พบผลลัพธ์ทั้งหมด 507 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกพยานตำรวจ: ศาลชอบด้วยกฎหมายเมื่อไม่ได้เพิ่มเติมคำพยานโจทก์เพื่อลงโทษจำเลย
ศาลชั้นต้นได้เรียกนายตำรวจผู้หนึ่งมาเป็นพยานของศาล เพราะปรากฏตามหลักฐานของโจทก์ที่เกี่ยวโยงมาถึงนายตำรวจผู้นั้น ก็เฉพาะเหตุที่นายตำรวจผู้นั้นไปร่วมอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอื่นในขณะที่กำลังจับกุมจำเลย โจทก์ก็ได้สืบเจ้าหน้าที่ตำรวจประกอบกับบันทึกการจับกุมไว้แล้ว การที่สืบนายตำรวจเป็นพยานของศาลจึงมิใช่ลักษณะที่จะเพิ่มเติมคำพยานโจทก์เพื่อลงโทษจำเลย จึงเป็นการชอบด้วยประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 228
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 935/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายเมื่อถูกทำร้าย และการเข้าค้นบ้านโดยไม่มีหมายค้น
นายตรวจสรรพสามิตกับพลตำรวจไม่มีอำนาจค้นจับสุราเถื่อนในเขตบ้านบุคคลโดยไม่มีหมายค้น พลตำรวจใช้ปืนกระแทกจำเลยจำเลยใช้มีดแทงป้องกันตัว ไม่เป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลือกตั้งเป็นไปโดยชอบหรือไม่ แม้มีการสั่งงดคะแนนเสียงในบางหน่วย เหตุผลคือ บัตรผู้สมัครหาย และไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงตัวผู้ได้รับเลือก
การที่กรรมการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยเลือกตั้งสั่งงดการส่งคะแนนเสียเฉพาะหน่วยนั้น เพราะบัตรเลขหมายประจำตัวผู้สมัครบางคนหายไป จะให้ฟังว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยชอบหาได้ไม่ เพราะเป็นหน้าที่ของกรรมการที่เกี่ยวข้อง จะต้องใช้ความระมัดระวังมิให้เกิดการบกพร่องดังกล่าว
แต่สำหรับหน่วยเลือกตั้งที่มิได้มีการลงคะแนนนี้ ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งทั้งหมดมีจำนวนเพียง 1,550 คน เท่านั้น ฉะนั้นถึงแม้ผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดจะมาใช้สิทธิของตนก็ดี ก็จะไม่มีผลเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลที่ได้รับเลือกตั้งดังที่ได้ประกาศผลไปแล้วเพราะในจำนวนผู้แทนราษฎรที่ได้รับเลือก 5 คนนั้น คนที่อยู่ในอันดับ 5 ได้คะแนนถึง 41,080 คะแนน สูงกว่าผู้ที่อยู่ในอันดับ 6 ถึง 11,568 คะแนน ยังไม่มีเหตุสมควรที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่.
แต่สำหรับหน่วยเลือกตั้งที่มิได้มีการลงคะแนนนี้ ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งทั้งหมดมีจำนวนเพียง 1,550 คน เท่านั้น ฉะนั้นถึงแม้ผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดจะมาใช้สิทธิของตนก็ดี ก็จะไม่มีผลเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลที่ได้รับเลือกตั้งดังที่ได้ประกาศผลไปแล้วเพราะในจำนวนผู้แทนราษฎรที่ได้รับเลือก 5 คนนั้น คนที่อยู่ในอันดับ 5 ได้คะแนนถึง 41,080 คะแนน สูงกว่าผู้ที่อยู่ในอันดับ 6 ถึง 11,568 คะแนน ยังไม่มีเหตุสมควรที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 539/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้ป้องกันตัวชอบด้วยกฎหมาย: กรณีถูกกลุ้มรุมทำร้าย
ผู้ตายกับพวกโกรธจำเลย เมื่อผู้ตายกับพวกพบจำเลยมาคนเดียวก็กลุ้มรุมจะทำร้ายจำเลย ๆ จึงต้องต่อสู้ป้องกันตัว ผู้ตายถูกมีดจำเลย และแล้วก็ตาย การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 503/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความแบ่งมรดก: การตกลงแบ่งที่ดินโดยชอบตามกฎหมาย
โจทก์จำเลยร่วมกันทำหนังสือถึงนายอำเภอขอให้จัดการทำนิติกรรมแบ่งที่ดินซึ่งเป็นมรดกตามที่ตกลงกันไว้เช่นนี้ เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยชอบตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 850
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 795/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกียรติยศชื่อเสียงโดยชอบด้วยกฎหมาย: การกระทำเพื่อป้องกันการละเมิดทางเพศ
การที่หญิงมีสามีอายุ 28 ปีถูกชายอายุ 24 ปีฉุดกอดปล้ำต่อหน้าผู้คนโดยหญิงไม่ยินยอมโดยได้พยายามดิ้นรนขัดขวางและร้องห้ามชายนั้นก็ยังขืนกอดและฉุดอยู่อีกเมื่อหญิงดิ้นสบัดหลุดจึงใช้มีดปลอกปากกาหมึกซึมแทงไปเพียงทีเดียวถูกช่องซี่โครงชายนั้นกว้าง 1 ซม.ยาว 2ซม.และไปถูกอวัยวะสำคัญทำให้ชายนั้นถึงตายดังนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันเกียรติยศชื่อเสียงพอสมควรแก่เหตุตาม มาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 179/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีซ้ำหลังคำพิพากษายกฟ้องที่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ การฟ้องคดีใหม่จึงชอบด้วยกฎหมาย
คดีเดิมเรื่องแรกที่ศาลพิพากษายกฟ้องเปิดช่องไว้ว่าไม่ตัดสิทธิ์โจทก์ที่จะฟ้องคดีใหม่ จำเลยจึงอุทธรณ์ แล้วต่อมาจึงขอถอนอุทธรณ์ ส่วนอีกเรื่องหนึ่งนั้นโจทก์ฟ้องหลังระหว่างที่คดีแรกอยู่ระหว่างอุทธรณ์ศาลพิพากษายกฟ้อง(เพราะต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.173) ไม่มีอุทธรณ์คดีถึงที่สุดก่อนคดีแรกทั้งคดีหลังนี้มิดได้กระทบกระเทือนข้อวินิจฉัยคดีนี้
การที่โจทก์ฟ้องคดีปัจจุบันนี้ก็เนื่องจากคำพิพากษาคดีแรกเปิดช่องช่องไว้ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องใหม่โจทก์ย่อมฟ้องคดีได้.
การที่โจทก์ฟ้องคดีปัจจุบันนี้ก็เนื่องจากคำพิพากษาคดีแรกเปิดช่องช่องไว้ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องใหม่โจทก์ย่อมฟ้องคดีได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 190/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การแทงและการยิงตอบโต้
เมื่อปรากฎว่านายก๊กแทงนายเอี้ยมแล้ววิ่งออกไป กลับหยุดและเดินเข้ามาหานายเอี้ยมอีก นายเอี้ยมจึงใช้ปืนยิงเอา 1 นัดดังนี้ การกระทำของนายเอี้ยมเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 18/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: กรณีเข้าใจผิดว่าผู้ตายเป็นคนร้าย
ผู้ตายเข้ามาในห้างนาจำเลยเวลากลางคืนจำเลยเข้าใจว่าเป็นคนร้ายและที่ตรงนั้นมืดไม่ทราบว่าผู้ตายมีอาวุธหรือไม่ จำเลยจึงฟันผู้ตายที่ศีรษะและหน้าหลายทีการกระทำของจำเลยย่อมเป็นการป้องกันตัวและทรัพย์สินเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ไม่เป็นการเกินกว่าเหตุก็ต้องยกฟ้องโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1442/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การแทงเพื่อป้องกันภัยจากผู้บุกรุกในเวลากลางคืน
ผู้ตายห้อยโหนลงมาจากหน้าต่างเรือนของจำเลยในเวลาดึกดื่น (ผู้ตายกับพี่สาวจำเลยผูกสมัครรักใคร่กัน) ทั้งเป็นเวลาเดือนมืดและได้ลงมายืนประจันหน้ากับจำเลย พฤติการณ์เช่นนี้ย่อมทำให้จำเลยเข้าใจว่าผู้ที่ยืนอยู่นั้นเป็นขโมยขึ้นลักทรัพย์และอาจทำร้ายจำเลย และไม่รู้ได้ว่าผู้นั้นไม่มีอาวุธร้ายแรงที่พอจะทำลายชีวิตจำเลยได้
เมื่อจำเลยแทงผู้ที่ยืนประจันหน้าไปเสียก่อน เช่นนี้ย่อมเป็นการกระทำเพื่อป้องกันชีวิตของตน อนึ่งแม้จะแทงโดยแรงโดยอาจแลเห็นผลว่าจะทำให้ผู้นั้นถึงตายได้ก็ตามก็เป็นการกระทำในเวลาฉุกเฉิน จึงไม่เป็นการกระทำเกินสมควรแก่เหตุ เป็นการกระทำที่ได้รับยกเว้นอาญาตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 50
เมื่อจำเลยแทงผู้ที่ยืนประจันหน้าไปเสียก่อน เช่นนี้ย่อมเป็นการกระทำเพื่อป้องกันชีวิตของตน อนึ่งแม้จะแทงโดยแรงโดยอาจแลเห็นผลว่าจะทำให้ผู้นั้นถึงตายได้ก็ตามก็เป็นการกระทำในเวลาฉุกเฉิน จึงไม่เป็นการกระทำเกินสมควรแก่เหตุ เป็นการกระทำที่ได้รับยกเว้นอาญาตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 50