พบผลลัพธ์ทั้งหมด 571 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231-232/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้ำประกัน: สิทธิของผู้ค้ำประกันเมื่อเจ้าหนี้ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต และประเด็นหนังสือมอบอำนาจ
คำให้การของจำเลยที่ว่า หนังสือมอบอำนาจไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายนั้น จำเลยไม่มีประเด็นนำสืบ เพราะมิได้ให้การว่าไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายด้วยเหตุอย่างไร
ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
การค้ำประกันหนี้ในอนาคตนั้น แม้ตามสัญญาค้ำประกันจะมีข้อความว่า การถอนสัญญาค้ำประกันต้องได้รับหนังสือยินยอมจากคณะกรรมการบริษัทโจทก์ก่อนก็ตาม แต่เมื่อผู้ค้ำประกันได้มีหนังสือบอกเลิกการค้ำประกันไปให้บริษัทโจทก์ทราบแล้วแต่กรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ก็ทิ้งเรื่องไว้ตั้ง 5 เดือน แล้วจึงเสนอประธานกรรมการบริษัทโจทก์ระหว่างนั้นบริษัทโจทก์ก็ยังส่งข้าวสารไปยังลูกหนี้จนเกิดความเสียหายขึ้นแล้วจึงได้ให้ลูกหนี้ออกจากหน้าที่และแจ้งให้ผู้ค้ำประกันรับผิดในความเสียหายเช่นนี้ถือว่าบริษัทโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตทำให้ผู้ค้ำประกันได้รับความเสียหายผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิดในหนี้นั้น
ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
การค้ำประกันหนี้ในอนาคตนั้น แม้ตามสัญญาค้ำประกันจะมีข้อความว่า การถอนสัญญาค้ำประกันต้องได้รับหนังสือยินยอมจากคณะกรรมการบริษัทโจทก์ก่อนก็ตาม แต่เมื่อผู้ค้ำประกันได้มีหนังสือบอกเลิกการค้ำประกันไปให้บริษัทโจทก์ทราบแล้วแต่กรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ก็ทิ้งเรื่องไว้ตั้ง 5 เดือน แล้วจึงเสนอประธานกรรมการบริษัทโจทก์ระหว่างนั้นบริษัทโจทก์ก็ยังส่งข้าวสารไปยังลูกหนี้จนเกิดความเสียหายขึ้นแล้วจึงได้ให้ลูกหนี้ออกจากหน้าที่และแจ้งให้ผู้ค้ำประกันรับผิดในความเสียหายเช่นนี้ถือว่าบริษัทโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตทำให้ผู้ค้ำประกันได้รับความเสียหายผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิดในหนี้นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1779-1780/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีทุเลาและการชำระหนี้จำนองหลังจำหน่ายคดีของผู้ค้ำประกัน
จำเลยเอาที่ดินมาวางเป็นหลักประกันทุเลาการบังคับคดีในระหว่างพิจารณาคดี จำเลยตายไปเกินกว่า 1 ปี ไม่มีผู้ใดขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี คดีเฉพาะตัวจำเลยจึงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งเช่นว่านั้นย่อมใช้บังคับแก่การประกันนั้นได้โดยไม่ต้องฟ้องผู้ค้ำประกันขึ้นใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 274 และอายุความเจ้าหนี้ของเจ้ามรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 จะนำมาใช้แก่กรณีนี้ไม่ได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 วรรคสองให้อำนาจผู้รับจำนองที่จะยื่นคำร้องต่อศาลก่อนเอาทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาด แต่ถ้าไม่ยื่นภายในกำหนดดังกล่าวก็หาทำให้ผู้รับจำนองหมดสิทธิไปไม่ ดังนั้นการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาจึงไม่กระทบถึงบุริมสิทธิของผู้รับจำนองซึ่งอาจร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินที่จำนองได้ ดังประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 วรรคสองให้อำนาจผู้รับจำนองที่จะยื่นคำร้องต่อศาลก่อนเอาทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาด แต่ถ้าไม่ยื่นภายในกำหนดดังกล่าวก็หาทำให้ผู้รับจำนองหมดสิทธิไปไม่ ดังนั้นการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาจึงไม่กระทบถึงบุริมสิทธิของผู้รับจำนองซึ่งอาจร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินที่จำนองได้ ดังประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1565/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าธรรมเนียมบังคับคดี: คำนวณจากราคาทรัพย์สินจริง ผู้ค้ำประกันต้องชำระครบถ้วนเพื่อถอนการยึด
ตามตาราง 5 ข้อ 3 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เมื่อยึดทรัพย์สินซึ่งไม่ใช่ตัวเงินและไม่มีการขายหรือจำหน่าย ให้คิดค่าธรรมเนียมร้อยละ 3 ครึ่งของราคาทรัพย์ที่ยึด จึงต้องคิดค่าธรรมเนียมตามราคาที่แท้จริงของทรัพย์ที่ยึด แม้ทรัพย์นั้นจะติดจำนองอยู่ ก็จะเอาหนี้จำนองมาหักราคาที่แท้จริงของทรัพย์ที่ยึดแล้วตีราคาตามยอดเงินที่เหลือจากเอาหนี้จำนองหักออกแล้วหาได้ไม่
เมื่อผู้ค้ำประกันขอวางเงินชำระหนี้ให้โจทก์เพื่อขอให้ศาลสั่งถอนการยึดทรัพย์ของผู้ค้ำประกัน ผู้ค้ำประกันต้องชำระค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีให้ครบถ้วนด้วย ศาลจึงจะสั่งถอนการยึดได้
(ปัญหาแรก ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 26/2509)
เมื่อผู้ค้ำประกันขอวางเงินชำระหนี้ให้โจทก์เพื่อขอให้ศาลสั่งถอนการยึดทรัพย์ของผู้ค้ำประกัน ผู้ค้ำประกันต้องชำระค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีให้ครบถ้วนด้วย ศาลจึงจะสั่งถอนการยึดได้
(ปัญหาแรก ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 26/2509)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1565/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าธรรมเนียมบังคับคดีและการถอนการยึดทรัพย์: คิดจากราคาจริงของทรัพย์สิน ผู้ค้ำประกันต้องชำระครบถ้วน
ตามตาราง 5 ข้อ 3 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเมื่อยึดทรัพย์สินซึ่งไม่ใช่ตัวเงินและไม่มีการขายหรือจำหน่าย ให้คิดค่าธรรมเนียมร้อยละ 3 ครึ่ง ของราคาทรัพย์ที่ยึด จึงต้องคิดค่าธรรมเนียมตามราคาที่แท้จริงของทรัพย์ที่ยึด แม้ทรัพย์นั้นจะติดจำนองอยู่ ก็จะเอาหนี้จำนองมาหักราคาที่แท้จริงของทรัพย์ที่ยึดแล้วตีราคาตามยอดเงินที่เหลือจากเอาหนี้จำนองหักออกแล้วหาได้ไม่
เมื่อผู้ค้ำประกันขอวางเงินชำระหนี้ให้โจทก์เพื่อขอให้ศาลสั่งถอนการยึดทรัพย์ของผู้ค้ำประกัน ผู้ค้ำประกันต้องชำระค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีให้ครบถ้วนด้วย ศาลจึงจะสั่งถอนการยึดได้(ปัญหาแรก ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 26/2509)
เมื่อผู้ค้ำประกันขอวางเงินชำระหนี้ให้โจทก์เพื่อขอให้ศาลสั่งถอนการยึดทรัพย์ของผู้ค้ำประกัน ผู้ค้ำประกันต้องชำระค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีให้ครบถ้วนด้วย ศาลจึงจะสั่งถอนการยึดได้(ปัญหาแรก ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 26/2509)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผ่อนเวลาหนี้และการหลุดพ้นจากความรับผิดของผู้ค้ำประกัน ต้องมีการตกลงผ่อนเวลาที่ชัดเจน
การที่เจ้าหนี้ยอมผ่อนเวลาให้แก่ลูกหนี้อันจะทำให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดนั้นหมายถึงการตกลงผ่อนเวลากันแน่นอนและมีผลว่า ในระหว่างผ่อนเวลานั้น
เจ้าหนี้จะใช้สิทธิเรียกร้องหรือฟ้องร้องไม่ได้ฉะนั้น เพียงแต่เจ้าหนี้ยังไม่ได้ใช้สิทธิฟ้องร้องเท่านั้น จึงหาเป็นการผ่อนเวลาแต่อย่างใดไม่
เจ้าหนี้จะใช้สิทธิเรียกร้องหรือฟ้องร้องไม่ได้ฉะนั้น เพียงแต่เจ้าหนี้ยังไม่ได้ใช้สิทธิฟ้องร้องเท่านั้น จึงหาเป็นการผ่อนเวลาแต่อย่างใดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงหลักประกันในชั้นทุเลาการบังคับคดีทำให้ผู้ค้ำประกันเดิมหลุดพ้นจากความรับผิดชอบ
ในการสั่งคำร้องของจำเลยในชั้นขอทุเลาการบังคับคดีชั้นฎีกาศาลฎีกามีคำสั่งอนุญาตให้ทุเลาการบังคับได้ในเมื่อจำเลยสามารถหาประกันที่มั่นคงและเป็นที่พอใจของศาลชั้นต้น เห็นได้ว่าศาลฎีกามิได้ให้ถือประกันเดิมที่ผู้ประกันได้ทำไว้ในการที่จำเลยขอทุเลาการบังคับในชั้นอุทธรณ์แล้วฉะนั้น การค้ำประกันในชั้นอุทธรณ์จึงเป็นอันเพิกถอนไปในตัว จะบังคับการชำระหนี้อีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผ่อนเวลาชำระหนี้: ผู้ค้ำประกันไม่หลุดพ้นความรับผิดหากเจ้าหนี้ไม่ได้ตกลงผ่อนเวลา
การที่เจ้าหนี้ไม่ฟ้องลูกหนี้ให้ชำระหนี้เมื่อหนี้ถึงกำหนดชำระ ไม่ใช่เป็นการผ่อนเวลาให้แก่ลูกหนี้ และการที่ผู้ค้ำประกันเตือนเจ้าหนี้ให้ฟ้องลูกหนี้และเจ้าหนี้ไม่ฟ้อง ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องผ่อนเวลาอันจะทำให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 719/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้เงินเบิกเกินบัญชี, ดอกเบี้ยทบต้นผิดสัญญา, และขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกัน
การที่ลูกหนี้นำเงินเข้าบัญชีและถอนไปในระยะเวลาที่ยังมีการเบิกเงินเกินบัญชีกันอยู่ หาเป็นการชำระหนี้เงินเบิกเกินบัญชีแต่อย่างใดไม่
จะนำข้อตกลงในการเบิกเงินเกินบัญชีที่ให้คิดดอกเบี้ยทบต้นทุกเดือนไปใช้ในกรณีที่มีการผิดนัดไม่ชำระหนี้แล้วไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 วรรคสอง
จะนำข้อตกลงในการเบิกเงินเกินบัญชีที่ให้คิดดอกเบี้ยทบต้นทุกเดือนไปใช้ในกรณีที่มีการผิดนัดไม่ชำระหนี้แล้วไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 69/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่สมบูรณ์, อายุความละเมิด, อายุความรับสภาพหนี้, ผู้ค้ำประกัน, ข้อต่อสู้เรื่องอายุความ
ฟ้องที่กล่าวเพียงว่า"สินค้าอื่น ๆ ซึ่งโจทก์จะได้เสนอหลักฐานต่อศาลในวันพิจารณาขาดไปคิดเป็นเงิน 57,266.58 บาท" เป็นฟ้องที่มิได้แสดงให้แจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและขาดข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 วรรค 2 โจทก์ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันคนที่ทำละเมิดต่อโจทก์เพิ่อเรียกค่าเสียหายในการละเมิดนั้นเมื่อเกิน 1 ปี นับแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน คดีโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 จำเลยซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันยกข้อต่อสู้เรื่องอายุความของผู้ที่ทำละเมิดต่อโจทก์ขึ้นต่อสู้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 68
อายุความเรียกค่าเสียหายในการละเมิดมี 1 ปี เมื่อจำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้จากการละเมิด อายุความก็สะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 ต้องเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 181 วรรค 2 อายุความที่เริ่มนับใหม่ก็คือ 1 ปีเช่นเดิม ไม่ใช่ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
อายุความเรียกค่าเสียหายในการละเมิดมี 1 ปี เมื่อจำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้จากการละเมิด อายุความก็สะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 ต้องเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 181 วรรค 2 อายุความที่เริ่มนับใหม่ก็คือ 1 ปีเช่นเดิม ไม่ใช่ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 254/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้ำประกันหนี้ล้มละลาย: ผู้ค้ำประกันยังคงรับผิดแม้หนี้หลักระงับ
ในคดีล้มละลาย แม้หนี้ของบุคคลผู้ล้มละลายนั้นจะระงับไปแล้วด้วยการประนอมหนี้ก็ดี หรือศาลมีคำสั่งปลดลูกหนี้จากการล้มละลายก็ดี หาทำให้ผู้ค้ำประกันของบุคคลผู้ล้มละลายนั้นหลุดพ้นจากความรับผิดต่อเจ้าหนี้ของบุคคลผู้ล้มละลายไม่ กรณีเช่นนี้ไม่ตกอยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 698