คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พฤติการณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 790 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1473/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกระทำผิดทางอาญา: พฤติการณ์ยืนใกล้ไม่ถือเป็นความร่วมมือ หากไม่มีเจตนาช่วยเหลือ
ขณะ จ. แทงผู้เสียหาย จำเลยยืนห่าง จ. 2 เมตร ยืนอยู่เฉย ๆ ไม่ได้เข้าช่วยเหลือหรือยุ่งเกี่ยว แต่วิ่งหนีไปพร้อม จ. ซึ่งอาจเป็นเพราะความตกใจหรือถูกไล่ทำร้ายเพราะเข้าใจว่าเป็นพวก จ. ก็ได้ ดังนี้จำเลยไม่ได้ร่วมกระทำผิดกับ จ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1355/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเป็นตัวแทนซื้อขายหุ้น แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็ฟังได้จากพฤติการณ์ หากจำเลยไม่โต้แย้งการเป็นตัวแทน
ในคำให้การจำเลยมิได้ต่อสู้ว่า โจทก์มิใช่ตัวแทนในการซื้อขายหุ้นของจำเลย แต่ต่อสู้ว่า โจทก์ซื้อหุ้นโดยที่จำเลยมิได้สั่งให้ซื้อ ดังนั้นปัญหาเรื่องการเป็นตัวแทนหรือไม่ จึงไม่เป็นประเด็นในคดี แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือก็ฟังได้ว่าโจทก์เป็นตัวแทนจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1110/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกการรับบุตรบุญธรรม: การจงใจละทิ้งและการไม่อุปการะเลี้ยงดู ต้องพิเคราะห์ตามพฤติการณ์และเจตนา
จำเลยซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมทำงานอยู่คนละจังหวัดกับภูมิลำเนาของโจทก์แต่ไปมาหาสู่กันเสมอ ต่อมาจำเลยออกจากงานไปอยู่ที่อื่นโดยไม่แจ้งให้โจทก์ทราบ โจทก์ไปหาจำเลยก็โดยประสงค์ให้ช่วยส่งเงินเป็นค่าอุปการะเลี้ยงดูโจทก์ เมื่อไม่พบกันจำเลยย่อมไม่ทราบความประสงค์ของโจทก์ จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยจงใจละทิ้งโจทก์และไม่อุปการะเลี้ยงดูโจทก์ อันเป็นเหตุที่จะฟ้องขอให้เลิกการรับบุตรบุญธรรมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3060/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาบุกรุกต้องพิเคราะห์จากข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ หากจำเลยกระทำโดยเข้าใจผิดว่าอยู่ในที่ดินของตนเอง ไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก
จำเลยสร้างรั้วในที่ดินพิพาทก่อนที่ข้อเท็จจริงจะปรากฏแน่นอนจากการรังวัดสอบเขตโฉนดของโจทก์ร่วมว่าที่ดินส่วนที่เป็นรั้วอยู่ในเขตที่ดินของโจทก์ร่วม เป็นเรื่องเข้าใจว่ากระทำลงไปในที่ดินของจำเลยจึงขาดเจตนากระทำความผิด ไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก
จำเลยเพียงแต่เอาดินลูกรังมาถมทางเดินเดิมซึ่งเป็นคันนาเกลือไม่มีรั้วหรือสิ่งใดปิดกั้นห้ามเดินผ่าน เป็นการกระทำโดยเจตนาใช้เป็นทางเดินออกไปสู่ถนนใหญ่เท่านั้น ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยเจตนายึดถือการครอบครองที่ดินของโจทก์ร่วมอันเป็นความผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2822/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความผิดฐานชิงทรัพย์เมื่อไม่มีพฤติการณ์ข่มขู่ หรือใช้กำลังประทุษร้าย
จำเลยกับพวกเข้าไปลักทรัพย์ของผู้เสียหายในเวลากลางคืนแล้วจำเลยถือมีดปลายแหลมเดินเข้าไปในห้องนอนผู้เสียหายแต่ผู้เสียหายตะโกนเรียกให้บิดาช่วยทันทีที่เห็นจำเลยจำเลยผละวิ่งหนีออกจากห้องนอนในขณะนั้นโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ใช้มีดจ้องจี้หรือแสดงท่าทีให้เห็นว่าเป็นการขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหายการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ คงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3839/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างและการจ่ายค่าชดเชย: คำสั่งเลิกจ้างไม่จำเป็นต้องเป็นลายลักษณ์อักษร พฤติการณ์หลังการบอกเลิกสำคัญ
การไล่ลูกจ้างออกจากงานอันถือว่าเป็นการเลิกจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานนั้นไม่จำต้องมีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร การที่กรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยซึ่งเป็นนายจ้างพูดกับลูกจ้างว่า 'มึงทำหมา ๆ อย่างนี้กูไล่มึงออก' ประกอบกับหลังจากพูดไล่ลูกจ้างออกจากงานแล้ว นายจ้างยังไปแจ้งความที่สถานีตำรวจกล่าวหาลูกจ้างว่าไม่ยอมออกไปจากห้องพักคนงานและลูกจ้างได้หยุดงานทั้งยังทวงถามให้นายจ้างคิดค่าชดเชยและค่าจ้างให้ด้วย พฤติการณ์ดังกล่าวย่อมถือได้ว่านายจ้างได้เลิกจ้างลูกจ้างแล้ว
กิจการและลักษณะงานของนายจ้างมิใช่กิจการต้องเสี่ยงภยันตรายอันอาจจะเกิดขึ้นได้ง่าย การทำงานต้องทำติดต่อกันทั้งกลางวันและกลางคืน ประตูหน้าต่าง ไฟฟ้าและน้ำต้องเปิดใช้ตลอดเวลา การที่ลูกจ้างไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของนายจ้างไม่ปิดประตูหน้าต่าง ไฟฟ้าและน้ำในโรงงานเพียงชั่วระยะเวลาเดียวจึงยังไม่เพียงพอที่จะถือว่าเป็นกรณีที่ร้ายแรงในอันที่นายจ้างจะไม่จ่ายค่าชดเชยแก่ลูกจ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3324/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผูกพันตามหนังสือรับสภาพหนี้ แม้ไม่มีตราบริษัท โดยพิจารณาจากพฤติการณ์การทำสัญญาและการกระทำของกรรมการผู้จัดการ
ในการติดต่อกับบุคคลธรรมดาอื่น ๆ บริษัทจำเลยที่ 1 มักจะไม่ประทับตราของบริษัท แต่เมื่อติดต่อกับหน่วยราชการจึงจะใช้ตราประทับ และเมื่อบริษัทจำเลยที่ 1 ทำสัญญาให้โจทก์รับเหมาช่วงขุดคลองส่งน้ำของกรมชลประทานกรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 1ได้ลงลายมือชื่อ แต่ไม่ได้ประทับตราบริษัท บริษัทจำเลยที่ 1 ก็ผูกพันตามสัญญา ดังนั้นการที่กรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 1 ทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้ไว้แก่โจทก์เนื่องจากโจทก์หาเงินมาให้บริษัทจำเลยที่ 1 ใช้จ่ายในงานก่อสร้างที่รับเหมาจากกรมชลประทานแม้จะมิได้ประทับตราบริษัทจำเลยที่ 1 ก็เป็นการทำแทนบริษัทหนังสือรับสภาพหนี้ดังกล่าวจึงผูกพันบริษัทจำเลยที่ 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3183/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมาทเลินเล่อในการขับรถและการมีส่วนประมาทของผู้เสียหาย ศาลพิจารณาตามพฤติการณ์
ประเด็นเรื่องฟ้องเคลือบคลุมจำเลยเพิ่งยกขึ้นในคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การเมื่อศาลชั้นต้นมิได้มีคำสั่งในเรื่องนี้ จึงเท่ากับว่าไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การ แม้โจทก์จะมิได้คัดค้าน ศาลก็ไม่รับวินิจฉัยประเด็นดังกล่าว
ผ. มารดา น. ผู้เยาว์เป็นโจทก์ฟ้องคดีแทน น. ในการสาบานตนว่าอนาถาหรือไม่ เป็นเรื่องที่จะต้องกระทำโดย ผ.
จำเลยให้การต่อพนักงานสอบสวนว่า ม. เป็นลูกจ้างของจำเลยขับรถคันที่เกิดเหตุเป็นประจำ ในวันเกิดเหตุจำเลยใช้ให้ ม. ขับรถไปบรรทุกปุ๋ย คำให้การดังกล่าวของจำเลยในระยะกระชั้นชิดกับเวลาที่เกิดเหตุ ทั้งถือได้ว่าเป็นการให้การที่เป็นปฏิปักษ์เสียประโยชน์แก่ตนเองจึงมีน้ำหนักรับฟังได้
ม. ขับรถบรรทุกเร็วเกินกว่าสภาพแห่งท้องที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางแคบชน น. จึงเป็นการประมาทเลินเล่อ แต่หาก น. ใช้ความระมัดระวังในการข้ามถนนตามสมควรก็จะไม่เกิดเหตุขึ้น นับว่า น. มีส่วนประมาทเลินเล่ออยู่ด้วย ตามพฤติการณ์ถือได้ว่า ม. ประมาทเลินเล่อมากกว่าและต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนตามส่วนแห่งการกระทำนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2754/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบเรือที่ใช้ขนของผิดกฎหมายและการลดโทษจากพฤติการณ์มอบตัว
ข้อเท็จจริงยุติแล้วว่า เรือของกลางมีระวางบรรทุกไม่เกิน 250 ตัน ใช้ในการขนยางของกลางที่ยังมิได้เสียค่าภาษี และยางเป็นของที่ต้องจำกัด ศาลสั่งริบเรือของกลางได้ โจทก์หาจำต้องบรรยายฟ้องว่าเรือของกลางมีระวางบรรทุกเท่าใดไม่ เพราะไม่ใช่องค์ประกอบของความผิด
พนักงานศุลกากรยึดเรือและยางของกลางได้โดยไม่มีตัวผู้ต้องหา ไม่มีพยานโจทก์คนใดรู้ตัวผู้กระทำผิด จำเลยเข้ามอบตัวต่อเจ้าพนักงานถึง 2 ครั้ง แม้จำเลยให้การต่อสู้คดีตลอดมาก็ถือได้ว่าเป็นการลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานเป็นเหตุบรรเทาโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ศาลลดโทษให้จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความร่วมมือในการปล้นทรัพย์: การกระทำที่ถือเป็นตัวการและบทลงโทษที่ถูกต้อง
จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ไปจอดคอยอยู่ที่ปากซอยบ้านผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 และพวก 2 คนเข้าไปปล้นทรัพย์ผู้เสียหายแล้วหนีมาขึ้นรถยนต์ของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์พาจำเลยที่ 2 และพวกหนีออกไปในลักษณะรีบร้อนเช่นนี้ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 2 ปล้นทรัพย์โดยแบ่งหน้าที่กัน จึงเป็นตัวการในความผิดฐานปล้นทรัพย์มาตรา 340 ตรี เป็นเพียงเหตุให้รับโทษหนักขึ้น มิใช่ความผิดอีกบทหนึ่งโดยเฉพาะศาลลงโทษโดยอ้าง มาตรา 340 ประกอบ มาตรา 340 ตรี
of 79