พบผลลัพธ์ทั้งหมด 557 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 563-565/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกความเท็จในชั้นศาลที่ไม่เป็นข้อสำคัญในคดี และข้อยกเว้นความผิดฐานหมิ่นประมาทสำหรับถ้อยคำของคู่ความในกระบวนการพิจารณา
จำเลยเบิกความในคดีที่ พ. ถูกฟ้องคดีอาญาฐานขับรถประมาทชนคนบาดเจ็บว่า พ. ให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเพราะถูกโจทก์ขู่เข็ญนั้นหากคดีดังกล่าวศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะเห็นว่าพยานโจทก์ฟังไม่ได้ว่า พ. กระทำผิดแล้ว แม้ข้อความที่จำเลยเบิกความจะเป็นเท็จ ก็ไม่ใช่เท็จในข้อสำคัญแห่งคดี
การที่จำเลยเบิกความในคดีที่จำเลยถูกฟ้องฐานขับรถประมาทชนคนบาดเจ็บว่าจำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเพราะถูกโจทก์ขู่เข็ญนั้นเห็นได้ว่าเป็นถ้อยคำของคู่ความในกระบวนพิจารณาคดีในศาลเพื่อประโยชน์แก่คดีของตน ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
การที่จำเลยเบิกความในคดีที่จำเลยถูกฟ้องฐานขับรถประมาทชนคนบาดเจ็บว่าจำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเพราะถูกโจทก์ขู่เข็ญนั้นเห็นได้ว่าเป็นถ้อยคำของคู่ความในกระบวนพิจารณาคดีในศาลเพื่อประโยชน์แก่คดีของตน ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 454/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำพิพากษาคดีอาญาต่อคดีแพ่ง: ศาลต้องยึดข้อเท็จจริงเฉพาะคู่ความเดิมเท่านั้น
ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจะต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา เฉพาะคู่ความในคดีเดิมเท่านั้น
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า การที่รถโจทก์จำเลยเกิดชนกันขึ้นนั้น เป็นเพราะความประมาทปราศจากความระมัดระวังของจำเลยฝ่ายเดียวจะนำเอาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 442 ประกอบด้วยมาตรา 223 มาใช้เป็นหลักในการกำหนดค่าเสียหายหาได้ไม่
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า การที่รถโจทก์จำเลยเกิดชนกันขึ้นนั้น เป็นเพราะความประมาทปราศจากความระมัดระวังของจำเลยฝ่ายเดียวจะนำเอาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 442 ประกอบด้วยมาตรา 223 มาใช้เป็นหลักในการกำหนดค่าเสียหายหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 454/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำพิพากษาคดีอาญาต่อคดีแพ่ง: หลักการจำกัดเฉพาะคู่ความเดิม
ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจะต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา เฉพาะคู่ความในคดีเดิมเท่านั้น
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าการที่รถโจทก์จำเลยเกิดชนกันขึ้นนั้นเป็นเพราะความประมาทปราศจากความระมัดระวังของจำเลยฝ่ายเดียวจะนำเอาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา442 ประกอบด้วย มาตรา 223 มาใช้เป็นหลักในการกำหนดค่าเสียหายหาได้ไม่
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าการที่รถโจทก์จำเลยเกิดชนกันขึ้นนั้นเป็นเพราะความประมาทปราศจากความระมัดระวังของจำเลยฝ่ายเดียวจะนำเอาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา442 ประกอบด้วย มาตรา 223 มาใช้เป็นหลักในการกำหนดค่าเสียหายหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 269/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบังคับคดีจำกัดเฉพาะคู่ความหรือเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ผู้รับประโยชน์จากสัญญาประนีประนอมยอมความไม่มีสิทธิบังคับคดี
ผู้ที่มีอำนาจร้องขอให้บังคับคดีได้ คือ คู่ความหรือบุคคลซึ่งเป็นฝ่ายชนะคือเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอาจเป็นโจทก์หรือจำเลยหรืออาจเป็นบุคคลภายนอกซึ่งร้องสอดเข้ามาในคดีก็ได้ฉะนั้น ผู้ที่เป็นแต่เพียงผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประนีประนอมยอมความเท่านั้นจึงหาใช่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่จะมีสิทธิบังคับคดีไม่
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอาจเป็นโจทก์หรือจำเลยหรืออาจเป็นบุคคลภายนอกซึ่งร้องสอดเข้ามาในคดีก็ได้ฉะนั้น ผู้ที่เป็นแต่เพียงผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประนีประนอมยอมความเท่านั้นจึงหาใช่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่จะมีสิทธิบังคับคดีไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1469/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: คดีเดิม คู่ความเดิม เหตุเดิม ศาลยกฟ้องตามมาตรา 148
แม้โจทก์จำเลยในคดีนี้จะเป็นจำเลยเป็นโจทก์ในคดีก่อนก็ตาม แต่เมื่อคู่ความในคดีก่อนและคดีนี้เป็นคู่ความเดียวกัน และศาลมีข้อวินิจฉัยในประเด็นโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ฟ้องโจทก์ในคดีนี้ก็เป็นฟ้องซ้ำ จะรื้อฟื้นมาฟ้องอีกไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1363/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเรียกบุคคลภายนอกเป็นคู่ความต้องแจ้งเหตุผลล่าช้า หากไม่แจ้งศาลย่อมยกคำร้อง
การยื่นคำร้องขอให้เรียกบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นคู่ความภายหลังยื่นฟ้องหรือคำให้การแล้ว จำต้องชี้แจ้งเหตุผลประกอบให้ปรากฏด้วยว่า เหตุใดจึงไม่อาจยื่นคำร้องขอหมายเรียกเสียเมื่อแรกยื่นฟ้อง ทั้งนี้ เพื่อศาลจะได้พิจารณาว่ามีเหตุสมควรที่จะให้ออกหมายเรียกบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นคู่ความด้วยหรือไม่ ฉะนั้น เมื่อโจทก์ยื่นคำร้องขอให้เรียกบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นโจทก์ด้วย โดยอ้างแต่เหตุเพื่อคุ้มครองรักษาผลประโยชน์ของตนแต่ประการเดียว ส่วนเหตุผลที่มายื่นคำร้องล่วงเลยล่าช้า ไม่ได้กล่าวอ้างไว้เลย เช่นนี้ศาลก็ต้องสั่งยกคำร้องของโจทก์นั้นเสีย (อ้างฎีกาที่ 706/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1137/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดสิทธิในการฎีกาประเด็นใหม่ และสิทธิของผู้รับมรดกในฐานะคู่ความ
ปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยมิได้ยกขึ้นอ้างอิงในชั้นอุทธรณ์ย่อมยุติ จะรื้อฟื้นขึ้นมาฎีกาอีกไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
ผู้ร้องเข้ามาในคดีในฐานะเป็นคู่ความแทนจำเลยผู้มรณะ จึงมีสิทธิดำเนินคดีเท่าสิทธิของจำเลยที่มีอยู่เท่านั้น
ผู้ร้องเข้ามาในคดีในฐานะเป็นคู่ความแทนจำเลยผู้มรณะ จึงมีสิทธิดำเนินคดีเท่าสิทธิของจำเลยที่มีอยู่เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 650/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อเท็จจริงในคดีอาญาไม่ผูกพันโจทก์ในคดีแพ่งหากมิได้เป็นคู่ความในคดีอาญา
ย.ขับรถยนต์ขนรถสามล้อซึ่ง น.ขับ รถสามล้อเสียหายและ น.บาดเจ็บ อัยการและ น.ได้เป็นโจทก์ฟ้อง ย.เป็นคดีอาญา คดีนั้นศาลชี้ขาดข้อเท็จจริงว่า น.เป็นฝ่ายประมาท ย.ไม่มีความผิดฐานประมาท ต่อมาเจ้าของรถสามล้อมาเป็นโจทก์ฟ้อง ย.กับนายจ้างเป็นคดีแพ่งเรียกร้องค่ารถสามล้อที่เสียหายกับค่าขาดประโยชน์ ดังนี้ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาอาญานั้นย่อมไม่ผูกพันโจทก์ในคดีแพ่ง (อ้างฎีกาที่ 36/2501)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 982/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำท้าของคู่ความหลังการตายของโจทก์ การสาบานยังใช้ได้
คำท้าของคู่ความในศาลนั้น แม้คู่ความฝ่ายหนึ่งตายก็ยังมีผลผูกพันคู่ความอีกฝ่ายอยู่ ฉะนั้น การสาบานของพยานคนกลางตามคำท้าของคู่ความนั้น แม้จะสาบานภายหลังที่คู่ความฝ่ายหนึ่งตาย และอยู่ในระหว่างที่ยังไม่มีผู้ใดร้องขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนก็ตามจึงหาตกเป็นโมฆะไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 982/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำท้าและการสาบานพยานหลังคู่ความถึงแก่กรรม
คำท้าของคู่ความในศาลนั้น แม้คู่ความฝ่ายหนึ่งตายก็ยังมีผลผูกพันคู่ความอีกฝ่ายอยู่ ฉะนั้น การสาบานของพยานคนกลางตามคำท้าของคู่ความนั้น แม้จะสาบานภายหลังที่คู่ความฝ่ายหนึ่งตาย และอยู่ในระหว่างที่ยังไม่มีผู้ใดร้องขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนก็ตามจึงหาตกเป็นโมฆะไม่