พบผลลัพธ์ทั้งหมด 599 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1418/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดสิทธิฟ้องคดีซ้ำ กรณีทำสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว แม้ปากทางจะแคบ
เดิมโจทก์เคยฟ้องจำเลยขอให้เปิดทางในที่ดินของจำเลยโดยอ้างว่าเป็นทางภารจำยอม แล้วโจทก์จำเลยได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยจำเลยยอมเปิดทางในที่ดินดังกล่าวกว้าง 2 เมตร 50 เซนติเมตร ยาวตลอดที่ดิน ซึ่งศาลได้พิพากษาตามยอมแล้ว คำพิพากษานั้นย่อมผูกพันคู่ความทั้งสองฝ่ายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 เมื่อจำเลยได้เปิดทางให้ผ่านที่ดินของจำเลยถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว แม้โจทก์จะไม่ได้รับความสะดวกเพราะปากทางแคบไปโจทก์ก็ไม่มีอำนาจมาฟ้องจำเลยขอให้เปิดทางให้กว้างขึ้นไปอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1055-1056/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: สิทธิฟ้องระงับ แม้ทำนอกศาล
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยให้รื้อถอนโรงเรือนออกจากที่เช่าอันเป็นข้อพิพาทที่มีอยู่ ต่อมาคู่กรณีได้ตกลงกันทำสัญญามุ่งหมายที่จะให้ระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับการเช่าที่ดินให้เสร็จสิ้นไป โดยต่างฝ่ายต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน จึงเป็นข้อที่เกี่ยวกับฟ้อง ฉะนั้น เมื่อทั้งสองฝ่ายยอมผ่อนผันอันเกี่ยวกับข้อพิพาทที่กำลังมีอยู่แก่กัน ทำให้ข้อพิพาทเดิมของคู่กรณีได้ระงับสิ้นไป จึงมีลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 และแม้สัญญาจะทำภายหลังโจทก์ฟ้องคดีแล้ว และกระทำกันนอกศาลก็ตาม ย่อมมีผลทำให้สิทธิดำเนินคดีของโจทก์ระงับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1009/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเลิกสัญญาประนีประนอมยอมความและสิทธิในการบังคับตามสัญญาจะซื้อขายที่ดิน
โจทก์จำเลยตกลงยกเลิกสัญญาประนีประนอมยอมความตามเอกสารที่ทางอำเภอเปรียบเทียบ โดยขอรับสัญญาจะซื้อขายที่ดินไปดำเนินการกันทางศาลต่อไป ดังนั้นสิทธิของโจทก์ตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินดังกล่าวจึงไม่ระงับ โจทก์มีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญา และเรียกค่าเสียหายเพราะเหตุจำเลยผิดสัญญาทำให้โจทก์เสียหายได้
จำเลยฎีกาเรื่องค่าธรรมเนียม ค่าทนายความ ถึงแม้ว่าชั้นอุทธรณ์จำเลยมิได้อุทธรณ์ในข้อนี้ แต่ก็ปรากฏว่าศาลชั้นต้นกำหนดค่าทนายความผิดกฎหมายศาลฎีกาเห็นสมควรกำหนดใหม่ให้ถูกต้องได้
จำเลยฎีกาเรื่องค่าธรรมเนียม ค่าทนายความ ถึงแม้ว่าชั้นอุทธรณ์จำเลยมิได้อุทธรณ์ในข้อนี้ แต่ก็ปรากฏว่าศาลชั้นต้นกำหนดค่าทนายความผิดกฎหมายศาลฎีกาเห็นสมควรกำหนดใหม่ให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ-สภาพแห่งข้อหาต่างกัน แม้คำขอบังคับเหมือนกัน ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คดีแรก โจทก์ฟ้องจำเลยกล่าวอ้างว่าจำเลยใช้หนังสือมอบอำนาจฉบับปลอมไปทำการโอนที่พิพาทเป็นของจำเลย คดีนี้ โจทก์ฟ้องอ้างว่าหลังจากฟ้องคดีแรกแล้วโจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยจำเลยตกลงโอนที่พิพาทให้โจทก์ โจทก์ยอมยกหนี้สินให้จำเลยและยอมถอนฟ้องคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยอยู่ โจทก์ปฏิบัติตามสัญญาแล้ว แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง สภาพแห่งข้อหาของโจทก์ทั้งสองคดีจึงต่างกัน แม้คำขอบังคับจะเป็นการให้จำเลยโอนที่พิพาทให้โจทก์เช่นเดียวกัน ก็มิใช่คำฟ้องเรื่องเดียวกัน ฟ้องของโจทก์ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2811/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: การฟ้องแย้งกรรมสิทธิ์ที่ดินหลังประนีประนอมยอมความแล้ว
จำเลยที่ 1 ฟ้องภริยาโจทก์เรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน โจทก์ยินยอมให้ภริยาโจทก์ฟ้องแย้งจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 กับภริยาโจทก์ประนีประนอมยอมความกันในคดีนั้น ศาลพิพากษาตามยอม โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ขอให้แสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินรายเดียวกันอีกไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2516/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สำคัญผิดในสาระสำคัญของสัญญาประนีประนอมยอมความ ทำให้สัญญานั้นเป็นโมฆะ
ที่ดินมีชื่อจำเลยเป็นเจ้าของ 3 โฉนด จำเลยตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความยกที่ดินโฉนดที่มีเนื้อที่มากที่สุดให้แก่บิดาโจทก์ โดยลงชื่อโจทก์ทั้งสี่เป็นผู้รับทนายความผู้เขียนสัญญาดูแต่ภาพถ่ายด้านหน้าโฉนด ไม่ได้ดูสารบัญจดทะเบียน เข้าใจว่าเป็นโฉนดที่ 2600 มีเนื้อที่มากที่สุด จึงได้เขียนสัญญาประนีประนอมยอมความไปตามนั้น จำเลยจำเลขโฉนดและเนื้อที่ทั้งสามแปลงไม่ได้ เข้าใจว่าทนายความลงเลขโฉนดและเนื้อที่ดินในสัญญาถูกต้องตรงเจตนาของจำเลย จึงรับว่าถูกต้องและลงลายมือชื่อให้ไว้ แท้จริงโฉนดที่ 2598 มีเนื้อที่มากที่สุด ดังนี้ การที่จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความยกที่ดินโฉนดที่ 2600 ให้แก่โจทก์ทั้งสี่เป็นการสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสารสำคัญแห่งนิติกรรม สัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวจึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 119
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับมรดกและสินสมรส ผลผูกพันและข้อยกเว้น
คดีก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 ต่อศาลขอแบ่งมรดก คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นคนละคนกัน จำเลยที่ 2 เข้ามาเป็นจำเลยในคดีนี้ก็ด้วยการที่ศาลเรียกให้เข้ามาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(3)ฟ้องของโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้อน
การที่ทายาทของผู้ตายรวมทั้งจำเลยทั้งสองทำบันทึกข้อตกลงของทายาทว่า ทายาททุกคนไม่ถือว่าจะต้องแบ่งทรัพย์กันตามพินัยกรรมแต่หากต่างตกลงแบ่งกันตามที่เห็นสมควรเพื่อเป็นการระงับข้อพิพาทซึ่งจะมีขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน ข้อตกลงดังกล่าวเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 แต่ละฝ่ายจึงได้สิทธิตามที่ได้แสดงไว้ในสัญญานั้น และแม้ทรัพย์บางส่วนตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวจะเป็นสินสมรสส่วนของจำเลยที่ 2 ก็ตาม ก็มิใช่เป็นการที่จำเลยที่ 2 ยกสินสมรสส่วนของตนให้ผู้อื่นจึงไม่ต้องทำตามแบบที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับการยกให้
การที่ทายาทของผู้ตายรวมทั้งจำเลยทั้งสองทำบันทึกข้อตกลงของทายาทว่า ทายาททุกคนไม่ถือว่าจะต้องแบ่งทรัพย์กันตามพินัยกรรมแต่หากต่างตกลงแบ่งกันตามที่เห็นสมควรเพื่อเป็นการระงับข้อพิพาทซึ่งจะมีขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน ข้อตกลงดังกล่าวเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 แต่ละฝ่ายจึงได้สิทธิตามที่ได้แสดงไว้ในสัญญานั้น และแม้ทรัพย์บางส่วนตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวจะเป็นสินสมรสส่วนของจำเลยที่ 2 ก็ตาม ก็มิใช่เป็นการที่จำเลยที่ 2 ยกสินสมรสส่วนของตนให้ผู้อื่นจึงไม่ต้องทำตามแบบที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับการยกให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประนีประนอมยอมความแพ่ง ไม่กระทบสิทธิฟ้องอาญา ต้องมีการสละสิทธิชัดเจน
การประนีประนอมยอมความกันในคดีแพ่ง ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้แสดงความประสงค์ที่จะสละสิทธิในการดำเนินคดีอาญาต่อจำเลยหรือไม่ จะถือว่าสิทธิดำเนินคดีอาญาของโจทก์ระงับไปด้วยหาได้ไม่ การยอมความในคดีแพ่งที่จะมีผลให้คดีอาญาระงับไปนั้น จะต้องเป็นกรณีที่โจทก์ตกลงสละสิทธิในการดำเนินคดีอาญาต่อจำเลยด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 224/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลสร้างหนี้ใหม่ การบังคับคดีจากทรัพย์จำนองทำได้แม้ไม่ใช่ฟ้องบังคับจำนอง
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ชำระหนี้จำนองแล้วโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยจำเลยยอมชำระหนี้จำนองศาลพิพากษาตามยอมคดีถึงที่สุดแล้วดังนี้ถือว่าเป็นเพียงฟ้องในมูลหนี้สามัญและมี ผลทำให้หนี้เดิมระงับ เกิดหนี้ใหม่ตามสัญญาประนีประนอมยอมความเมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความโจทก์ย่อม บังคับคดีแก่ทรัพย์สินอื่น ๆ ของจำเลย รวมทั้งทรัพย์ที่จำนองได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1683/2498, 127/2506 และ 989/2506)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2208/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันภัย: การทำสัญญาประนีประนอมยอมความ และการยกเว้นความรับผิดจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการฝ่าฝืนกฎจราจร
ข้อกำหนดตามธรรมธรรม์ประกันภัยที่ว่า "การตกลงยินยอมหรือการเสนอหรือการให้สัญญาว่าจะชดใช้เงินหรือชดใช้ค่าเสียหายประการใดก็ตามแก่บุคคลอื่น ผู้เอาประกันภัยหรือตัวแทนผู้เอาประกันภัยจะกระทำมิได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษร" นั้น เป็นการห้ามมิให้ผู้เอาประกันภัยทำความตกลงหรือทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับบุคคลภายนอก ทั้งนี้ เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้รับประกันภัยเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัยไม่ เมื่อผู้เอาประกันฟ้องเรียกร้องค่าซ่อมรถของตนที่เอาประกันภัยไว้ อันได้รับความเสียหายเนื่องจากชนกับรถของบุคคลอื่น มิได้เกี่ยวกับค่าเสียหายที่ผู้เอาประกันภัยได้ทำสัญญาชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลอื่น ผู้เอาประกันภัยจึงมีสิทธิเรียกร้องจากผู้รับประกันภัยได้
กรมธรรม์ประกันภัยกำหนดว่า ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดเมื่อ "อุบัติเหตุหรือวินาศภัย อันเกิดขึ้นโดยผู้ขับขี่ยานยนต์คับเอาประกันภัยเจตนาจงใจฝ่าฝืนในข้อกำหนดกฎหมายหรือคำสั่งหรือเครื่องหมายจราจร" ย่อมหมายความว่า วินาศภัยที่ผู้รับประกันภัยจะต้องรับผิดในความเสียหายก็เฉพาะแต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเพราะเหตุที่ผู้ขับขี่จงใจฝ่าฝืนกฎหมายหรือคำสั่งหรือเครื่องหมายจราจรเท่านั้น การที่คนขับรถของผู้เอาประกันภัยขับรถคันที่เอาประกันภัยไปในทางที่ยังไม่เปิดใช้เป็นทางจราจรแม้จะมีเครื่องหมายของพนักงานจราจรห้ามมิให้รถเข้าไปแล่นก็ตามแต่เมื่อการขับรถเข้าไปใจทางนั้นไม่ใช่เหตุที่เกิดรถชนกันเพราะรถชนกันบนถนนส่วนที่เปิดใช้แล้วผู้รับประกันภัยก็จะยกเหตุดังกล่าวมามัดความรับผิดไม่ได้
กรมธรรม์ประกันภัยกำหนดว่า ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดเมื่อ "อุบัติเหตุหรือวินาศภัย อันเกิดขึ้นโดยผู้ขับขี่ยานยนต์คับเอาประกันภัยเจตนาจงใจฝ่าฝืนในข้อกำหนดกฎหมายหรือคำสั่งหรือเครื่องหมายจราจร" ย่อมหมายความว่า วินาศภัยที่ผู้รับประกันภัยจะต้องรับผิดในความเสียหายก็เฉพาะแต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเพราะเหตุที่ผู้ขับขี่จงใจฝ่าฝืนกฎหมายหรือคำสั่งหรือเครื่องหมายจราจรเท่านั้น การที่คนขับรถของผู้เอาประกันภัยขับรถคันที่เอาประกันภัยไปในทางที่ยังไม่เปิดใช้เป็นทางจราจรแม้จะมีเครื่องหมายของพนักงานจราจรห้ามมิให้รถเข้าไปแล่นก็ตามแต่เมื่อการขับรถเข้าไปใจทางนั้นไม่ใช่เหตุที่เกิดรถชนกันเพราะรถชนกันบนถนนส่วนที่เปิดใช้แล้วผู้รับประกันภัยก็จะยกเหตุดังกล่าวมามัดความรับผิดไม่ได้