไม่นำสืบแสดงว่าค่าเช่าที่โจทก์ได้รับ มิใช่จำนวนตามสมควรแต่ประการใด จำเลยจึงต้องแพ้คดี
จำเลยรับว่า โจทก์เก็บค่าเช่าได้ตามบัญชีท้ายฟ้องจริง แต่อ้างว่าจำเลยและพนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยได้ปฏิบัติถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย และกำหนดค่ารายปีโรงเรือนและที่ดินของโจทก์ เหมาะสมถูกต้องแล้ว ดังนี้ ข้อที่ต้องพิจารณาจึงมีว่าค่าเช่าโรงเรือนของโจทก์นี้มีเหตุอันบ่งให้เห็นว่ามิใช่จำนวนอันสมควรที่จะให้เช่าได้ในปีหนึ่งๆ จริงหรือไม่ เมื่อจำเลยรับว่าโจทก์เก็บค่าเช่าได้ตามบัญชีท้ายฟ้องจริง การที่จำเลยจะประเมินภาษีใหม่ ก็ต้องมีเหตุตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ เหตุดังกล่าวเป็นหน้าที่จำเลยต้องนำสืบ แต่จำเลยไม่นำสืบแสดงว่าค่าเช่าที่โจทก์ได้รับ มิใช่จำนวนตามสมควรแต่ประการใด จำเลยจึงต้องแพ้คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าการค้าหมดอายุ แม้มีที่อยู่อาศัยรวมด้วย ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าตึกทำการค้าในทำเลการค้า แม้จะอยู่อาศัยด้วยก็ไม่เป็นเคหะอันจะได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯ
ผู้ให้เช่าเรียกค่าเช่าสูงขึ้น ผู้เช่าไม่ยอมให้ผู้ให้เช่าจึงมาฟ้องเลิกสัญญาเช่า ไม่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
ผู้ให้เช่าเรียกค่าเช่าสูงขึ้น ผู้เช่าไม่ยอมให้ผู้ให้เช่าจึงมาฟ้องเลิกสัญญาเช่า ไม่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856-857/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีร้านค้าต้องอ้างอิงค่าเช่าที่สมควรตามวิญญูชนธรรมดา ไม่ใช่ราคาที่สูงเกินจริง
การประเมินเก็บภาษีร้านค้านั้น ต้องอาศัยความจริงแห่งประโยชน์ที่บังเกิดจากทรัพย์สิน อันเป็นมูลที่จะเก็บภาษี
หลักที่จะคำนวณค่ารายปีในชั้นแรกก็คือ จำนวนเงินซึ่งร้านค้านั้นสมควรให้เช่าได้ในปีหนึ่ง ๆ เท่าใด ซึ่งจะเล็งเห็น ได้จากความคิดเห็นของวิญญูชนธรรมดาตามกาละเทศะ และมุ่งเอาความจริงเป็นหลัก ถ้าทางเจ้าหน้าที่สรรพากร เรียกประเมินเกินไปแล้ว ผู้เสียภาษีก็ย่อมมีสิทธิขอคืนได้./
หลักที่จะคำนวณค่ารายปีในชั้นแรกก็คือ จำนวนเงินซึ่งร้านค้านั้นสมควรให้เช่าได้ในปีหนึ่ง ๆ เท่าใด ซึ่งจะเล็งเห็น ได้จากความคิดเห็นของวิญญูชนธรรมดาตามกาละเทศะ และมุ่งเอาความจริงเป็นหลัก ถ้าทางเจ้าหน้าที่สรรพากร เรียกประเมินเกินไปแล้ว ผู้เสียภาษีก็ย่อมมีสิทธิขอคืนได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856-857/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีร้านค้าต้องอิงค่าเช่าที่สมควรตามวิญญูชนและข้อเท็จจริง
การประเมินเก็บภาษีร้านค้านั้น ต้องอาศัยความจริงแห่งประโยชน์ที่บังเกิดจากทรัพย์สิน อันเป็นมูลที่จะเก็บภาษี
หลักที่จะคำนวณค่ารายปีในชั้นแรกก็คือ จำนวนเงินซึ่งร้านค้านั้นสมควรให้เช่าได้ในปีหนึ่งๆ เท่าใด ซึ่งจะพึงเห็นได้จากความคิดเห็นของวิญญูชนธรรมดาตามกาละเทศะและมุ่งเอาความจริงเป็นหลัก ถ้าทางเจ้าหน้าที่สรรพากรเรียกประเมินเกินไปแล้ว ผู้เสียภาษีก็ย่อมมีสิทธิขอคืนได้
หลักที่จะคำนวณค่ารายปีในชั้นแรกก็คือ จำนวนเงินซึ่งร้านค้านั้นสมควรให้เช่าได้ในปีหนึ่งๆ เท่าใด ซึ่งจะพึงเห็นได้จากความคิดเห็นของวิญญูชนธรรมดาตามกาละเทศะและมุ่งเอาความจริงเป็นหลัก ถ้าทางเจ้าหน้าที่สรรพากรเรียกประเมินเกินไปแล้ว ผู้เสียภาษีก็ย่อมมีสิทธิขอคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 315/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซ่อมแซมแล้วเข้าอยู่: สิทธิผู้เช่ายังคงมีอยู่แม้คนกลางปฏิเสธกำหนดค่าเช่า ผู้ให้เช่าผิดสัญญาเมื่อให้ผู้อื่นเช่า
ผู้เช่าและผู้ให้เช่าทำสัญญายอมความกันว่า ผู้เช่ายอมออกจากห้องเช่าชั่วคราวเพื่อให้เจ้าของห้อง คือผู้ให้เช่าทำการซ่อมแซมห้องเช่าเมื่อซ่อมแล้ว ผู้ให้เช่ายอมให้ผู้เช่าเข้ามาอยู่ในห้องที่เคยเช่าได้ ส่วนอัตราค่าเช่าตกลงกันให้คนกลางกำหนด ดังนี้ เป็นสัญญากันครบถ้วนตั้งแต่วันทำสัญญายอมความกันแล้ว
แม้คนกลางจะไม่ยอมเป็นผู้กำหนดอัตราค่าเช่าให้สิทธิของผู้เช่าที่จะเข้าอยู่ในห้องพิพาทก็ยังคงมีอยู่ส่วนอัตราค่าเช่าคู่กรณีมีทางที่จะขอให้ศาลชี้ขาดได้ฉะนั้นเมื่อฝ่ายผู้ให้เช่าได้นำห้องพิพาทไปให้ผู้อื่นเช่าเสียผู้ให้เช่าจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา แต่ผู้เช่าจะฟ้องศาลขอเข้าอยู่ในห้องพิพาทนั้นบุคคลภายนอกได้เข้าอยู่เสียแล้วจึงเป็นเรื่องวัตถุแห่งหนี้ ไม่เปิดช่องให้บังคับได้ผู้เช่าคงฟ้องได้แต่เรียกค่าเสียหายจากผู้ให้เช่า
แม้คนกลางจะไม่ยอมเป็นผู้กำหนดอัตราค่าเช่าให้สิทธิของผู้เช่าที่จะเข้าอยู่ในห้องพิพาทก็ยังคงมีอยู่ส่วนอัตราค่าเช่าคู่กรณีมีทางที่จะขอให้ศาลชี้ขาดได้ฉะนั้นเมื่อฝ่ายผู้ให้เช่าได้นำห้องพิพาทไปให้ผู้อื่นเช่าเสียผู้ให้เช่าจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา แต่ผู้เช่าจะฟ้องศาลขอเข้าอยู่ในห้องพิพาทนั้นบุคคลภายนอกได้เข้าอยู่เสียแล้วจึงเป็นเรื่องวัตถุแห่งหนี้ ไม่เปิดช่องให้บังคับได้ผู้เช่าคงฟ้องได้แต่เรียกค่าเสียหายจากผู้ให้เช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แม้เจ้าของที่ดินชนะคดีรื้อถอน แต่ผู้เช่าห้องแถวได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายควบคุมค่าเช่า
เจ้าของที่ดินปลูกห้องแถวลงบนที่ดินให้คนเช่าอยู่อาศัย ต่อมาเจ้าของที่ดินโอนขายเฉพาะห้องแถวให้ผู้อื่นไป ผู้รับซื้อคงเก็บค่าเช่าห้องจากผู้อยู่ต่อไป และเช่าที่ดินกับเจ้าของที่ดิน ดังนี้แม้เจ้าของที่ดินจะฟ้องผู้รับซื้อห้องแถวให้รื้อถอนห้องแถวนั้นไปจากที่ดิน และศาลพิพากษาให้เจ้าของที่ดินชนะคดี ก็ตาม ผู้เช่าห้องแถวนั้นอยู่ดังกล่าว ก็ยังได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ไม่ต้องออกจากห้องเช่าไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 660/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเช่าที่ตกลงกันได้, หลักฐานค่าเช่าจากคำให้การ, และอำนาจฟ้องแทนบุตร
ผู้เช่าเคยฟ้องผู้ให้เช่าหาว่าผู้ให้เช่านี้ขึ้นค่าเช่าผิดกฎหมายแต่ศาลพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่า การขึ้นค่าเช่าเป็นด้วยความสมัครใจทั้งสองฝ่าย ย่อมทำได้หาเป็นการผิดกฎหมายไม่ และปรากฎในคำให้การของผู้เช่าในคดีนั้นว่า ผู้เช่าได้ให้ค่าเช่าแก่ฝ่ายผู้ให้เช่าไปตามที่เรียกร้องแล้ว ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าคำให้การของผู้เช่าในคดีดังกล่าว เป็นหลักฐาน เป็นหนังสือที่ลงลายมือชื่อผู้เช่าตามที่กฎหมายต้องการแล้ว ผู้ให้เช่าย่อมใช้เป็นหลักฐานฟ้องเรียกค่าเช่าจากผู้ให้เช่าได้
บิดาผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตร มีสิทธิที่จะมอบอำนาจให้ผู้อื่นฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากห้องเช่าของบุตรได้
บิดาผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตร มีสิทธิที่จะมอบอำนาจให้ผู้อื่นฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากห้องเช่าของบุตรได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 660/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานค่าเช่าจากคำให้การเดิม & อำนาจฟ้องแทนบุตร
ผู้เช่าเคยฟ้องผู้ให้เช่าหาว่าผู้ให้เช่าขึ้นค่าเช่าผิดกฎหมายแต่ศาลพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่า การขึ้นค่าเช่าเป็นด้วยความสมัครใจทั้งสองฝ่าย ย่อมทำได้หาเป็นการผิดกฎหมายไม่ และปรากฏในคำให้การของผู้เช่าในคดีนั้นว่า ผู้เช่าได้ให้ค่าเช่าแก่ฝ่ายผู้ให้เช่าไปตามที่เรียกร้องแล้ว ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าคำให้การของผู้เช่าในคดีดังกล่าว เป็นหลักฐานเป็นหนังสือที่ลงลายมือชื่อผู้เช่าตามที่กฎหมายต้องการแล้ว ผู้ให้เช่าย่อมใช้เป็นหลักฐานฟ้องเรียกค่าเช่าจากผู้ให้เช่าได้
บิดาผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตร มีสิทธิที่จะมอบอำนาจให้ผู้อื่นฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากห้องเช่าของบุตรได้
บิดาผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตร มีสิทธิที่จะมอบอำนาจให้ผู้อื่นฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากห้องเช่าของบุตรได้