คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ซื้อขายที่ดิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 491 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 982/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บอกล้างนิติกรรมซื้อขายที่ดินเกินกำหนดระยะเวลาตามกฎหมาย
ที่ดินมีชื่อภรรยาผู้เดียวภรรยาได้เอาที่ดินนั้นไปจำนองต่อบุคคลอื่นหลายครั้งหลายหนตลอดจนโอนหลุดเป็นสิทธิแก่ผู้รับจำนอง แล้วขอซื้อกลับคืนมาและขายให้แก่ผู้มีชื่อไป ผู้ซื้อรับซื้อไว้โดยสุจริต ซื้อขายกันแล้ว ภรรยาได้เช่าที่ดินบ้านเรือนรายพิพาทอยู่ร่วมกับสามีนานถึง 5 ปี สามีจึงเพิ่งบอกล้างนิติกรรมซื้อขายที่พิพาทนี้ ดังนี้ เป็นการบอกล้างเมื่อพ้นเวลาปีหนึ่ง นับแต่เวลาที่จะอาจให้สัตยาบันได้จึงต้องห้ามมิให้บอกล้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 143

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834-835/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินมีตราจองต้องทำที่หอทะเบียนที่ดิน มิฉะนั้นเป็นโมฆะ และการได้สิทธิครอบครองปรปักษ์
การทำสัญญาซื้อขายที่ดินที่มีตราจองแล้ว ต้องทำกัน ณ ที่หอทะเบียนที่ดิน จึงจะสมบูรณ์ จะทำกันที่อำเภอไม่ได้ตกเป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 421/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมซื้อขายที่ดิน: สิทธิของเด็กและเจตนาซื้อขายทั้งแปลง
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมกันในศาลว่า จำเลยยอมซื้อที่ดินพิพาททั้งแปลงเป็นเงิน 23,000 บาท ต่อมาฝ่ายโจทก์ยืนคำร้องต่อศาลว่า ที่พิพาทมีชื่อบุตรโจทก์เป็นเจ้าของอยู่ด้วย ขอให้ศาลสั่งว่าสัญญาประนีประนอมดังกล่าวไม่ผูกพันทรัพย์ส่วนของบุตร ศาลไต่สวนแล้วสั่งว่าสัญญาประนีประนอมระหว่างโจทก์จำเลย ไม่ผูกพันส่วนของเด็ก ฝ่ายจำเลยจึงขอชำระราคาที่ดินเพียง 11,500 บาทครึ่งราคาทั้งหมดดังนี้ ฝ่ายโจทก์จะให้จำเลยชำระราคาที่ดินเต็ม 23,000 บาท ย่อมไม่ได้ เพราะตนยอมขายที่ดินให้จำเลยเพียงครึ่งเดียว ซึ่งฝ่ายจำเลยจะไม่ซื้อเสียทั้งหมดก็ย่อมทำได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินเป็นโมฆะ ผู้ขายฟ้องเรียกคืนโดยบิดเบือนข้อเท็จจริง ศาลยกฟ้อง
แม้การซื้อขายที่บ้านให้แก่กัน โดยทำหนังสือซื้อขายกันเอง เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นโมฆะ และผู้ซื้อเข้าครอบครองยังไม่ถึง 10 ปีก็ตาม แต่ผู้ขายกลับมาฟ้องเรียกที่ดินคืนโดยอ้างว่า ผู้ซื้ออาศัยอยู่ ซึ่งไม่ใช่ความจริง ผู้ขายบิดผันปิดบังความจริงแห่งการซื้อขายจะเอาที่ดินคืนเปล่าๆ ดังนี้ ถือได้ว่า ผู้ขายสืบไม่สมฟ้อง ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1961/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินโดยมิได้รับความยินยอมจากเจ้าของร่วม และการใช้สิทธิไม่สุจริตของผู้ซื้อ
มารดาเอาที่ดินที่ตนและบุตรเป็นเจ้าของร่วมกันไปขอทำสัญญาขายให้แก่ผู้อื่น ทางอำเภอจึงประกาศโฆษณา การขาย บุตรจึงไปร้องคัดค้านจนทางอำเภอสั่งระงับการทำสัญญาซื้อขายไว้ผู้จะซื้อจึงเลี่ยงมาขออำนาจศาล ฟ้องมารดาให้โอนขายที่นั้นตามสัญญา แล้วทำยอมกัน ศาลพิพากษาให้โอนขายกันตามยอม แล้วแจ้งให้อำเภอทำสัญญาซื้อขายให้ ดังนี้ ย่อมได้ชื่อว่าผู้ซื้อใช้สิทธิไม่สุจริต ผู้ซื้อจะเถียงว่าตนรับซื้อไว้โดยสุจริตควรได้สิทธิทางทะเบียนหาได้ไม่นิติกรรมซื้อขายนั้น ย่อมไม่ผูกพันที่ดินส่วนของบุตรด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1961/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินโดยไม่สุจริตและผลกระทบต่อสิทธิในที่ดินส่วนของผู้อื่น
มารดาเอาที่ดินที่ตนและบุตรเป็นเจ้าของร่วมกันไปขอทำสัญญาขายให้แก่ผู้อื่น ทางอำเภอจึงประกาศโฆษณาการขาย บุตรจึงไปร้องคัดค้านจนทางอำเภอสั่งระงับการทำสัญญาซื้อขายไว้ ผู้จะซื้อจึงเลี่ยงมาขออำนาจศาล ฟ้องมารดาให้โอนขายที่นั้นตามสัญญา แล้วทำยอมกัน ศาลพิพากษาให้โอนขายกันตามยอม แล้วแจ้งให้อำเภอทำสัญญาซื้อขายให้ ดังนี้ ย่อมได้ชื่อว่าผู้ซื้อใช้สิทธิไม่สุจริต ผู้ซื้อจะเถียงว่าตนรับซื้อไว้โดยสุจริตควรได้สิทธิทางทะเบียนหาได้ไม่ นิติกรรมซื้อขายนั้นย่อมไม่ผูกพันที่ดินส่วนของบุตรด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินยังไม่จดทะเบียน & สิทธิครอบครองจากการชำระราคา - ศาลต้องฟังพยานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องเรียกที่ดินส่วนของโจทก์ตามที่มีชือในโฉนดคืนจากจำเลย ๆต่อสู้ว่า โจทก์ขายที่ดินส่วนของโจทก์ให้จำเลยแล้วและมอบที่ดินส่วนนั้นให้จำเลยครอบครองไปจนกว่าจะได้จัดการโอนกรรมสิทธิให้แก่จำเลย ดังนี้ ประเด็นย่อมมีถึงว่าจำเลยจะมีสิทธิยึดถือที่ดินรายนี้ไว้ได้ต่อไปหรือไม่ด้วย ฉะนั้นศาลจำต้องฟังคำพยานโจทก์และจำเลยตามฟ้องและคำให้การต่อสู้ก่อน จะงดสืบพยานเสียโดยตัดสินให้จำเลยคืนที่ดินแก่โจทก์เพราะถือว่าโจทก์มีชื่อในโฉนดและการซื้อขายมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1739/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินโดยไม่มีอำนาจ แม้ผู้ซื้อสุจริตก็ไม่ทำให้สิทธิเจ้าของที่ดินสิ้นไป
เอาที่ดินมือเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญของผู้อื่นไปขายโดยไม่มีอำนาจ แม้ผู้ซื้อจะรับซื้อไว้โดยสุจริต ผู้ซื้อก็จะอ้างการซื้อขายซึ่งทำต่อพนักงานเจ้าหน้าที่มาทำลายสิทธิของเจ้าของที่นั้นหาได้ไม่ กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1619/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินและการเพิกถอนนิติกรรมเนื่องจากจำเลยรู้ถึงสิทธิของผู้ซื้อเดิม
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินกันโดยผู้ขายได้รับชำระราคาที่ดินแล้ว แต่ยังทำโอนไม่ได้เพราะพนักงานที่ดินส่งโฉนดไปยังกรมที่ดินเสีย ผู้ขายจึงมอบที่ดินที่ขายให้ผู้ซื้อครอบครองไปพลางก่อนจนกว่า กรมที่ดินจะส่งโฉนดคืนมาจึงจะทำโอนกัน ผู้ซื้อจึงได้เข้าครอบครองที่ดินนั้นตลอดมา 4 ปีเศษ ดังนี้ ถือได้ว่าผู้ซื้ออยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนเกี่ยวกับที่ดินนั้นได้ก่อนแล้วตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1300

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินโดยไม่สุจริตและการครอบครองปรปักษ์ ศาลต้องฟังพยานทั้งสองฝ่าย
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดินและเรือนจาก ป.กับได้โอนโฉนดต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยเข้าครอบครองโดยไม่มีสิทธิ ขอให้ขับไล่จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ซื้อไปโดยไม่สุจริตโดยโจกท์รู้อยู่แล้วว่าจำเลยเป็นเจ้าของครอบครองขณะโจทก์รับโอนดังนี้ ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโดยเห็นว่า โฉนดมีชื่อ ป.เป็นเจ้าของโจทก์ไม่มีหน้าที่จะต้องไปรู้ถึงการครอบครองของจำลเย แล้วพิพากษาขับไล่จำเลย หาชอบไม่ ศาลต้องดำเนินการ การพิจารณาต่อไป
of 50